ทารกประหลาด
ฮือฮา! สาววัย 30 คลอดลูกแฝด แต่ต้องตกตะลึง คนน้องไม่มีหัว และ แขน มีเพียงส่วนลำตัว และ ขาสองข้าง ขณะเท้ามีเพียงข้างละ 3 นิ้ว ชาวบ้านแห่ตีเลขเด็ดตามเคย ...
เมื่อวันที่ 14 ต.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่ามีชาวบ้านแตกตื่น แห่เดินทางไปที่วัดน้อมนาวาส หรือ วัดบ้านกลอง ท้องที่หมู่ที่ 5 ต.ควนพัง อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช เพื่อไปดูศพของเด็กทารกแรกเกิดที่ผิดปกติ ไม่มีหัว ไม่มีแขน ญาติ ๆ ได้นำมาใส่ในกล่องพลาสติก (กล่องตู้เลี้ยงปลา) จึงเดินทางไปตรวจสอบพบประชาชนจำนวนนับพันคนเดินทางมาดูศพทารก
พบศพทารกที่บรรจุอยู่ในกล่องพลาสติกสำหรับเลี้ยงปลาขนาดยาว 50 เซนติเมตรกว้าง 20 เซนติเมตร โดยศพทารกเพศหญิงอยู่ในลักษณะท่านั่ง ที่แปลกกว่าเด็กปกติทั่วไป คือ ศพทารกไม่มีศีรษะ ไม่มีแขนทั้งสองข้าง มีเฉพาะส่วนลำตัว และขาทั้งสองข้างเท่านั้น ในขณะที่นิ้วเท้า แต่ละข้างมีเพียง 3 นิ้ว มีสะดือ และอวัยวะเพศชัดเจน อย่างไรก็ตาม ในส่วนด้านบนสุดแม้ไม่มีศีรษะ แต่ยังมีเนื้อเหลือออกมาเล็กน้อยรวมทั้งมีเส้นผมออกมาจำนวนหนึ่ง เมื่อนำมาช่างน้ำหนักดูพบว่าศพทารกน้ำหนัก 1.3 กิโลกรัม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในกล่องบรรจุศพทารกไม่ได้ปิดฝา มีการนำขวดนม ผ้าอ้อม และอุปกรณ์ สำหรับเลี้ยงเด็ก ใส่รวมไว้ด้วย และจุดธูปเทียนบูชา ชาวบ้านยังใส่เงินสดเป็นธนบัตรฉบับละ 20 50 และ ฉบับละ 100 บาท จนเกือบเต็ม พร้อมยกมือไหว้ท่วมหัว บนบานขอให้มีโชคลาภ รวมทั้งตีเป็นเลขเด็ดต่าง ๆ ไปแทงหวยในงวดวันที่ 16 ต.ค. โดยเฉพาะเลขเวลาคลอด น้ำหนักเด็กทารกประหลาดและอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องไปแทงหวยกันอย่างคึกคัก
นางปัญญา สังข์ศรี อายุ 47 ปี ย่าของทารกประหลาด เปิดเผยว่า ทารกดังกล่าวเป็นบุตรของ นายสุพัฒน์ สังข์ศิริ อายุ 32 ปี และนางสายใจ ศรีรักษา อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 40/1หมู่ 5 ต.ควนพัง อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งก่อนหน้านี้ ทั้งสองมีบุตรมาแล้ว 2 คน คนแรกเป็นผู้หญิงอายุ 13 ปี คนที่สองเป็นผู้ชาย อายุ 7 ขวบ ส่วนทารกประหลาดคนดังกล่าว นางสายใจคลอดเมื่อเวลา 09.00 น. ที่โรงพยาบาลร่อนพิบูลย์ และคลอดลูกแฝด ซึ่งคนแรกที่คลอดเป็นผู้หญิงเช่นกันน้ำหนักประมาณ 1.8 กิโลกรัม หลังจากคลอดคนแรกประมาณ 5 นาที จึงคลอดคนที่สองเป็นเพศหญิงและออกมามีความแปลกประหลาดดังกล่าว
หลังคลอดแพทย์บอกว่าเด็กเสียชีวิตมาตั้งแต่ในครรภ์มารดา แต่ตนตรวจสอบดูเบื้องตนเนื้อหนังของเด็กยังสด ๆ เป็นปกติเหมือนเด็กทารกแรกเกิดที่ยังมีชีวิต โดยมีลักษณะเหมือนยังหายใจ และมีเลือดสด ๆ ไหลจากสายสะดือและรูทวาร ตนจึงแจ้งขอนำศพหลานกลับมาเพื่อตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดน้อมนาวาส หรือวัดบ้านกลอง ชาวบ้านทราบข่าวแห่มาดู
ย่าของทารกประหลาด กล่าวต่อไปว่า การตั้งครรภ์ของนางสายใจ แม่ของเด็กนั้นได้ฝากครรภ์กับทาง รพ.ร่อนพิบูลย์ และไปพบแพทย์อย่างต่อเนื่อง โดยแพทย์ระบุกำหนดคลอดจริง ๆ ปลายเดือน พ.ย. 2552 นางสายใจ ไปอัลตราซาวที่ รพ.ร่อนพิบูลย์ ถึง 5 ครั้งไม่พบอะไรผิดปกติ และแพทย์ไม่ได้ระบุว่านางสายใจ ตั้งครรภ์ลูกแฝด โดยระบุว่ามีเพียง 1 คน และเป็นปกติเหมือนเด็กทารกในครรภ์ทั่ว ๆ ไป
ในตอนเช้าวันนี้ นางสายใจ เกิดปวดท้องคลอดบุตรอย่างรุนแรง จึงโทรศัพท์ให้รถ รพ.ร่อนพิบูลย์ มารับตัวนางสายใจไปคลอดที่ รพ. ร่อนพิบูลย์ แต่หลังจากคลอดเด็กคนแรกแพทย์พบว่ายังมีก้อนแข็ง ๆ อยู่ในท้องของนางสายใจอีก แพทย์จึงให้นางสายใจเบ่งอีกครั้ง ปรากฏว่าทารกประหลาดออกมาจากท้องของนางสายใจในลักษณะท่านั่ง เป็นเรื่องที่แปลกมาตนไม่ทราบว่าเกิดขึ้นเพราะสาเหตุใดกันแน่
นางปัญญา เล่าต่อไปอีกว่า เมื่อช่วงเทศกาลออกพรรษาที่ผ่านมา มารดาของตน ซึ่งเป็นยายของนางสายใจ และเป็นทวดของเด็กประหลาด เสียชีวิตตนจึงตั้งบำเพ็ญกุศลศพที่บ้าน ซึ่งอยู่ริมถนนในหมู่บ้าน ชาวบ้านได้ลากเรือพระผ่านบ้านของตนเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้น พระประธานที่โต๊ะหมู่บูชาในงานศพเกิดพลัดตกลงมาจนเศียรขาด แขนพระขาด ซึ่งอาจจะเป็นอาถรรพ์บางอย่าง ทำให้นางสายใจคลอดลูกแฝดและมีรูปร่างประหลาดก็เป็นได้ ตนจะตั้งศพทารกประหลาดบำเพ็ญกุศล 5 คืน หากศพไม่เน่าจะเก็บไว้ แต่หากศพเน่าจะฝังต่อไป
อย่างไรก็ตาม นพ.นพพร ชื่นกลิ่น นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวถึงลักษณะที่ปรากฏทางกายภาพของทารกเคราะห์ร้ายรายนี้ว่า ในทางวิชาการนั้น ลักษณะเช่นนี้ถือว่าเป็นลักษณะของแฝดไม่สมบูรณ์ กล่าวคือลักษณะของแฝดนั้น มาจากไข่ใบเดียวกันและไข่คนละใบ ในลักษณะเช่นนี้ไม่สามารถแยกได้ว่าเป็นไข่ใบเดียว หรือสองใบ เนื่องจากไม่สามารถดูใบหน้าได้ โดยรวมคือความไม่สมบูรณ์ของการเจริญในครรภ์นั่นเอง ดังนั้นจะเห็นได้ว่าบ่อยครั้งที่เมื่อคลอดแฝดออกมา แฝดจะตัวเล็กกว่าการตั้งครรภ์เดี่ยว ลักษณะแบบนี้เป็นเรื่องที่แปลก แต่ไม่ใช่พิสดาร เป็นเรื่องธรรมชาติที่สามารถเกิดขึ้นได้ และถ้าเด็กไม่มีช่องหายใจจึงไม่สามารถอยู่ได้ แต่ที่มีสัญญาณชีพในครรภ์นั้นเกิดจากการดำรงอยู่ของมารดาผ่านทางสายสะดือนั่นเองทั้งอาหารและออกซิเจน