พล.ต.ตกอับคิดฆ่าตัวตาย

ชีวิตรันทด “พล.ต.” อดีตรองเจ้ากรมแผนที่ทหาร วัยไม้ใกล้ฝั่ง ตาบอดสองข้าง แถมเดินไม่ได้ สุดเครียด ตั้งใจคิดสั้นฆ่าตัวตายหนีปัญหา จะเข็นรถวีลแชร์ โดดลงคลองภาษีเจริญ

แต่มีชาวบ้านช่วยเหลือไว้ได้ เปิดใจทั้งน้ำตา ยอมสละชีพหวังได้เงินสงเคราะห์ทหาร มาให้ลูกสาวที่ต้องกู้หนี้นอกระบบมาเลี้ยงดู ขณะที่ลูกสาวมีอายุถึง 63 ปีแล้ว วอนผู้ใจบุญหรือหน่วยงานเกี่ยวข้อง ยื่นมือช่วยดูแลบ้าง ก่อนหน้านี้เคยไปร้องขอความช่วยเหลือ แต่ก็ไม่ได้รับการเหลียวแล

เรื่องราวของนายพลทหารนอกราชการครั้งนี้เปิดเผยเมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 11 ต.ค. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบ

บริเวณใต้สะพานข้ามคลองภาษีเจริญ ซอยเพชรเกษม 23 แขวงปากคลอง เขตภาษีเจริญ หลังได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า มีนายทหารเกษียณอายุราชการเครียดปัญหาชีวิตครอบครัว พยายามจะฆ่าตัวตายด้วยการเข็นรถนั่งตกคลอง จึงรีบเดินทางไปตรวจสอบ พบชาวบ้านกำลังช่วยกันดูแล พล.ต.เหรียญ หิรัญบำรุง อายุ 84 ปี สภาพใส่เสื้อกล้าม กางเกงกีฬา นั่งร่ำไห้อยู่บนรถเข็นวีลแชร์ โดยมีนางสุนันทา หิรัญบำรุง อายุ 63 ปี บุตรสาวคอยปลอบโยนให้สงบสติอารมณ์อีกคน
   
พล.ต.เหรียญ กล่าวทั้งน้ำตาว่า เคยรับราชการเป็นอดีตรองเจ้ากรมแผนที่ทหาร

เกษียณอายุมานานแล้วต่อมาเริ่มป่วยเป็นเบาหวาน จนกระทั่งตามองไม่เห็นและเดินไม่ได้จนถูกภรรยาใหม่ทิ้งให้กลับมาอยู่บ้านภรรยาเก่าแต่ก็มีปัญหาตลอด ยังดีที่มีลูกสาวช่วยดูแล ก็รู้สึกสงสารลูกมากที่ต้องมาแบกภาระต้องไปกู้หนี้นอกระบบมาเลี้ยงรักษาตน ทั้งที่ตัวเองก็เริ่มแก่แล้วเช่นกันทำให้ตนอยากจะฆ่าตัวตายเผื่อลูกสาวจะได้นำเงินจากการสงเคราะห์ทางทหารไปใช้หนี้สินที่นำมาเลี้ยงดูตน
   
ด้านนางสุนันทา เปิดเผยว่า พ่อจบโรงเรียนเสนาธิการทหารรุ่น 2 ก่อนจะรับราชการในกรมแผนที่ทหาร

ส่วนตนเป็นลูกสาวที่เกิดกับภรรยาเก่าซึ่งแยกทางกับพ่อไปกว่า 40 ปีแล้ว ถึงแม้คุณพ่อจะไปมีครอบครัวใหม่แต่ก็ยังส่งเสียเลี้ยงดูลูก ๆ ตลอด กระทั่งปี พ.ศ. 2550 ที่ผ่านมา ภรรยาใหม่คุณพ่อโทรศัพท์เรียกให้มารับตัวคุณพ่อที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง เนื่องจากป่วยช่วยตัวเองไม่ได้ตาบอดทั้งสองข้างต้องนั่งรถเข็น เมื่อไปถึงก็พบคุณพ่ออยู่คนเดียว พอติดต่อสอบถามไปยังบ้านที่คุณพ่อซื้อไว้ย่านบางกรวย จ.นนทบุรี ทราบว่าภรรยาใหม่ขายให้คนอื่นไปแล้ว รวมทั้งเงินทองก็ไม่มีอะไรเหลืออยู่เลย สุดท้ายจึงต้องรับกลับมาอุปการะ
   
นางสุนันทา กล่าวต่อว่า แต่เมื่อพาพ่อกลับมาบ้านด้วย ทำให้มารดาของตนซึ่งก็เป็นภรรยาเก่าของคุณพ่อ ปัจจุบันอายุ 82 ปี มีอาการทางประสาทอยู่แล้วรู้เรื่องก็ไม่พอใจอย่างมาก

ทำให้มีปัญหาระหองระแหงกัน บางครั้งถึงขั้นจะพยายามทำร้ายพ่อซึ่งมองไม่เห็น ตนก็ไม่รู้จะทำอย่างไรเพราะทั้งคู่ก็  คือผู้ให้กำเนิดก็หาทางแก้ปัญหามาตลอด     ปัจจุบันตนอายุมากขึ้นมีอาชีพรับจ้างทำงาน  เล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ทำงานไม่ค่อยไหว ค่าใช้   จ่ายไม่พอต้องกู้หนี้นอกระบบไปแล้วกว่า 2  แสนบาทเพื่อใช้จ่ายในเรื่องรักษาพยาบาล
   
ก่อนหน้านี้เคยไปขอความช่วยเหลือจากทั้งศูนย์ประชาบดี บ้านบางแค หรือแม้กระทั่งสำนักนายกฯแต่ก็ไม่ได้รับการดูแล

มีเพียงแค่ รพ.พระมงกุฎฯที่ยังช่วยเหลือในการรักษาพยาบาลเบื้องต้นให้ ล่าสุดมารดามีอาการคลุ้มคลั่งถึงขั้นพยายามจะใช้มีดแทง  พ่อ ช่วงนี้ตอนกลางวันจำเป็นต้องพาคุณพ่อ  หลบออกมาอยู่ใต้สะพาน รอช่วงค่ำหากมารดานอนแล้วถึงจะพากลับเข้าบ้าน แต่วันนี้พ่อเครียดมากพยายามจะฆ่าตัวตายหนีปัญหา โชคยังดีมีชาวบ้านมาช่วยเกลี้ยกล่อม อย่างไรก็ดีตนขอแค่อยากให้หน่วยงานรัฐหรือบรรดาผู้ใจบุญ ยื่นมือมาช่วยอุปการะรับคุณพ่อไปดูแลรักษาเท่านั้น.