เมื่อวันที่ 6 ต.ค. ที่กระทรวงวัฒนธรรม นายธีระ สลักเพชร รมว.วัฒนธรรม (วธ.) เปิดเผยว่า
ตนได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่าการจำหน่ายนิตยสารวาบหวิวฉบับหนึ่ง ตามแผงหนังสือทั่วไป ซึ่งนิตยสารดังกล่าวมีรูปภาพหญิงสาวแสดงท่าทางยั่วยวนทางเพศ แต่งชุดว่ายน้ำ บางภาพก็ไม่ใส่ชุดชุดชั้นใช้เพียงฝ่ามือปิดหน้าอกไว้เท่านั้น นอกจากนี้ในหน้าปกหนังสือดังกล่าวยังมีการระบุว่า อัลบั้มนางแบบสุดเซ็กซี่ พร้อมวีซีดีนางแบบในลีลาน่ารักสดใส เซ็กซี่ เร้ารึงใจ พร้อมทั้งมีการระบุสัดส่วน ชื่อเล่น ของนางแบบอย่างชัดเจน ตนจึงเกรงว่า จะกลายเป็นช่องทางใหม่ของการขายบริการทางเพศ ที่มาในรูปแบบนิตยสาร
นายธีระ กล่าวต่อว่า
ภาพที่น่าเป็นห่วงที่สุด คือมีการนำการแต่งกายชุดไทยมาแต่งในเชิงวาบหวิว อีกทั้งยังมีการนำโฆษณาภาพวาบหวิว เช่น หญิงสาวกำลังทำท่าทางกินกล้วยด้วยท่าทางยั่วยวน การโฆษณาชวนไปเซ็กทัวร์ จัดเซ็กส์ทริป เทคนิคถึงจุดสุดยอด เป็นต้น นอกจากนี้ภายในนิตยสารดังกล่าวยังมีการแนบซีดีมากับหนังสือด้วย ซึ่งเมื่อเปิดดูแล้วเห็นภาพเบื้องหลังการถ่ายแบบของ 2 นางแบบ ขณะถ่ายชุดว่ายน้ำ บางคนถึงกับถอดเสื้อเอามือปิดหน้าอกและเขย่าหน้าอกไปมาก็มี มีการเล่นเป่ายิงฉุบแล้วให้ผู้แพ้ถอดเสื้อผ้าออกทีละชิ้น เมื่อตนเห็นภาพดังกล่าวแล้วถึงกับรู้สึกตกใจที่นางแบบไม่มีความรักนวลสงวนตัวของความเป็นผู้หญิง และซึ่งมองว่านิตยสารเล่มดังกล่าว เป็นสิ่งไม่เหมาะสม หากปล่อยไว้จะกลายเป็นเรื่องธรรมดาของสังคมไทย เพราะสามารถวางขายตามแผงหนังสือทั่วไปได้ เด็กและเยาวชนซื้ออ่านได้ง่ายเกินไป
“จากการตรวจสอบการจดแจ้งการพิมพ์หัวหนังสือ จากสำนักหอสมุดแห่งชาติ กรมศิลปากร พบว่า หนังสือเล่มดังกล่าวจดแจ้งในนามหนังสือพิมพ์ข่าว เพลง มาตั้งแต่ปี 2543 มีวัตถุประสงค์เพื่อ รวบรวมเนื้อหาข่าวเกี่ยวกับวงการเพลงต่างๆ ออกเป็นรายสัปดาห์ แต่ปรากฏว่า ปัจจุบันมีการปรับปรุงรูปแบบเป็นนิตยสารข่าวเพลง ซึ่งมีเนื้อหาไม่ตรงกับวัตถุประสงค์ โดยมีภาพนางแบบแต่งกายวาบหวิวยั่วยุอารมณ์ทางเพศ ดังนั้นตนจึงสั่งการให้ ศูนย์เฝ้าระวังทางวัฒนธรรม ดำเนินการรวบรวมเอกสารข้อมูลแจ้งความดำเนินคดีทางกฎหมาย” รมว.วัฒนธรรม กล่าว
นายธีระ กล่าวอีกว่า
หากตรวจสอบว่าผิดวัตถุประสงค์การจดแจ้งจริง ตนจะสั่งการให้สำนักหอสมุดแห่งชาติ กรมศิลปากร ดำเนินการเพิกถอนหัวหนังสือดังกล่าวทันที อย่างไรก็ตามขณะนี้วธ.กำลังเร่งดำเนินการจัดระเบียบสื่อสิ่งพิมพ์ และจะทำการสำรวจตามแผงหนังสือต่างๆ เพื่อเตรียมการจัดระดับความเหมาะสม (เรตติ้ง) ของสื่อสิ่งพิมพ์ อีกทั้งจะให้การจดแจ้งการพิมพ์มีความรัดกุมมากขึ้น และมีการตรวจสอบวัตถุประสงค์ได้ และ วธ.จะดำเนินการแก้ไขช่องโหว่ของกฎหมายให้มีความรัดกุมมากขึ้นอีกด้วย