เตือนน้ำมันปาล์มเติมรถ-ถึงพัง!

"เสี่ยปาเจโร่"ยังยันใช้แทนดีเซลได้ดี


ผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องยนต์เตือนใช้น้ำมันปาล์มเติมรถดีเซลอาจประสบปัญหาเครื่องน็อกได้ ชี้เหตุเพราะน้ำมันปาล์มจะหนืดและเหนียวกว่าดีเซลเยอะ ยกเว้นผ่านการสกัดเป็น"ไบโอดีเซล"ก่อน "อ.พัฒนเดช อาสาสรรพกิจ"เกจิรถยนต์ยังงงเติมไปได้ยังไง เพราะทางวิศวกรรมยานยนต์ไม่น่าทำได้ เพราะน้ำมันจะเป็นไข ทำให้เกิดปัญหาเรื่องหัวฉีดและไส้กรองตัน ยิ่งหากเป็นเครื่องรุ่นใหม่แบบ"คอมมอนเรล"ห้ามเด็ดขาด ด้านเสี่ยอัญมณีที่ใช้น้ำมันปาล์มเติมรถปาเจโร

ยังยันซื้อน้ำมันปาล์มที่ใช้ทอดอาหารแต่ไม่ผ่านการใช้งานมาเติมเข้าไปได้โดยตรง เพราะรถตัวเองไม่เคยมีปัญหายกเว้นจะสตาร์ตติดยากขึ้นเท่านั้น แต่ก็เตือนห้ามใช้กับรถยนต์ระบบไดเร็กต์อินเจ็กชั่น หรือคอมมอนเรล ด้านเจ้าของรถดีเซลที่ทราบข่าวแห่พิสูจน์กับตาแน่นบ้าน


"เตือน ใช้ได้แต่นานไปหัวฉีดอุดตัน เครื่องน็อก"


จากกรณีนายปรีชา จิตพรรณวรรณ อายุ 31 ปี นักธุรกิจอัญมณีใน จ.ศรีสะเกษ ระบุว่าสามารถใช้น้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ ที่ใช้ทำอาหารมาเติมรถยนต์ยี่ห้อมิตซูบิชิ ปาเจโร ราคาคันละกว่า 1 ล้านบาท แทนน้ำมันดีเซล 100% และสามารถวิ่งได้ปกติเหมือนรถเติมน้ำมันดีเซล โดยตอนแรกทดลองเติมผสมกันจนเมื่อเห็นว่าเครื่องยนต์ไม่มีปัญหาจึงทดลองใช้น้ำมันปาล์มอย่างเดียว และก็ไม่มีปัญหาเช่นกัน แถมยังประหยัดเงินเนื่องจากราคาน้ำมันปาล์มนั้นถูกกว่าดีเซลตกลิตรละ 5-6 บาท อีกทั้งควันท่อไอเสียก็น้อยลงและมีกลิ่นหอมอีกด้วยนั้น

เมื่อวันที่ 7 ก.ย. นายวัลลภ เตียศิริ ผู้อำนวยการสถาบันยานยนต์ กล่าวถึงกรณีนายปรีชาว่า จากการตรวจสอบที่ผ่านมาสามารถใช้น้ำมันพืชหรือน้ำมันมะพร้าวเติมลงไปในรถยนต์ดีเซลได้ทันที แต่ต้องระวังเพราะน้ำมันดังกล่าวไม่ใช่น้ำมันที่ใช้เติมรถยนต์ดีเซลโดยตรง มีความเหนียว และหนืดสูงกว่าดีเซลหลายเท่า เมื่อใช้ไประยะเวลาหนึ่งจะเกิดปัญหาทำให้หัวฉีดอุดตัน เกิดผลเสียทำให้เครื่องยนต์น็อกได้ ถ้าไปน็อกตามท้องถนน หรือกำลังเข้าโค้งแล้วเครื่องน็อกจะเกิดอันตรายกับตัวเองและผู้อื่น เกิดผลเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินได้


"แนะใช้ไบโอดีเซลดีกว่า"


นายวัลลภกล่าวว่า สถาบันยานยนต์หารือกับสถาบันจากญี่ปุ่นถึงการใช้ไบโอดีเซลกับเครื่องยนต์ดีเซล พบว่าขณะนี้รถยนต์ดีเซลรุ่นใหม่ปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีของเครื่องยนต์มาใช้ระบบ "คอมมอลเรล" ทำให้ประหยัดเชื้อเพลิง แต่เครื่องยนต์ตัวนี้ไวต่อเชื้อเพลิงแปลกปลอม ดังนั้นอาจมีปัญหาต่อเครื่องยนต์ได้ ซึ่งตามปกติเครื่องยนต์ดีเซลสามารถใช้น้ำมันปาล์ม น้ำมันพืช หรือน้ำมันที่ทอดกล้วยแขกเติมลงไป ซึ่งจะสตาร์ตติด วิ่งได้ แต่ความหนืดของน้ำมันดังกล่าวจะทำให้เครื่องยนต์เสื่อมสภาพ เกิดการอุดตัน ดังนั้นการนำน้ำมันปาล์มมาเติมรถยนต์จึงควรนำไปผ่านการสกัด หรือสังเคราะห์เอาความหนืดออก ซึ่งเรียกกันว่าไบโอดีเซล

"รถปาเจโร่ที่เติมน้ำมันพืชไม่ใช่เรื่องแปลก และเมื่อหลายปีก่อนก็มีชาวบ้านใช้น้ำมันมะพร้าวมาเติมรถยนต์และเปิดปั๊มขายเป็นเรื่องเป็นราว เพราะราคาน้ำมันดีเซลแพงขึ้น แต่อยากให้นึกถึงความปลอดภัย เพราะรถยนต์เกี่ยวข้องกับความปลอดภัย ถ้าเครื่องยนต์เป็นอะไรไปจะได้ไม่คุ้มเสีย ซึ่งถ้าไม่เดือดร้อนและพอมีเงินบ้างก็น่าจะเติมตามปั๊มน้ำมัน ซึ่งปตท.และบางจากก็เปิดขายไบโอดีเซลบ้างแล้ว" นายวัลลภกล่าว และว่า รถยนต์ดีเซลในไทยมีเทคโนโลยีหลายแบบ รถดีเซลที่มีอายุใช้งาน 5-10 ปีอาจสามารถนำน้ำมันพืชมาเติมแทนดีเซลได้ แต่ไม่แนะนำให้ใช้ ทางที่ดีควรนำมาเติมในเครื่องยนต์รอบต่ำ อย่างเครื่องยนต์ที่ใช้ในการเกษตร เครื่องสูบน้ำ เพราะถ้ามีปัญหาก็จะไม่เกิดผลเสียกับใคร


"ทางเทคนิคเป็นไปไม่ได้ เพราะอากาศเย็นน้ำมันจะเป็นไข"


ด้านนาวาเอกสมัย ใจอินทร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านไบโอดีเซลกรมอู่ทหารเรือ กล่าวว่า ไม่แนะนำให้ประชาชนทั่วไปนำน้ำมันพืชมาเติมในรถยนต์ เพราะจะเกิดปัญหาต่อหัวฉีด มีผลเสียต่อเครื่องยนต์ การนำน้ำมันปาล์ม หรือน้ำมันพืชมาใช้ในเครื่องยนต์ต้องผ่านกระบวนการที่ทำให้โมเลกุลเล็กลง ซึ่งมีคุณสมบัติใกล้เคียงกับน้ำมันดีเซลมาก สามารถใช้ทดแทนน้ำมันดีเซลได้โดยตรง เพราะสกัดเอากลีเซอรีนที่มีความหนืดออกไปแล้ว

นายพัฒนเดช อาสาสรรพกิจ ผู้เชี่ยวชาญด้านรถยนต์และเครื่องยนต์ กล่าวว่า ในแง่ของเทคนิคเครื่องยนต์ การนำน้ำมันปาล์ม 100 เปอร์เซ็นต์มาทดแทนพลังงานเชื้อเพลิงไม่มีทางเป็นไปได้ ซึ่งไม่ได้หมายความว่านายปรีชาโกหก แต่ในแง่เทคนิคจริงๆ แล้วยืนยันว่าเป็นไปไม่ได้แน่นอน เนื่องจากน้ำมันพืชมีค่าความเป็นไขสูง มีความชื้น จะทำให้น้ำมันเป็นไขโดยเฉพาะเมื่ออากาศเย็น จะทำให้หัวฉีดอุดตันไส้กรองดีเซลอุดตัน


"ไม่คุ้ม เครื่องยนต์จะพังเสียหาย"


และเกิดความเสียหายต่อเครื่องยนต์ ซึ่งที่ผ่านมาเคยนำน้ำมันพืชมาทดลองใช้แทนน้ำมันเชื้อเพลิง โดยนำน้ำมันพืชสัดส่วนผสมกับน้ำมันก๊าด และใช้กับเครื่องยนต์ที่มีระบบย่อยง่ายๆ หรือเครื่องยนต์เชิงเดี่ยว เช่น เครื่องยันมาร์ คูโบต้า ซึ่งมีรูหัวฉีดกว้างพอ ผลคือพอใช้ได้ ดังนั้นหากใช้น้ำมันพืช 100 เปอร์เซ็นต์ กับเครื่องยนต์รูหัวฉีดเล็ก จึงไม่น่าเป็นไปได้

"ถ้าไปถามบริษัทรถทุกแห่งก็ต้องตอบเหมือนกันว่า ไม่น่าเป็นไปได้ เพราะในแง่ครื่องยนต์ของรถยนต์มีความสลับซับซ้อนมากกว่าเครื่องเชิงเดี่ยว เพราะเมื่อทันทีที่น้ำมันพืชผ่านเครื่องกรองดีเซลไม่ได้เครื่องยนต์จะขัดข้อง ถ้าจะให้เป็นไปได้คงต้องผ่านกรรมวิธีมาก่อน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะใช้ได้ 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะค่าออกเทนของน้ำมันปาล์มยังไม่สูงพอที่ทำให้จุดระเบิดได้ นอกจากนี้ความข้นของน้ำมันปาล์มก็ทำให้ไม่สามารถผ่านหัวฉีดออกมาเป็นละอองได้ด้วย" นายพัฒนเดชกล่าว


"แห่พิสูจน์ ยันใช้น้ำมันปาล์มโดยไม่ผ่านกระบวนการใดๆ"


นายพัฒนเดชกล่าวอีกว่า ส่วนที่นายปรีชานำน้ำมันปาล์ม 100 เปอร์เซ็นต์เติมแทนน้ำมันดีเซลโดยเครื่องยนต์ไม่มีปัญหานั้น คงไม่ใช่เรื่องโกหก แต่ตนยังยืนยันว่า เคยมีการนำน้ำมันพืชมาทดแทนน้ำมันเชื้อเพลิง 100 เปอร์เซ็นต์เช่นกัน แต่น้ำมันพืชนั้นผ่านกรรมวิธีสกัดความชื้น ลดโอกาสการเกิดไข ทั้งยังปรุงแต่งสารอีกจำนวนหนึ่ง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดคราบเขม่าซึ่งจะส่งผลต่อเครื่องยนต์ขึ้น ส่วนกรณีของนายปรีชาที่ยังคงใช้รถยนต์ได้ตามปกตินั้น อาจเป็นเรื่องทางวิทยาศาสตร์ที่จะสามารถพิสูจน์ทราบได้ว่าเป็นเพราะอะไร แต่ในแง่วิศวกรรมยานยนต์ยืนยันว่าเป็นไปไม่ได้แน่นอน

วันเดียวกันผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านนายปรีชา เลขที่ 436-37 ถนนกลางเมือง จ.ศรีสะเกษ พบว่ามีชาวบ้านจำนวนมากที่ทราบข่าวการนำน้ำมันปาล์มมาเติมเครื่องยนต์ดีเซล เดินทางมาขอดูรถและสอบถามรายละเอียดว่าต้องปรับแต่งเครื่องยนต์อย่างไร หรือต้องนำน้ำมันปาล์มไปผ่านกรรมวิธีอะไรอีกหรือไม่ นายปรีชากล่าวยืนยันว่า น้ำมันปาล์มที่ใช้เติมรถยนต์ของตนไม่ได้ผ่านกรรมวิธีอะไร หรือต้องผสมอะไรเลย เพียงแต่ต้องเป็นน้ำมันสะอาดไม่ผ่านการใช้งาน โดยซื้อมาเป็นขวดใหญ่ๆ แล้วเติมใส่รถได้ทันที


"เสียอย่างเดียว สตาร์ดติดยาก"


"สำหรับน้ำมันปาล์มที่จะนำมาใช้นั้นจะเป็นยี่ห้อใดก็ได้ แต่ไม่ควรจมีราคาถูกจนเกินไป เพราะว่าหากน้ำมันปาล์มราคาถูกมากจะทำให้มีไขมันสูง ซึ่งอาจจะส่งผลต่อเครื่องยนต์ดีเซลได้ จากการที่ใช้น้ำมันปาล์มแทนดีเซลมานานหลายเดือนก็ไม่มีปัญหากับรถปาเจโรแต่อย่างใดทั้งสิ้น ปกติผมจะซื้อน้ำมันปาล์มมาตุนไว้ครั้งละ 15 หีบ หีบละ 300 บาท โดย 1 หีบจะมีน้ำมันประมาณ 13.75 ลิตร" นายปรีชากล่าว และว่า ขณะนี้น้ำมันปาล์มเริ่มที่จะขาดตลาดแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งร้านขายส่งยักษ์ใหญ่ทั้งหลาย เพราะว่าประชาชนที่ใช้น้ำมันดีเซลเริ่มที่จะหันมาใช้น้ำมันปาล์มเติมรถมากขึ้น โดยน้ำมันปาล์มราคาลิตรละ 20-22 บาท ขณะที่น้ำมันดีเซลลิตรละ 28 บาท

นายปรีชายังกล่าวด้วยว่า สำหรับข้อเสียที่เป็นปัญหาเพียงเล็กน้อยก็คือเมื่อใช้น้ำมันปาล์มเติมรถยนต์แล้วจะสตาร์ตติดยาก ต้องมีการใช้เวลาเพียงเล็กน้อยในการเผาหัวเสียก่อนจึงจะสตาร์ตติดได้ แต่ว่าเมื่อใช้น้ำมันปาล์มแล้วจะทำให้เครื่องยนต์เดินเงียบและไม่มีเขม่าควันดำ ซึ่งการใช้น้ำมันปาล์มนี้จะต้องใช้กับเครื่องยนต์ดีเซลเท่านั้น และต้องเป็นน้ำมันปาล์มที่ยังไม่ได้ใช้งาน ซึ่งน้ำมันปาล์มจะเป็นน้ำมันยี่ห้ออะไรก็ได้ แต่ไม่เหมาะที่จะใช้กับเครื่องไดเร็กต์อินเจ็กชั่น หรือเครื่องยนต์คอมมอนเรล ยิ่งหากเป็นรถจำพวกรถไถนาเดินตาม รถอีแต๋น ซึ่งเครื่องยนต์รอบต่ำ จะสามารถใช้งานได้ดีมากทีเดียว


แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ข่าวสด

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์