บิณฑบาตข้ามเขตพระควงหมัดใส่กันกลางตลาดสด


       พระสงฆ์ ในจ.พิษณุโลก อาละวาดชกต่อยกันกลางตลาดสด ขณะออกบิณฑบาต จนชาวบ้านต้อง โทรศัพท์แจ้งตำรวจ สุดท้ายเจ้าคณะตำบล ตักเตือน ห้ามบิณฑบาตข้ามเขต ...


        เมื่อเวลาประมาณ 07.15 น. วันนี้ (18 ก.ย.) ศูนย์วิทยุ 191 พิษณุโลกรับแจ้งทางโทรศัพท์จาก นางทัศนา สุขเกษม อายุ 43 ปี บ้านเลขที่ 2/3 ถนนวิสุทธิ์กษัตริย์ ต.ในเมือง อ.เมืองพิษณุโลก แม่ค้าขายขนมจีนในตลาดเทศบาล 6 หรือ ตลาดสดร่วมใจ (อาคาร 1) ตั้งอยู่บริเวณหน้าสถานีรถไฟพิษณุโลก ว่า มีพระภิกษุเมาสุราอาละวาดชกต่อยกัน จึงวิทยุแจ้งให้ ร.ต.ท.ปฏิพล พ่วงเฟื่อง รอง สวป.สภ.เมืองพิษณุโลก พร้อมกับพวกไประงับเหตุ โดยนางทัศนา ได้ชี้ให้จับกุมตัว พระปทุม อานันโท อายุ 70 ปี ที่เดินสะพายย่ามถือไม้เท้าอยู่ในตลาด พร้อมให้การว่า พระปทุม เป็นผู้ที่ก่อเหตุชกต่อย พระวิเชียร อติวีโร อายุ 64 ปี พระลูกวัดวัดใหม่อภัยราม อยู่ในเขตเทศบาลนครพิษณุโลก ขณะกำลังเดินบิณฑบาตอยู่ในตลาดเช่นทุกวันที่ผ่านมา แต่ตนและแม่ค้าในตลาดได้ช่วยกันห้ามปรามจนแยกย้ายจากกัน พวกแม่ค้าทุกคนทนพฤติกรรมของพระปทุมไม่ได้ เพราะพูดจาไม่เหมาะสมกับการเป็นพระ หากใครไม่ทำบุญด้วยก็จะต่อว่า โดยใช้คำพูดที่หยาบคาย จึงให้ตนโทรศัพท์แจ้งตำรวจดังกล่าว ร.ต.ท.ปฏิพล จึงนิมนต์พระสงฆ์ทั้ง 2 รูปไปที่ สภ.เมืองพิษณุโลก

         สอบถามเบื้องต้น พระปทุม ให้การว่า ตนไม่ได้กินเหล้าตามที่พวกแม่ค้ากล่าวหา เนื่องจากตนจะพูดเสียงอ้อแอ้คล้ายคนเมามาตั้งแต่เกิด เลยทำให้มีบางคนเข้าใจว่ากินเหล้า และตนบวชมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2528 เป็นพระลูกวัด อยู่ที่วัดสันติวัน บ้านหมู่ 3 ต.บึงพระ อ.เมืองพิษณุโลก ทุกเช้าจะมาบิณฑบาตที่ตลาดเทศบาล 3 หรือ ตลาดใต้ และตลาดสดร่วมใจ โดยใช้ย่ามแทนบาตร เพราะมือข้างซ้ายเป็นอัมพฤกษ์ ส่วนมือข้างขวาก็ต้องถือไม้ตะพดเพื่อใช้เป็นไม้เท้า เพราะตนชราแล้วเดินไม่ค่อยคล่อง และทุกวันก็จะเจอกับพระวิเชียร ที่ชอบขู่ว่าจะแจ้งตำรวจจับตน ก็ไม่รู้ว่าจะให้จับเรื่องอะไร และตนก็ไม่ได้ชกต่อยพระวิเชียร

         ทางด้านพระวิเชียร ให้การว่า วันนี้พอเจอหน้ากันเลยถามว่าเป็นพระวัดไหน จู่ ๆ พระปทุมก็รำมวยใส่ เลยยกมือปกป้องแล้วหันหลังเดินหนี พระปทุมยังพยายามจะใช้ไม้ตะพดไล่ตีอีก แต่ไม่ถูก พวกแม่ค้าในตลาดเลยเข้าห้ามปราม และตะโกนไล่พระปทุม ก่อนแจ้งตำรวจให้มาช่วยระงับเหตุ เพราะเกรงว่าพระปทุมจะทำร้ายตนอีก และไม่ขอแจ้งความเอาเรื่องใด ๆ แต่ขอให้พระปทุมสึก เพราะทำให้วงการศาสนาเสื่อมอย่างยิ่ง หากมีพระที่ประพฤติตนเช่นนี้

          พระปทุม กล่าวว่า สึกก็ได้เพราะมีเงินเป็นล้านที่ได้มาจากการขายที่ดินมรดก จากนั้นก็หยิบสมุดบัญชีธนาคารต่างๆ จำนวน 4 เล่ม ออกมาโชว์ มีตัวเลขปรากฏในบัญชีรวมแล้วกว่า 1 ล้านบาท เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงพาพระปทุมไปพบ พระครูสุนทรกิตวิธาร เจ้าคณะตำบลอำเภอเมืองเขต 2 และเจ้าอาวาสวัดใหม่อภัยยาราม เพื่อให้ทำการสึก พระครูสุนทรกิตวิธาร ได้สอบถามและอบรมว่ากล่าวพระปทุมนานกว่า 10 นาที จึงให้เจ้าหน้าที่ตำรวจพาไปตรวจสอบใบสุทธิที่พระปทุมบอกว่าอยู่ที่กุฏิภายในวัดสันติวัน หากมีใบสุทธิถูกต้องก็ให้เจ้าอาวาสวัดดำเนินการตามความเหมาะสม และกล่าวคาดโทษกับพระปทุมว่า อย่าเข้ามาก่อเหตุวุ่นวายหรือบิณฑบาตในตลาดร่วมใจและตลาดใต้อีก และอย่ามาให้เห็นหน้าโดยเด็ดขาด หากไม่เชื่ออาจจะมีเคราะห์ซ้ำกรรมซัดเช่นพระภิกษุรูปอื่นที่ไม่เชื่อฟัง เพราะบาปกรรมสมัยนี้ไม่ต้องรอถึงชาติหน้า และหลังจากตำรวจไปตรวจสอบแล้วพบว่าพระปทุมมีใบสุทธิและเป็นพระลูกวัดวัดสันติวันจริง จึงให้เจ้าอาวาสวัดดำเนินการตามวินัยสงฆ์ต่อไป


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์