"ดีเอสไอ"แนะใช้สติกันตกเป็นเหยื่อแชร์ลูกโซ่
ที่โรงแรมรามาการ์เดนส์ วันนี้(14 ก.ย.)ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษ
(ดีเอสไอ) ร่วมกับสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ จัดกิจกรรมการเผยแพร่องค์ความรู้เกี่ยวกับอาชญากรรมคดีพิเศษ “ทำอย่างไร ไม่ตกเป็นเหยื่อแชร์ลูกโซ่” โดยมีนายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานเปิดงาน และมีผู้เข้าร่วมงานกว่า 200คน ทั้งข้าราชการ อาสาสมัครยุติธรรม สื่อมวลชนและประชาชนทั่วไป ด้าน พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันท์ รองอธิบดีดีเอสไอ และโฆษกดีเอสไอ เปิดเผยว่า ตั้งแต่ปี 2549-2551 ดีเอสไอได้รับแจ้งจากผู้หลงเชื่อตกเป็นเหยื่อขบวนการแชร์ลูกโซ่ ให้ลงทุนในสินค้าและบริการต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก คิดเป็นมูลค่าความเสียหายกว่า 1,500 ล้านบาท ตั้งแต่สินค้าเกษตร เช่น แชร์ข้าวสาร แชร์ยางพารา ไปจนถึงแชร์รถยนต์ แชร์ทองคำ และรูปแบบการขายบริการ เข้าพักโรงแรมรีสอร์ท ซึ่งเป็นการฉ้อโกงในลักษณะแชร์ลูกโซ่ นำเงินลงทุนจากรายใหม่ไปจ่ายให้กับรายเก่า หมุนเวียนไปเรื่อย ๆ ไม่มีการทำธุรกิจจริง สินค้าที่นำมาขายก็ไม่มีคุณภาพ หรือเป็นสินค้าที่อ้างชื่อขึ้นมาเฉย ๆ
“จากสถิติที่ผ่านมา ที่ดีเอสไอทำสำนวนสอบสวนผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับการหลอกลวงประชาชนที่มีลักษณะเป็นแชร์ลูกโซ่ ในรอบ 2 ปีที่ผ่านมา มีมูลค่าความเสียหาย 1,500 ล้านบาท แต่ยังมีอีกมากที่อายไม่กล้ามาแจ้งเรื่อง ที่หลอกลวงมีข้าวสาร ยางพารา น้ำมัน กลุ่มเป้าหมายมีทุกพื้นที่ ไม่เฉพาะชาวไร่ชาวนาที่เป็นเกษตรกร ข้าราชการ พ่อค้า แม่ค้า พนักงานบริษัทเอกชน ก็ถูกหลอกเหมือนกัน” โฆษก ดีเอสไอ กล่าว พร้อมกับแนะนำข้อพึงระวังในการตกเป็นเหยื่อแชร์ลูกโซ่ ว่า ให้ข้อเสนอผลตอบแทนที่สูงเกินกว่า ร้อยละ 10-15 ได้ผลตอบแทนรวดเร็ว ฉะนั้นขอให้ใช้สติสัมปชัญญะสำนึกระงับจิตใจ เพราะส่วนมากแล้ว พฤติการณ์เหล่านี้จะนำมาซึ่งการหลอกลวงให้ลงทุน หมุนเวียนกันไปเรื่อย ๆ ถ้าไม่มีรายใหม่ การจ่ายเงินก็จะสะดุด ขณะที่ ดีเอสไอ ได้เปิดตัวหนังสือ ทำอย่างไรไม่ตกเป็นเหยื่อแชร์ลูกโซ่ “หายนะ เหยื่อแชร์ลูกโซ่” ถูกหลอก เพราะอยากรวย จัดพิมพ์จำนวน 3,500เล่ม เพื่อแจกจ่ายให้กับประชาชน และบอกต่อกันไปสำหรับผู้ที่อ่านแล้ว โดยในหนังสือจะมีข้อมูลการถูกหลอก การตรวจสอบความจริงกับหน่วยงานก่อนลงทุน กฏหมายที่เกี่ยวข้องฯลฯ.