กทม.10 ก.ย.- กทม. ร่างข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่องการควบคุมการนำช้างมาหารายได้ในเขต กทม. แล้ว รอผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายพิจารณาให้สามารถบังคับใช้ได้ครอบคลุม จากนั้นช่วงมกราคม 2553 จะนำเข้าที่ประชุมสภา กทม. พิจารณาประกาศในราชกิจจานุเบกษาบังคับใช้ พร้อมชวน อปท. และเมืองท่องเที่ยวทั่วประเทศ ดำเนินการลักษณะเดียวกับ กทม. เพื่อปัญหาจะได้แก้ไขอย่างยั่งยืน
นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (รองผู้ว่าฯ กทม.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการตราข้อบัญญัติ กทม.
เรื่อง การควบคุมการนำช้างมาหารายได้ในเขต กทม. ตามโครงการช้างยิ้ม ว่า เหตุผลที่ กทม.จำเป็นต้องตราข้อบัญญัติ กทม. เรื่องการควบคุมการนำช้างมาหารายได้ในเขต กทม. เนื่องจากปัจจุบันมีผู้นำช้างเร่ร่อนมาหารายได้ หรือขายสินค้าในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ก่อให้เกิดปัญหาต่าง ๆ เช่น ความไม่ปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินประชาชน การทรมานช้าง การบาดเจ็บจากการเดินทางของช้าง ผลกระทบการจราจร ความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อย อีกทั้งยังไม่มีการบัญญัติกฎหมายให้อำนาจกรุงเทพมหานครดำเนินการเรื่องดังกล่าวโดยเฉพาะ จึงต้องตราข้อบัญญัตินี้ขึ้น
รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวต่อว่า สำหรับความคืบหน้าขณะนี้ได้มีการร่างข้อบัญญัติ กทม. เรื่องการควบคุมการนำช้างมาหารายได้ในเขต กทม. ขึ้นมาแล้ว
อยู่ระหว่างการนำเสนอให้ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายจากทุกส่วนพิจารณารายละเอียดให้สามารถบังคับใช้ได้อย่างครอบคลุม จากนั้นจะนำเสนอเข้าสู่วาระการประชุมสภา กทม.ในช่วงเดือนมกราคม 2553 เพื่อพิจารณาตราข้อบัญญัติและประกาศในราชกิจจานุเบกษาบังคับใช้ต่อไป ทั้งนี้เพื่อการแก้ไขปัญหาช้างเร่ร่อนในพื้นที่ กทม.เป็นไปอย่างยั่งยืน
รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวอีกว่า การแก้ไขปัญหาช้างเร่ร่อนอย่างได้ผลและยั่งยืน จำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากทุกส่วน
โดยเฉพาะองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) และเมืองท่องเที่ยวทั่วประเทศต้องดำเนินการในลักษณะเดียวกับกรุงเทพมหานคร เพื่อไม่ให้ช้างเร่ร่อนเปลี่ยนที่เร่ร่อนซึ่งจะทำให้ปัญหาช้างเร่ร่อนไม่ได้รับการแก้ไขอย่างเป็นระบบ .- สำนักข่าวไทย