รุดช่วยเหลือด.ญ.วัย 12 เขียนจดหมายถวายฎีกาในหลวงขอพระราชทานความช่วยเหลือแม่ที่ป่วยหนัก รักษาหลายร.พ.แต่ยังไม่รู้ว่าเป็นโรคอะไร เหล่ากาชาดสมุทรปราการ ปลัดอำเภอบางบ่อ นายกอบต. คลองด่านยื่นมือช่วยเบื้องต้นทั้งทุนการศึกษา และพาแม่ส่งร.พ.
เมื่อวันที่ 10 ก.ย. นายบรรพต จันเฉลียว ปลัดอำเภอบางบ่อ จ.สุมทรปราการ เปิดเผยว่า หลังจากทราบเรื่อง ด.ญ.อรญาณี ทิศบำลาบ อายุ 12 ปี
ทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีใจความว่า "ได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากมารดาเจ็บป่วยหนัก ด้วยโรคอะไรไม่ทราบ แพทย์ไม่สามารถวินิจฉัยโรคได้ และได้อาศัยอยู่ในบ้านผู้อื่น ไม่มีเงินเพียงพอในการดำรงชีพ ประสงค์ขอความช่วยเหลือ" ทางอำเภอและอบต.คลองด่านได้ไปพบกับด.ญ.อรญาณี ที่โรงเรียนหลวงพ่อปานคลองด่านอนุสรณ์ ปรากฏว่าเด็กมีลักษณะผอม ท่าทางเครียด ไม่ร่าเริง
ปลัดอำเภอบางบ่อ เปิดเผยอีกว่า เมื่อสอบ ถามได้ความว่าเรียนอยู่ชั้นม.1/8 มารดาชื่อน.ส. จันทร์ทา ดีวัน
เดิมมีอาชีพรับจ้างทำงานก่อสร้างทั่วไป จึงทำให้เด็กต้องย้ายโรงเรียนมาตลอดเพราะต้องติดตามมารดาไปทำงานตามที่ต่างๆ ส่วนบิดาแยกทางกับมารดาแล้ว ต่อมามารดาไม่สามารถทำงานได้เนื่องจากป่วย มีอาการจุกแน่นบริเวณชายโครงด้านซ้าย ท้องบวมขึ้น ไม่ค่อยขับถ่าย ซึ่งเป็นมาประมาณ 18 ปีแล้ว ระยะแรกอาการไม่หนัก แต่ต่อมาไม่สามารถทำงานได้ ตระเวนไปรักษาตามร.พ.ต่างๆ เช่น จุฬาฯ วชิรพยาบาล รามาฯ สุดท้ายไปรักษาตัวที่ร.พ.ชลบุรี ทุกร.พ.แพทย์ไม่สามารถวินิจฉัยได้ว่าเป็นโรคอะไร ส่วนสาเหตุที่ย้ายมาอยู่คลองด่านก็เพื่อมารักษาหมอจับเส้น แต่ก็ยังไม่หาย ปัจจุบันไม่มีเงินใช้จ่าย และไม่มีที่อยู่อาศัย ต้องขออาศัยบ้านหมอจับเส้นที่เป็นมุสลิม เพื่อเข้าเรียนต่อชั้นม.1 โรงเรียนหลวงพ่อปานคลองด่านอนุสรณ์
ปลัดอำเภอบางบ่อ เปิดเผยต่อว่า ด.ญ.อรญาณีอาศัยเงินทองของหมอจับเส้นเป็นค่าเดินทางไปเรียนหนังสือ วันละ 27 บาท
ต่อมาระยะหลังแม่มีอาการปวดท้อง ด.ญ.อรญาณีต้องใช้ เท้าช่วยกดบริเวณชายโครง แต่หากมีอาการหนักก็ไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้ หลังจากเลิกเรียนต้องมากดให้แม่ทุกคืน บางคืนแทบไม่ได้นอน นอกจากนี้ นางม้วน ดีวัน ยาย ก็มีอาการเดียว กับแม่ แต่ไม่หนักมาก
ดญ.12แม่ป่วยหนัก เขียนจม.ถวายฎีกา
ด้านนายสมชาย ฤทธิ์เดช เจ้าของบ้านที่ด.ญ.อรญาณีและมารดา ขออาศัยพักอยู่ เปิดเผยว่า เมื่อ 4-5 เดือนที่ผ่านมา
นางจันทร์ทา และสามีใหม่ พร้อมกับด.ญ.อรญาณีเดินทาง มาหาภรรยาตน เพื่อให้จับเส้นรักษาอาการป่วย ซึ่งรักษาฟรีไม่คิดค่าใช้จ่าย แต่อาการไม่ดีขึ้น ครอบครัวไม่มีเงินค่าใช้จ่าย และไม่มีที่อยู่ ตน จึงให้พักอาศัยอยู่ที่บ้านไปก่อน ส่วนอาการของนางจันทร์ทาจะปวดท้องตลอดเกือบ 24 ช.ม. ต้องมีคนคอยดูแลตลอด เป็นโรคที่ชาวบ้านเรียกว่าลมป่วง
ต่อมา ปลัดอำเภอบางบ่อ กล่าวเพิ่มเติมว่า ด.ญ.อรญาณีและมารดามีถิ่นที่อยู่ตามทะเบียนบ้านที่จ.กำแพงเพชร ทำให้ยากต่อการช่วยเหลือ
เนื่องจากติดขัดระเบียบราชการ ประกอบกับบริเวณบ้านพักอาศัยอยู่ใต้สะพานวัดท้องคุ้ง มีความมืด และบริเวณดังกล่าวมีวัยรุ่นชายพักอาศัยอยู่ด้วย จึงทำให้ไม่ปลอดภัย หรือเสี่ยงที่จะถูกล่วงละเมิดทางเพศ เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้น นายอเนก สุขสำราญ นายกอบต.คลองด่าน มอบเงินส่วนตัวเป็นทุนการศึกษาให้กับด.ญ.อรญาณี เดือนละ 1,000 บาท ส่วนเรื่องที่อยู่อาศัยและความช่วยเหลือด้านการเรียน ทางโรงเรียนหลวงพ่อปานคลองด่านอนุสรณ์ อบต.คลองด่าน และอำเภอบางบ่อจะเร่งดำเนินการต่อไป
"ด.ญ.อรญาณีเขียนจดหมายด้วยลายมือของตัวเอง ถวายฎีกาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อขอความช่วยเหลือแม่ที่ป่วยรักษาไม่หาย สำนักราชเลขาธิการ ได้ลงเลขรับไว้ ที่ 13528 เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2552 เมื่อทางอำเภอบางบ่อทราบเรื่อง จึงได้เข้าตรวจสอบเพื่อหาทางช่วยเหลือเบื้องต้น และทำหนังสือรายงานไปยังสำนักราชเลขาธิการต่อไป จากการตรวจสอบพบ ด.ญ.อรญาณีเป็นเด็กเรียนดี และหน้าตาดี จึงมีความเป็นห่วงเรื่องที่อยู่อาศัย เพราะต้องนอนใต้สะพานวัดท้องคุ้งไม่มีอะไรกั้น ซึ่งมีวัยรุ่นชายนอนรวมกันจำนวนมาก" ปลัดอำเภอบางบ่อกล่าว
วันเดียวกัน นางสุชาดา วงศ์นิติกร นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสมุทรปราการ นำนางน.ส. จันทร์ทาไปรักษาที่ร.พ.สมุทรปราการ
ในสภาพร่างกายอ่อนเพลียมาก โดยมีด.ญ.อรญาณีคอยดูแลอย่างใกล้ชิด แพทย์ตรวจอาการเบื้องต้นพบว่ามีเลือดอยู่ในช่องท้อง แต่เนื่องจากร.พ.ไม่มีอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จะตรวจอย่างละเอียดได้ จึงส่งตัวไปรักษาต่อที่ร.พ.จุฬาฯ