เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 10 ก.ย. ผู้สื่อข่าวประจำจ.อุดรธานี รับแจ้งว่า ในชุมชนบ้านหนองเหล็ก ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี
มีหมูป่าแสนรู้ ใช้ชีวิตไม่เหมือนสัตว์ป่าทั่วไป แถมยังแสนรู้เป็นที่รักของชาวบ้านในละแวกนั้น จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบว่าที่บ้านเลขที่ 132 หมู่ 9 ซึ่งเปิดเป็นร้านซักรีดของน.ส.ชลลดา ลาวินิช อายุ 48 ปี พบหมูป่าเพศผู้ สีดำ น้ำหนัก 280 ก.ก. นั่งกินขนมปังแซนด์วิชอยู่
น.ส.ชลลดา เปิดเผยว่า หมูป่าตัวนี้ตนได้มาจากงานกฐินของวัดป่าหนองแก้ว ในชุมชนบ้านหนองเหล็ก เมื่อวันที่ 8 มี.ค.2550
จากการเสี่ยงโชคสอยดาวฉลากในงานวันนั้น ซึ่งขณะนั้นหมูตัวนี้อายุเพียง 1 เดือน มีชาวบ้านมาถวายที่วัด จากนั้นทางวัดนำมาจับฉลากให้คนที่โชคดีนำไปเลี้ยง ซึ่งตนจับฉลากได้จึงได้ลูกหมูมาเป็นสมาชิกในครอบครัว พร้อมตั้งชื่อว่า "พิกุล" และเลี้ยงดูเหมือนลูกหลานคนหนึ่ง ซึ่งก่อนหน้าจะมีงานบุญ 1 สัปดาห์ ตนฝันเห็นเด็กชายรูปร่างอ้วนมาขออยู่ด้วย จนมาเสี่ยงโชคสอยดาวได้ลูกหมูป่ามาเลี้ยง ก็เลยคิดว่าเด็กในฝันก็คือเจ้าหมูตัวนี้
น.ส.ชลลดา กล่าวว่า "เจ้าพิกุล" จะแปลกกว่าหมูป่าตัวอื่นตรงที่ไม่ดุร้าย ไม่กินอาหารหมู หรือรำข้าว แต่จะชอบกินขนมปังแซนด์วิช ข้าวเปล่า
โดยเฉพาะขนมหวานเป็นของโปรด ถ้าตนเดินไปซื้อของที่ร้านค้า เจ้าพิกุลจะเดินตามหลังตนมา และแสดงท่าทางอ้อนให้ซื้อขนมหวานให้กินทุกครั้ง ซึ่งบางครั้งไม่มีเงินพอ แต่แม่ค้าเจ้าของร้านก็ให้ขนมเจ้าพิกุลกินโดยไม่คิดเงิน เพราะเจ้าพิกุลเป็นขวัญใจของคนในชุมชน และชาวบ้านที่ผ่านไปมาจะแวะเวียนนำขนมหวานมาให้เจ้าพิกุลกินแทบทุกวัน
สำหรับความเป็นอยู่ของพิกุล ทุกวันในตอนเช้าและตอนเย็นตนจะนำเจ้าพิกุลวิ่งออกกำลังกายเป็นระยะทาง 500 เมตร
เพื่อต้องการให้กล้ามเนื้อขาของเจ้าพิกุลแข็งแรง สุขภาพดี หลังจากนั้นตนจึงจะให้ข้าวและขนมหวานกิน ในตอนกลางวันเจ้าพิกุลจะไปนอนอยู่ที่สระน้ำหลังบ้านเพื่อคลายร้อน พอมาตอนเย็นมันจึงเดินกลับมาที่บ้านเอง โดยตนได้ทำห้องนอนไว้ให้ในครัวหลังบ้าน
น.ส.ชลลดากล่าวว่า ส่วนการขับถ่ายของเจ้าพิกุล คือจะไปถ่ายทุกข์นอกบ้านเป็นประจำ และเวลาตนเรียกชื่อพิกุล เจ้าพิกุลก็จะวิ่งมาหาทันที
ตอนนี้เจ้าพิกุลมีอายุได้ 2 ปี 4 เดือน ก็มีคนมาเสนอซื้อราคา 10,000-30,000 บาท เพื่อต้องการกินเนื้อของมัน ซึ่งตนปฏิเสธไปทุกราย เพราะพิกุลเหมือนเป็นลูก ถ้ามันตายตนจะนิมนต์พระมาสวดศพเหมือนเช่นคน ไม่ขายให้ไปเป็นอาหารของคนโดยเด็ดขาด