ธนาคารโลกจัดอันดับไทยขึ้นลำดับ12 ประเทศน่าประกอบธุรกิจ หลังผ่อนคลายกฎเอื้อลงทุน ตามเมืองธุรกิจชั้นนำทั่วโลกอย่างสิงคโปร์ ฮ่องกง สหรัฐฯ เมื่อวันที่ 9 ก.ย. ธนาคารโลกจัดประชุมรายงานผลประเทศที่มีความยากง่ายในการประกอบธุรกิจประจำปี 2553 ผ่านระบบเทเลคอนเฟอเรนซ์ จากกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ประเทศสหรัฐอเมริกา
นางสาวกิริฎา เภาพิจิตร นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสของธนาคารโลก ประจำประเทศไทย เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยน่าจะฟื้นตัวอย่างช้าๆ ในรูปตัวยู (U-Shape) ตามทิศทางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณที่ชัดเจนว่าปี 2553 เศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวได้แรง และไม่เชื่อว่าจีดีพีปีปีหน้าจะขยายตัวได้มากกว่า 3% โดยธนาคารโลกจะปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยอีกครั้งในเดือนตุลาคมนี้ จากประมาณการเดิมที่คาดว่าเศรษฐกิจไทยปี 2552 จะหดตัว 2.7% โดยไตรมาส 4/2552 คาดว่าจีดีพีจะกลับมาขยายตัว
นางสาวซิลเวีย ซอลฟ์ ผู้จัดการโครงการการวิจัยประเทศที่มีความยากง่ายในการประกอบธุรกิจประจำปี 2553 เปิดเผยว่า
ประเทศไทยได้รับการจัดอันดับให้เป็นประเทศที่มีความสะดวกในการเข้าไปประกอบธุรกิจเป็นอันดับ 12 จาก 183 ประเทศทั่วโลก ขยับสูงขึ้นจากปี 2552 ที่อยู่ในอันดับ 13 จาก 181 ประเทศ เนื่องจากมีการผ่อนคลายกฎเกณฑ์ที่เอื้อต่อการลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ที่มีผลให้การจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทสามารถทำได้เร็วขึ้นภายในเวลา 1 วัน จากเดิม 9 วัน ขณะเดียวกันรัฐบาลไทยสนับสนุนการพัฒนาท้องถิ่นเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ควรพิจารณาผ่อนคลายมาตรการอื่นๆ ด้วย เช่น การคุ้มครองสิทธิผู้ลงทุนให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น และหากมีผลตอบแทนทางธุรกิจที่สูงจะเอื้อต่อการตัดสินใจนักลงทุนต่างชาติมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ การจัดอันดับดังกล่าว ธนาคารโลกพิจารณาถึงการเริ่มต้นธุรกิจ การขออนุญาตก่อสร้าง การจ้างงานและการเลิกจ้าง การจดทะเบียนทรัพย์สิน การได้รับสินเชื่อ การคุ้มครองผู้ลงทุน การชำระภาษี การค้าระหว่างประเทศ การบังคับให้เป็นไปตามข้อตกลงและการปิดกิจการ
สัญญาณดี ไทยขยับขึ้นอันดับ12ประเทศน่าประกอบธุรกิจ จาก183ประเทศทั่วโลก
นายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) เปิดเผยว่า ปัจจัยลบด้านปัญหาการเมืองเชื่อว่าไม่มีผลต่อการปฏิรูประเบียบราชการมากนัก
เนื่องจากยังมีความต่อเนื่องในการผ่อนคลายกฎเกณฑ์การลงทุน โดยเร็วๆ นี้ ก.พ.ร.จะประสานงานกับกรุงเทพมหานคร (กทม.) ให้ผ่อนคลายการขอใบอนุญาตการประกอบธุรกิจ การก่อสร้าง ดัดแปลง และรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง ก่อนนำเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ขณะที่ประเด็นการจ้างงาน การเลิกจ้าง และการคุ้มครองแรงงานต้องเป็นไปตามกฎหมาย ไม่สามารถผ่อนคลายกฎเกณฑ์ได้
"ประเทศไทยได้เลื่อนอันดับประเทศที่น่าความยากง่ายในการประกอบธุรกิจดีขึ้น เป็นผลมาจากการผ่อนคลายเกณฑ์การจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทภายในเวลา 1 วัน จากเดิมใช้เวลา 9 วัน รวมถึงการลดค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนการโอนที่ดิน อาคารพร้อมที่ดิน เหลือ 0.01% จาก 2% ตามประกาศกระทรวงมหาดไทย และการลดการจัดเก็บภาษีธุรกิจเฉพาะเหลือเพียง 0.11% จากเดิม 3.3% มีผลทำให้ภาคธุรกิจเสียค่าใช้จ่ายลดลง ทั้งนี้ คาดว่าไทยติดอันดับประเทศที่มีความสะดวกในการประกอบธุรกิจ 10 อันดับแรกในปีต่อไปได้" นายทศพรกล่าว
นางปราณี ภาษีผล หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ขณะนี้กระทรวงพาณิชย์อยู่ระหว่างการปรับปรุงการดำเนินงาน
โดยนำระบบออนไลน์เข้ามาใช้เชื่อมโยงข้อมูลกับกรมสรรพากรให้ผู้ประกอบการสามารถจดทะเบียนได้โดยตรงทั้งกระทรวงพาณิชย์ และกรมสรรพากร รวมถึงการให้คุ้มครองผู้ลงทุน และผ่อนคลายกฎเกณฑ์จำนวนผู้ถือหุ้นเบื้องต้นจาก 7 คน เหลือเพียง 3 คน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประเทศได้รับการจัดอันดับให้เป็นประเทศที่มีความสะดวกในการเข้าไปประกอบธุรกิจลำดับก่อนหน้าประเทศไทยในอันดับที่ 12 มีดังนี้ 1. สิงคโปร์ 2.นิวซีแลนด์ 3.ฮ่องกง 4.สหรัฐอเมริกา 5.สหราชอาณาจักร 6.เดนมาร์ก 7.ไอร์แลนด์ 8.แคนาดา 9.ออสเตรเลีย 10.นอร์เวย์ 11.จอร์เจีย