หม่องทำวีซ่า พร้อมบินญี่ปุ่น

ด.ช.หม่องรุดสถานกงสุลญี่ปุ่นในจ.เชียงใหม่ ทำวีซ่าเตรียมบินไปแข่งพับกระดาษที่ญี่ปุ่น เซ่นไหว้ศาลพระภูมิเพื่อเป็นขวัญกำลังใจก่อนเดินทาง พร้อมอธิษฐานขอให้ได้รับชัยชนะจากการแข่งขันเครื่องบินกระดาษพับครั้งนี้ด้วย "เตือนใจ ดีเทศน์"รุดเยี่ยมดูชีวิตความเป็นอยู่

เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 7 ก.ย. นายดวงฤทธิ์ เภติมา ผอ.ร.ร.บ้านห้วยทราย ต.สุเทพ อ.เมืองเชียงใหม่ นำด.ช.หม่อง ทองดี อายุ 12 ปี

ทำวีซ่า เพื่อเดินทางไประเทศญี่ปุ่น ที่สถานกงสุลญี่ปุ่นประจำนครเชียงใหม่ ภายในบิสซิเนสปาร์ค ใกล้ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล แอร์พอร์ตพลาซ่า ต.หายยา โดยด.ช.หม่องนำเอกสารสำคัญ คือ เอกสารใบ ทร.14/1 นำไปกรอกแบบฟอร์มที่จะขอวีซ่าเข้าประเทศญี่ปุ่น ใช้เวลานานประมาณ 1 ชั่วโมงเป็นอันเสร็จสิ้นและเดินทางกลับร.ร.บ้านห้วยทรายทันที โดย สถานกงสุลแจ้งให้มารับวีซ่าในวันที่ 9 ก.ย.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังกลับจากทำวีซ่า ด.ช.หม่องตรงไปกราบไหว้ศาลพระภูมิในโรง เรียนทันทีตามคำแนะนำของผอ.โรงเรียน

เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจที่ดีในการเดินทางไปประเทศญี่ปุ่นเพื่อแข่งพับกระดาษ โดยด.ช. หม่องอธิษฐานว่า "ขอให้เดินทางไปและกลับประเทศญี่ปุ่นด้วยความปลอดภัย และขอให้ได้ชัยชนะจากการแข่งขันเครื่องบินกระดาษพับครั้งนี้ และขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ปกป้องคุ้มครองผมและครอบครัวด้วย"

จากนั้น ด.ช.หม่อง กล่าวว่า การแข่งขันเมื่อปีที่แล้วที่ตนได้ชัยชนะเพราะว่าตั้งใจและพยายามศึกษาเรียนรู้การพับเครื่องบินกระดาษแบบใหม่ๆ เสมอๆ

เพราะการที่เราฝึกพับเครื่องบินแบบใหม่ๆ และฝึกท่าทางการขว้างนั้นต้องตั้งใจ เพราะการแข่งขันพับเครื่องบินต้องแข่งกับเวลา ขณะนี้กลับมาโรงเรียนก็จะฝึกซ้อมเสมอต้นเสมอปลายในช่วงที่รอเวลาก่อนการเดินทางไปญี่ปุ่น จะปรึกษาครูที่สอนให้ได้ความรู้ให้มากที่สุด จะพยายามให้ได้ชัยชนะกลับมาเพื่อประเทศไทยให้ได้

วันเดียวกัน นางเตือนใจ ดีเทศน์ ผู้ก่อตั้งและที่ปรึกษามูลนิธิพัฒนาชุมชนและเขตภูเขา อดีตส.ว.เชียงราย ตรวจเยี่ยมชีวิตความเป็นอยู่ด.ช.หม่อง

โดยเข้าพบนายยุ้น อายุ 33 ปี และนางมอย อายุ 31 ปี พ่อและแม่ของด.ช. หม่อง และด.ญ.เหมียว ทองดี อายุ 2 ขวบ ที่หอพักของนายยุ้น เลขที่ 36 ม.7 บ้านช่างทอง ต.สุเทพ อ.เมืองเชียงใหม่ นางเตือนใจ กล่าวว่า ครอบครัวด.ช.หม่องเป็นครอบครัวที่อบอุ่น พ่อแม่เลี้ยงดูลูกทั้ง 2 คนอย่างดี ให้ความสำคัญสถาบันครอบครัวดีมาก ถึงจะมีอาชีพก่อสร้างย้ายสถานที่ทำงานหลายแห่ง แต่รับผิดชอบเลี้ยงดูลูกทั้ง 2 คนให้มีการศึกษา ผู้เป็นพ่อจะส่งด.ช.หม่องไปเรียนหนังสือก่อนที่จะไปทำงานทุกวัน พอตกเย็น ด.ช.หม่องจะกลับมาบ้านก่อนพ่อแม่ มาหุงข้าวรอ บางครั้ง ด.ช.หม่องยังทำกับข้าวเย็นเก็บไว้กินพร้อมหน้ากันอีกด้วย เป็นแบบอย่างที่ดีสำหรับครอบครัวไทยที่ฐานะดี แต่ขาดความรับผิดชอบเลี้ยงดูครอบครัวจนบุตรหลานประพฤติตัวไม่ดีในสังคม

นางเตือนใจ กล่าวอีกว่า เรื่องที่สำคัญในการติดตามครอบครัวด.ช.หม่องครั้งนี้ ต้องการศึกษาไว้เป็นกรณีตัวอย่าง

ในการนำเข้าไปสู่การร่างพ.ร.บ.สัญชาติ พ.ศ.2551 กฎกระทรวงกำลังพิจารณาใน ม.7 ทวิ วรรค 3 ที่ว่าด้วยเรื่องเด็กต่างด้าวที่เกิดในประเทศไทย กฎกระทรวงจะรองรับได้หรือไม่ตามพ.ร.บ.สัญชาติ, พ.ร.บ. ทะเบียนราษฎร, พ.ร.บ.เข้าเมือง และพ.ร.บ. ต่างด้าว ที่สมาชิกวุฒิสภากำลังพิจารณา ตนต้องการให้ศึกษาโดยละเอียดไม่ต้องการให้ออกกฎหมายทั้ง 4 ฉบับนี้มาแล้วเนื้อหาใจความขัดแย้งกัน

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์