ใช้บัตรปชช.ปลอม นำมาสวมทะเบียน ล่าสาวหัวหน้าใหญ่
ตำรวจท่องเที่ยวรวบแก๊งขโมยรถเช่า รอส่งขายตามใบสั่ง ! แฉกรรมวิธีการโกง ปลอมบัตรประชาชน-ใบขับขี่ไปขอเช่ารถจากบริษัทให้เช่าตามเมืองท่องเที่ยวใหญ่ ๆ เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต แล้วเชิดรถมาจอดพักไว้ตามสถานที่ต่าง ๆ ในกรุงเทพฯ ไม่ว่าจะเป็นในวัด-รพ. จัดการสวมทะเบียนปลอม ก่อนส่งขายลูกค้า สารภาพได้รับค่าจ้างคันละ 5,000 บาท ตำรวจเตรียมขยายผลล่าตัว “สาว มหาภัย” หัวหน้าแก๊ง
ที่กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว (บก.ทท.) เมื่อเวลา 11.45 น. วันที่ 2 ก.ย.
พล.ต.ต.อดิศร์ งามจิตสุขศรี ผบก.ทท. พ.ต.อ.ชวลิต แสวงพืชน์ รอง ผบก.ทท. และ พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง ผกก.1 บก.ทท. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์ รถจักรยานยนต์ (ปจร.ทท.) ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายสิทธิพร โชติทรง อายุ 23 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดภูเก็ต ที่ 556/2552 ลงวันที่ 31 ส.ค. 52 ในข้อหาฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น ปลอมเอกสารราชการ และใช้เอกสารราชการปลอมในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น โดยจับกุมที่ รพ.แห่งหนึ่ง ในเขตจอมทอง กทม.พร้อมของกลางรถเก๋งฮอนด้า ซีวิค สีแดง ทะเบียน กฉ 4510 ภูเก็ต และรถเก๋ง ฮอนด้า ซิตี้ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน กธ 1917 ภูเก็ต
พล.ต.ต.อดิศร์ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ ปจร.ทท.ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ทท.ว่าในพื้นที่ จ.ภูเก็ต มีกลุ่มคนร้ายปลอมบัตรประชาชนและใบขับขี่ มาเช่ารถยนต์จากบริษัทให้เช่ารถ
แล้วลักเอารถยนต์ไปหลายคัน โดยกลุ่มคนร้ายจะนำรถมาพักไว้ที่ กทม. เพื่อรอจำหน่ายให้ลูกค้า เจ้าหน้าที่สืบสวนเรื่อยมาจนกระทั่งเมื่อวันที่ 1 ก.ย.ที่ผ่านมา สืบทราบว่ามีคนร้ายนำรถเก๋งฮอนด้า ซีวิคคันดังกล่าว ซึ่งถูกคนร้ายเชิดไปจากบริษัทเช่ารถแห่งหนึ่งใน จ.ภูเก็ต มาจอดไว้ที่ลานจอดรถของ รพ. จึงนำกำลังไปตรวจสอบ
รวบแก๊งขโมยรถเช่า
เมื่อไปถึงก็พบนายสิทธิพรเป็นคนขับรถคันดังกล่าว จึงขอตรวจสอบหลักฐานของรถ ก็พบว่าเป็นรถที่ถูกเช่ามาจากบริษัทรถเช่าใน จ.ภูเก็ต
และเลยระยะเวลาเช่ามาแล้ว เจ้าตัวจึงยอมรับสารภาพว่า เป็นคนนำบัตรประชาชนปลอมไปเช่ารถ ก่อนจะขับมาจอดไว้ที่ กทม. เพื่อรอส่งให้ลูกค้า นอกจากนี้ยังมีเพื่อนร่วมแก๊งนำรถเก๋งฮอนด้า ซิตี้ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน กธ 1917 ภูเก็ต ที่ขโมยมาจากบริษัทรถเช่าใน จ.ภูเก็ต ไปจอดไว้ที่วัดหัวลำโพง ถนนพระราม 4 เขตปทุมวัน จึงนำกำลังไปตรวจยึดไว้ ก่อนควบคุมตัวมาสอบปากคำ
จากการสอบสวนนายสิทธิพร ให้การรับสารภาพว่า ปกติตนทำงานเป็นพนักงานส่งเอกสาร
และได้รับการชักชวนจากผู้หญิงชื่อ “เปีย” ให้มาทำทีเข้าไปขอเช่ารถแล้วขโมยออกมา โดยจะมีคนในแก๊งเอารูปของตนไปจัดการทำบัตรประชาชนปลอมและถ่ายสำเนาให้ จากนั้นให้ตนเอาสำเนาไปขอเช่ารถตามบริษัทรถเช่าต่าง ๆ ใน จ.ภูเก็ต ก่อนจะให้ขับหนีขึ้นมาที่ กทม.เพื่อรอจัดส่งให้ลูกค้า ต่อไป
“บริษัทรถเช่าส่วนใหญ่ที่ผมเข้าไปขอเช่ารถ จะไม่ขอดูบัตรประชาชนตัวจริง แต่ถ้าหากบริษัทไหนขอดู ก็จะบอกว่าลืมเอามา ซึ่งทางบริษัทก็จะให้เช่าโดยไม่ขอตรวจสอบอะไรเพิ่มเติม ผมขโมยรถมาแล้ว 2 คัน ได้ค่าจ้างคันละ 5,000 บาท” นายสิทธิพร สารภาพ
พล.ต.ต.อดิศร์ กล่าวด้วยว่า จากการสืบสวนเจ้าหน้าที่พบว่า คนร้ายแก๊งนี้มี น.ส.เปีย ไม่ทราบนามสกุล เป็นหัวหน้าแก๊ง และยังมีพี่น้องอีก 3 คนร่วมมือกันก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง
โดยพฤติกรรมของคนร้ายแก๊งนี้ มักจะโจรกรรมรถยี่ห้อและรุ่นที่เป็นที่ต้องการของตลาด หรือตามใบสั่งของลูกค้า โดยคนร้ายจะโทรศัพท์ตรวจสอบไปยังบริษัทรถเช่าต่าง ๆ ในจังหวัดที่เป็นเมืองท่องเที่ยว เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต เป็นต้น เมื่อมีรถรุ่นที่ต้องการก็จะส่งลูกน้องนำบัตรประชาชนปลอมไปขอเช่าทันที จากนั้นก็ขับมาส่งให้หัวหน้าแก๊งทำการสวมทะเบียน และจอดพักไว้ที่ กทม. เพื่อรอส่งขายต่อให้ลูกค้า ซึ่งก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ได้จับกุมคนร้ายแก๊งนี้มาได้แล้ว 2 คนคือ น.ส.เบญจพร สุขไกร อายุ 23 ปี น้องสาว ของ น.ส.เปีย หัวหน้าแก๊ง และนายปราณภัท ธนาสินภรณ์ ก่อนส่งให้ สภ.ท่าฉัตรไชย จ.ภูเก็ต ดำเนินคดี ซึ่งเจ้าหน้าที่จะติดตามจับกุมผู้ต้องหาแก๊งนี้มาดำเนินคดีต่อไป.