หลินปิงร้องเหมือนเห่า กระโจนใส่ตอนหิวนม

เมื่อวันที่ 31 ส.ค.  นายประเสริฐศักดิ์ บุญตระกูลพูนทวี หัวหน้าโครงวิจัย และจัดแสดงแพนด้าในประเทศไทย 

พร้อมทั้ง สัตวแพทย์หญิง กรรณิการ์ นิ่มตระกูล และนางหูไห่ผิง ผู้เชี่ยวชาญชาวจีน ได้นำแพนด้าหลินปิง ออกมาทำการตรวจสุขภาพที่คลินิกแพนด้า หลินปิง การชั่งน้ำหนักพบว่ามีน้ำหนัก 6,705 กรัม ความยาวลำตัว 64 เซนติเมตร โดยแพนด้าหลินปิงจะดิ้นทำท่าเหมือนกันหิวนมและพยายามสอดส่ายหน้าหาเต้านม เมื่อนายประเสริฐศักดิ์ จับที่ลำตัวด้านหลังหลินปิง จะเห่าเสียงดังมากพร้อมกระโจนตัวเข้าใส่นายประเสริฐศักดิ์ ถึงกับถอยหลังออกไป แต่ทราบว่าเป็นพฤติกรรมการหิวนมจึงได้ทำการลูบไล้ให้หลินปิง คลายอารมณ์ลงไป และได้มีการฝึกทักษะการดมกลิ่น ซึ่งหลินปิงจะตามกลิ่นนม มากกว่าอย่างอื่นสำหรับสุขภาพด้านต่างทางนางหูไห่ผิง ได้บอกกับทีมงานว่าสมบูรณ์แข็งแรงไม่มีปัญหาใดๆ

หลังจากตรวจสุขภาพเสร็จสิ้น นายประเสริฐศักดิ์ กล่าวว่า นางหูไห่ผิง ผู้เชี่ยวชาญจีน สรุปออกมาชัดเจนว่าหลินปิงถือว่าเป็นลูกหมีแพนด้าที่มีพัฒนาการในด้านต่างๆ ดีในทุกด้าน

ทั้งในเรื่องการเจริญเติบโต และในด้านที่จะหัดยืนหัดคลานรวมถึงการเคลื่อนไหวต่างๆไม่ว่าจะเป็นการมองเห็นการได้ยิน ถือว่ามีพัฒนาที่ดีมาก โดยเฉพาะในวันนี้ทางทีมวิจัยได้พบว่าหลินปิง ยืนขึ้นทั้ง 4 ขา พร้อมก้าวเดินได้ 1 ก้าวเป็นวันแรก โดยทุกวันในคอกกักจะเห็นเพียงหลินปิงพยายามที่จะตั้งไข่หรือยืนบนเท้าทั้ง 4 จนกระทั่งในวันนี้ถือว่ายืนได้เป็นครั้งแรกและก้าวไปได้ 1 ก้าว จึงต้องบันทึกไว้ว่า วันที่ 31 ส.ค. 52 เป็นวันที่หลินปิงยืนได้ครั้งแรก

ผู้สื่อข่าวถามว่า เห็นหลินปิงเห่าเสียงดังพร้อมกระโจนเข้าใส่นายประเสริฐศักดิ์ เป็นการบ่งบอกถึงอะไร

นายประเสริฐศักดิ์ ตอบว่าเป็นอาการของการหิวนม คือการหิวนมของหลินปิงตามปกติจะต้องถูกกระตุ้นด้วยการสัมผัสด้วยการพลิกเนื้อพลิกตัวต่างๆซึ่งทางทีมวิจัยได้เลียนแบบพฤติกรรมนี้จากการเลี้ยงลูกของแม่หมีแพนด้า การที่ตนได้สัมผัสตัวหลินปิงเพื่อกระตุ้นให้เกิดอาการหิวนม ทำให้มีความรู้สึกว่าจะต้องได้กินนม แต่เมื่อหลินปิงหาหัวนมไม่พบ ก็เกิดอาการหงุดหงิด โมโหจึงได้แสดงอาการคำรามคล้ายกับการเห่าและกระโจนเข้าใส่ ซึ่งจะเป็นว่าหลินปิง เห่าเสียงดังมากและพุ่งกระโจนอย่างแรงส่อให้เห็นว่าหิวนมมาก