ต่างชาติเชื่อประชาธิปไตยช่วยศก.ไทยฟื้น
วันนี้ (29 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดร.นพดล กรรณิกา ผอ.สำนักวิจัยเอแบคโพล มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยผลวิจัยเชิงสำรวจ เรื่อง เสียงสะท้อนของชาวต่างชาติต่อประเทศไทย ภายหลังรัฐบาลจะประกาศใช้พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงภายใน บริเวณเขตพื้นที่ดุสิต พบ ชาวต่างชาติส่วนใหญ่หรือร้อยละ 65.2 รู้และเข้าใจสถานการณ์การเมืองของประเทศไทยเพียงเล็กน้อย เมื่อถามถึงสถานการณ์การเมืองไทยหลังรัฐบาลประกาศใช้พ.ร.บ.ดังกล่าว เขตพื้นที่ดุสิต พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 91.2 เห็นว่ารัฐบาลไทยควรจะประชาสัมพันธ์สื่อสารเกี่ยวกับพ.ร.บ. รักษาความมั่นคงภายในให้มากกว่านี้ นอกจากนี้ ร้อยละ 70.2 กังวลว่าจะมีความยากลำบากในการเดินทางระหว่างการประกาศใช้พ.ร.บ.ดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ชาวต่างชาติส่วนใหญ่หรือร้อยละ 69.8 มองว่าเป็นการดีที่รัฐบาลไทยประกาศใช้พ.ร.บ. รักษาความมั่นคงภายในเพื่อป้องกันความวุ่นวาย และร้อยละ 44.7 เห็นว่า สถานการณ์ในประเทศไทยจะดีกว่านี้ถ้าไม่มีการชุมนุม ที่น่าสนใจคือ ชาวต่างชาติส่วนใหญ่หรือร้อยละ 75.5 เชื่อว่าประชาธิปไตยของประเทศไทยจะทำให้ระบบเศรษฐกิจดีขึ้น และส่วนใหญ่หรือร้อยละ 96.3 ไม่เห็นด้วยถ้าประเทศไทยถูกปกครองโดยรูปแบบอื่นที่ไม่ใช่ประชาธิปไตย และที่น่าพิจารณาอย่างยิ่งคือ ชาวต่างชาติส่วนใหญ่หรือร้อยละ 97.7 บอกว่า “ฉันรักประเทศไทย” นอกจากนี้ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 57.4 ค่อนข้างเชื่อมั่นต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศไทยในอีก 6 เดือนข้างหน้า และร้อยละ 15.3 เชื่อมั่น ในขณะที่ร้อยละ 20.7 ไม่ค่อยเชื่อมั่นและร้อยละ 6.6 ไม่เชื่อมั่น.