สินสอดไม่พอล้มวิวาห์ ยกขันหมากหนี

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 5 มี.ค. ขณะ ร.ต.ท.ประสาน ดีกระโทก ร้อยเวร สภ.อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ปฏิบัติหน้าที่อยู่บนโรงพัก ได้มีนายจรัญ ยะสะพัง อายุ 65 ปี อยู่บ้านเลขที่ 5 หมู่ 3 ต.ดอนเมือง อ.สีคิ้ว พร้อมด้วยญาติพี่น้องกว่า 20 คน เดินหน้าเครียดขึ้นโรงพักเข้าแจ้งความ ให้ช่วยสกัดจับรถขบวนขันหมากของว่าที่ลูกเขย ที่ขับหลบหนีมุ่งหน้าออกถนนมิตรภาพมาเจรจาตกลงจ่ายค่าเสียหาย

โดยนายจรัญให้รายละเอียดว่า ก่อนหน้านี้ น.ส.วาริน ยะสะพัง อายุ 25 ปี ลูกสาว ทำงานเป็นพนักงานแผนกบัญชีอยู่บริษัทแห่งหนึ่งที่ กทม. ได้รู้จักชอบพอกับนายคำปุ่น ชินคำ อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 109 หมู่ 10 ต.ในเมือง อ.เมืองอุดรธานี ทำงานอยู่บริษัทเดียวกัน โดยทั้งคู่คบหากันมานาน 5-6 ปี ระหว่างคบหาเป็นแฟนกันนายคำปุ่นมักไปมาหาสู่ที่บ้านเป็นประจำ จน กระทั่งเมื่อเดือน พ.ย.48 นายคำปุ่นพาพ่อแม่มาสู่ขอ น.ส.วาริน ตนเห็นว่านายคำปุ่นเป็นคนดี เข้าตามตรอกออกตามประตู อีกทั้งเห็นว่าทั้งคู่รักกันมาก เชื่อว่าหากลูกสาวแต่งงานไปแล้วนายคำปุ่นคงดูแลครอบครัวได้ดี จึงตกลงยกลูกสาวให้ โดยเรียกสินสอดเป็นเงินสด 50,000 บาท ส่วนทองคำรูปพรรณแล้วแต่ฝ่ายเจ้าบ่าวจะจัดหามาให้ตามที่เห็นสมควร

ในขณะที่นายคำปุ่นรับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะว่า จะยกขันหมากพร้อมสินสอดมาในวันแต่งคือวันที่ 5 มี.ค. เมื่อใกล้ถึงวันแต่งนายคำปุ่นยังเดินทาง มาพบเพื่อเป็นการยืนยันอีกครั้งว่าพิธีแต่งไม่เปลี่ยนแปลง จึงได้จัดงานใหญ่โตขึ้นในเย็นวันที่ 4 มี.ค. สั่งล้มหมู ล้มวัวไปหลายตัว แถมยังสั่งเหล้ายามาเลี้ยงแขกทั้งบ้านใกล้บ้านไกลตลอดทั้งวันทั้งคืน จนกระทั่งถึงเช้าของวันที่ 5 มี.ค. นายคำปุ่น พร้อมขบวนขันหมากกว่า 20 คน เดินทางมาถึงบริเวณงานแต่ง แจ้งให้ทราบว่าจัดหาเงินสินสอดได้แค่เพียง 28,000 บาท ส่วนทองคำไม่มีมาเลย ทำให้รู้สึกไม่พอใจ เนื่องจากได้ลงทุนจัดงานแต่งใหญ่โตจ่ายค่าหมู ค่าวัว ไปแล้วกว่า 50,000 บาท แม้จะได้เงินค่าสินสอดจากนายคำปุ่นก็ยังต้องควักกระเป๋าเพิ่มอยู่ดี จึงได้ขอให้นายคำปุ่นเพิ่มเงินอีก แต่นายคำปุ่นปฏิเสธพร้อมพาขบวนขันหมากกลับขึ้นรถขับออกไปอย่างรวดเร็ว ทำให้ตนและลูกสาวอับอายเพื่อนบ้าน อีกทั้งได้รับความเสียหายจากการลงทุนจัดงาน จึงเข้าแจ้งความเพื่อให้ตำรวจติดตามนายคำปุ่นมาเจรจาจ่ายค่าเสียหายทั้งหมด