ฝนตกหนัก ดับไฟป่าพรุ เสียหายนับพันไร่

ไฟป่าที่โหมกระหน่ำพื้นที่ป่ากระจูด ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติพรุควนเคร็ง จ.นครศรีธรรมราช ดับลงแล้ว หลังจากเกิดฝนตกหนักติดต่อกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานวันนี้ (24 ส.ค.) ช่วงเช้าที่ผ่านมา ไฟป่าที่โหมกระหน่ำพื้นที่ป่ากระจูด ในป่าสงวนแห่งชาติพรุควนเคร็ง ต.เคร็ง อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ได้มอดดับลงแล้ว หลังจากมีฝนตกลงมาอย่างหนัก ตั้งแต่ช่วงบ่าย และช่วงค่ำวานนี้ (23 ส.ค.) ที่ผ่านมา รวมถึงช่วงเวลาประมาณ 03.00 - 05.00 น. วันนี้ (24 ส.ค.) จากปริมาณฝนที่เทกระหน่ำลงมาจำนวนมาก ทำให้ไฟป่าดับลง ขณะที่สภาพป่าได้รับความเสียหายหนัก และร่องรอยการถูกเผาผลาญ ได้ปรากฏทั่วไป ทั้งป่ากระจูด ป่าเสม็ด ป่าไม้ และป่าไม้เบญจพรรณ

นายศรัญ ใจสะอาด ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 นครศรีธรรมราช กล่าวว่า เหตุไฟไหม้ป่าพรุควนเคร็งครั้งนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ แต่เกิดจากการกระทำของคน ส่วนความเสียหายของป่าที่ถูกเผา มีประมาณไม่ต่ำกว่า 1,000 ไร่ ซึ่งจากเหตุนี้ ได้ส่งผลกระทบค่อนข้างมาก ต่อระบบนิเวศน์ในพื้นที่ คาดว่า ต้องใช้เวลาฟื้นฟูพื้นที่ที่เสียหาย ไม่น้อยกว่า 3 ปี และต่อจากนี้ คงต้องประสานขอความร่วมมือ จากชาวบ้าน ในการช่วยกันดูแลพื้นที่ป่ามากขึ้น

ขณะเดียวกัน จะประสานกรมชลประทาน เพื่อขุดคลองชลประทาน เข้าไปในพื้นที่ให้มากขึ้น เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นเขตชุ่มน้ำ ซึ่งน้ำจะอยู่ใต้ดินหรือซึมดิน เมื่อเกิดเหตุไฟไหม้ป่า จึงแทบไม่มีแหล่งน้ำที่นำมาใช้ดับไฟ แต่โชคดีที่มีฝนตกลงมาช่วย มิเช่นนั้น ความเสียหายจะรุนแรงกว่านี้

ด้านนายสมเอก อินทร์จันทร์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เคร็ง อ.ชะอวด กล่าวว่า นับจากนี้ไป จะจัดอาสาสมัครเฝ้าระวังเหตุลักลอบเผาป่า ซึ่งไฟไหม้ป่าพรุครั้งใหญ่นี้ มีคนต่างถิ่นเข้ามาแฝงตัวในพื้นที่ แล้วลอบเผาป่าหลายจุด เชื่อว่า เป็นลูกน้องของกลุ่มนายทุน ที่ได้รับการว่าจ้างมาเผาป่า เพื่อทำให้ป่าเสื่อมโทรม แล้วนำที่ดินมาทำสวนปาล์ม หรือปลูกปาล์มน้ำมัน ซึ่งชาวบ้านในพื้นที่ทราบกันดี จึงขอเรียกร้องให้หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง เข้ามาสอบสวนสืบสวน และติดตามจับกุมผู้กระทำผิดเร่งด่วน อีกทั้งที่ผ่านมา คนของรัฐในหน่วยงานที่รับผิดชอบ ได้ปล่อยปละละเลย ขณะที่บางคนรู้เห็นเป็นใจกับนายทุน ที่บุกรุกป่า