วอนผู้ใจ บุญช่วยด.ญ.วัย 13 ปี ชาวเพชรบุรี ป่วยเป็นโรคประหลาด กระดูกงอกตามข้อทั่วร่างกาย ใช้ชีวิตลำบาก หน้าหนาวจะเจ็บปวด แถมน้องชายวัยเพียง 7 เดือน ก็เริ่มมีกระดูกงอกตามร่างกายเหมือนพี่ พ่อแม่ได้แต่หวังปาฏิหาริย์ให้ลูกหาย เพราะฐานะยากจนไม่มีเงินรักษา แพทย์ศิริราชระบุน่าจะเกิดจากกรรมพันธุ์ ไม่มีทางรักษาให้หายได้ ด้านพ่อแม่ยืนยันญาติพี่น้องไม่มีใครเป็นโรคนี้
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 15 ส.ค. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านเลขที่ 54 หมู่ 4 ต.ไร่โคก อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี หลังรับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีเด็กป่วยเป็นโรคประหลาดไม่เคยพบมาก่อนคือ มีกระดูกงอกออกมาตามข้อต่อต่างๆ ทั่วร่างกาย ใช้ชีวิตลำบาก พ่อแม่มีฐานะยากจนทำให้ไม่ได้รับการรักษาอย่างจริงจัง เมื่อเดินทางไปถึงพบด.ญ.ศิริรัตน์ หรือน้องตูน นาคจันทร์ อายุ 13 ปี นั่งเล่นอยู่ในบ้านกับพ่อและแม่ พบว่าตามร่างกายของน้องตูนบริเวณข้อกระดูก มีลักษณะปูดโปนออกจากจนเห็นได้ชัด ทั้งขาและแขนมีลักษณะคดงอ ไม่สมดุลอย่างเห็นได้ชัด แขนขวามีเหล็กดามแขนเอาไว้ ส่วนแขนซ้ายมีลักษณะคด เนื่องจากกระดูกโผล่ตามข้อทั่วแขน ส่งผลให้แขนไม่สามารถพับเข้าออกได้อย่างสะดวกเหมือนคนปกติทั่วไป นอกจากนั้นยังพบว่า ที่ช่วงด้านหลังไหล่ซ้ายของด.ช.ธันวา นาคจันทร์ น้องชายของน้องตูน อายุ 7 เดือน เริ่มมีกระดูกโปนงอกออกมาบ้างแล้ว
ดญ.วอนรักษา กระดูกงอกโผล่ทั่วตัว น้องชาย ก็เริ่มเป็น
มีกระดูกงอกตามข้อจนแขน-ขาบิดเบี้ยววอนขอความเมตตา
ขณะที่น้องชายวัย 7 เดือนก็เริ่มมีอาการป่วยคล้ายกัน
นางเพชร นาคจันทร์ อายุ 42 ปี แม่ของน้องตูน กล่าวด้วยน้ำตานองหน้าว่า ตนมีลูก 3 คน เป็นชาย 2 หญิง 1 คน คนโตชื่อ นายวันชัย นาคจันทร์ อายุ 17 ปี ไม่เป็นโรคดังกล่าว คนที่ 2 คือ ด.ญ.ศิริรัตน์ และคนที่ 3 ด.ช.ธันวา หรือน้องเต ที่เพิ่งอายุ 7 เดือน
ซึ่งอาการของน้องตูนเกิดขึ้นเมื่อตอนอยู่ชั้นป.2 จู่ๆ กระดูกก็งอกออกมาตามข้อต่อต่างๆ ทั้งที่ช่วงเด็กๆ ยังไม่มีอาการผิดปกติแต่อย่างใด แขนและขาเริ่มมีอาการผิดปกติ ข้อกระดูกนูนสูงออกมา เมื่อเอามือคลำพบว่าเป็นกระดูกที่โผล่ออกมาจากช่วงรอยต่อของกระดูก หลังจากนั้นลุกลามไปทั่วร่างกาย ซึ่งเวลาปกติน้องตูนจะไม่มีอาการเจ็บปวด แต่ก็ไม่สามารถยกของหนักหรือทำอะไรได้ กระดูกที่โผล่ออกมายึดข้อไม่ให้เคลื่อนไหวได้ตามปกติ แขนขาจะผิดรูปไม่สามารถเคลื่อนไหวเหมือนคนปกติทั่วไปได้ และในช่วงที่อากาศเย็นน้องตูนจะปวดตามข้อที่ปูดออกมาจนทรมานน่าเวทนายิ่งนัก ทุกวันนี้ตนก็คิดมากไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร ได้แต่สงสารลูก ถ้าเขาเติบโตขึ้นกระดูกที่งอกออกมาจะใหญ่เพิ่มขึ้นตามตัว ก็จะส่งผลกระทบต่อการเคลื่อนไหวมากขึ้น และถ้าวันข้างหน้าไม่มีพ่อแม่แล้ว คงไม่มีใครมาคอยช่วยเหลือ
นางเพชรกล่าวต่อว่า ตนกับสามีนำน้องตูนไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลศิริราชหลายครั้ง ซึ่งหมอบอกว่าโรคนี้เกิดจากกรรมพันธุ์
และไม่สามารถผ่าตัดได้แต่ขอให้อยู่ดูอาการที่โรงพยาบาลก่อน แต่ตนกับสามีไม่สามารถทำได้เพราะไม่มีเงิน ครั้งล่าสุดต้องขอให้หมอผ่าตัดกระดูกบริเวณข้อต่อของแขนด้านขวาให้ เนื่อง จากกระดูกงอกออกมามากกว่าบริเวณอื่น กลัวจะส่งผลกระทบทำให้ช่วงปลายมือไม่สามารถขยับได้ หลังตัดกระดูกที่งอกออกแล้วแพทย์ได้ใช้เหล็กดามแขนเพื่อยึดกระดูกไว้ และขณะนี้ลูกชายที่เพิ่งอายุ 7 เดือน ก็เริ่มมีอาการกระดูกงอกปูดออกมาบ้างแล้ว แต่ยังไม่มากเท่ากับน้องตูน ที่เกิดขึ้นทั่วร่างกาย
นายสมชาย นาคจันทร์ อายุ 50 ปี ผู้เป็นพ่อ กล่าวว่า ปัจจุบันภรรยาไม่ได้ทำงาน ต้องอยู่บ้านดูแลลูก ส่วนตนทำอาชีพยาม หาเลี้ยงครอบครัวเพียงคนเดียว มีรายได้แต่ละเดือนไม่ถึง 5,000 บาท ลูกทั้งสองคนต้องมาประสบเคราะห์กรรมอย่างนี้อีก
ทุกวันนี้ก็ต้องคอยหยิบยืมเงินเพื่อนบ้านมาช่วยเหลือครอบครัวกันพอประทังชีวิต ก่อนหน้านี้เคยขอความช่วยเหลือไปทางอบต.ไร่โคก ซึ่งนายกอบต.ไร่โคกคนเก่า กับปลัดอบต.ก็เมตตาพาลูกสาวไปรักษาที่โรงพยาบาลแต่ก็ไม่หาย เพราะหมอบอกว่าอาการอย่างนี้ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ อย่างไรก็ตามตนก็หวังว่าจะมีปาฏิหาริย์ที่จะช่วยลูกสาวได้บ้าง ด้านด.ญ.ศิริรัตน์ หรือน้องตูน กล่าวว่า ปัจจุบันเรียนหนังสืออยู่ที่โรงเรียนบ้านแหลมทอง ต.ไร่โคก เวลาไปโรงเรียนหรือทำกิจกรรมต่างๆ ก็มักโดนเพื่อนล้อ ทั้งที่เป็นอย่างนี้ ไม่ทราบว่าเมื่อโตขึ้นจะยังช่วยเหลือตัวเองได้หรือไม่ เพราะกระดูกที่งอกได้ใหญ่ขึ้นทุกทีและเกิดทั่วร่างกาย อยากหายจากโรคนี้