นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนกับรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีน วันที่ 15 สิงหาคมว่า สองฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงและลงนามความตกลงว่าด้วยการลงทุนอาเซียน-จีน หลังจากที่มีการเจรจาเปิดมาตั้งแต่ปี 2546 และได้เปิดการตกลงเปิดเสรีการค้าและบริการมาแล้ว โดยการลงนามจะทำให้เกิดประโยชน์โดยตรงจากการขยายการค้า การลงทุน และสร้างความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิขกับจีน โดยไทยคาดหวังว่าความตกลงดังกล่าวจะเกิดการลงทุนเพิ่มสองฝ่าย40-60% จากปัจจุบันไทยลงทุนในจีน 160 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และจีนลงทุนในอาเซียน 3.6 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ นายอลงกรณ์ กล่าวว่า สำหรับการหารือรัฐมนตรีเศรษฐิกิจอาเซียนกับออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ว่า เป็นการเร่งรัดการจัดส่งรายการพิกัดที่จะมีการลดภาษีระหว่างกันที่จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มกราคม 2553 ซึ่งปรับตามพิกัดภาษีศุลกากรใหม่ปี 2007 ซึ่งถึงขณะนี้ยังไม่มีประเทศใดจัดส่ง แต่อย่างไรก็ตามเป็นเรื่องเทคนิคไม่น่าจะมีผลต่อการบังคับใช้ตามความตกลง นอกจากนี้เห็นชอบให้มีการจัดตั้งสภาพธุรกิจอาเซียน-ออสเตรีเลีย-นิวซีแลนด์ เพื่อลดปัญหาความขัดข้องด้านการค้า การลงทุนและภาคบริการ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงบ่ายนางพรทิวาหารือทวิภาคีกับกัมพูชา รวมทั้งพม่าและลาวเพื่อเสนอแนวคิดการจัดตั้งสมาคมผู้ผลิตข้าว อย่างไรก็ตาม หลังมีการข่าวว่าไทยจะผลักดันความร่วมมือด้านค้าข้าวกับประเทศในกลุ่มแม่น้ำอิระวดี-แม่โขง-เจ้าพระยา หรือแอคเมค (ไทย เวียดนาม กัมพูชา พม่า และลาว) ทำให้สมาชิกอาเซียนบางประเทศไม่พอใจ โดยเฉพาะฟิลิปปินส์ซึ่งเป็นผู้นำเข้าข้าวรายใหญ่ และส่งเรื่องให้ระดับผู้นำทางการเมืองเจรจากับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีไทยที่เดินทางไปเยือนประเทศฟิลิปปินส์เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม เพื่อขอให้ไทยทบทวนแนวคิดดังกล่าว นายไชยา ยิ้มวิไล ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะประธานด้านประชาสัมพันธ์และสื่อมวลชนการประชุมเออีเอ็ม เปิดเผยถึงการหารือทวิภาคีระหว่างไทย-ลาว ว่า ลาวสนับสนุนการจัดสมาคมผู้ผลิตข้าวในกลุ่มแอคเมค ตามที่กัมพูชาเสนอผ่านไทย และลาวยังเสนอให้ไทยและเวียดนามในฐานะผู้ผลิตและส่งออกข้าวรายใหญ่ของโลก เป็นแกนนำในการจัดตั้งคณะกรรมการกำหนดกลไกการจัดตั้งสมาคมผู้ผลิตข้าว ซึ่งจะเป็นความร่วมมือระหว่างภาคเอกชนและรัฐของแต่ประเทศ โดยหวังให้มีการดำเนินการได้ในปี 2553 ซึ่งลาวยังเล่าให้ฟังว่าได้เปิดให้ต่างชาติคือ ประเทศคูเวตเข้ามาร่วมลงทุนทำนาหรือทำคอนแทคฟาร์มมิ่งกับประเทศคูเวต พื้นที่ 2 แสนเอเคอร์ (ประมาณ 5 แสนไร่) คาดว่าในการหารือทวิภาคีกับพม่าไม่น่าจะมีปัญหาเช่นกัน
อาเซียนบรรลุข้อตกลงเปิดเสรีการลงทุนกับจีน เริ่ม 1 ม.ค.53 จีนประกาศหนุน 1.5 หมื่นล.เหรียญตั้งกองทุนเงินกู้พัฒนาโลจิสติกส์ เวียดนาม-ลาว-กัมพูชา สนับสนุนแนวคิดไทยตั้งสมาคมพ่อค้าข้าว ปินส์ฉุนขาดเจรจามาร์คสกัด
โดยสองฝ่ายตกลงที่จะให้การสนับสนุนการลงทุนทางตรง(เอฟดีไอ)ของคู่ภาคี และส่งเสริมคุ้มครองการลงทุน โดยปฎิบัติต่อนักลงทุนทั้งสองฝ่ายอย่างเป็นธรรมและทัดเทียมกัน ชดเชยให้แก่นักลงทุนในกรณีที่มีการเวนคืน และระงับข้อพิพาทระหว่างนักลงทุนคู่ภาคีกับรัฐ แม้จะมีปัญหาทางการเมือง ก็จะคุ้มครองการลงทุนและไม่ยึดเป็นของรัฐ เพื่อให้เกิดการไหลเข้าของแห่งเงินทุนใหม่ ทั้งยังเป็นการรกัษาเสถียรภาพทางการเงินและอัตราแลกเปลี่ยน
สำหรับอุตสาหกรรมที่ประเทศไทยมีศักยภาพลงทุนในจีนเพิ่ม ได้แก่ เกษตร สินค้าเกษตรแปรรูป อีเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนประกอบ ยานยนต์และชิ้นส่วน ส่วนอุตสาหกรรมที่กลุ่มอาเซียน มีศักยภาพลงทุนในจีน คือ บริการเงิน ธนาคาร และธุรกิจค้าปลีก ส่วนอุตสาหกรรมที่จีนจะเพิ่มการลงทุนในอาเซียนได้แก่ การผลิตสินค้าเกษตร เหล็กกล้า
นายอลงกรณ์ พลบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า รัฐมนตรีเศรษฐกิจจีนได้แจ้งต่อที่ประชุมเออีเอ็ว่า รัฐบาลจีนจะให้การสนับสนุนทางการเงินโดยตั้งกองทุนเงินกู้เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานโลจิสติกส์ระหว่างจีนตอนใต้กับกลุ่มประเทศในอาเซียน วงเงิน 1.5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มจากเงินกองทุนที่รัฐบาลประกาศให้อาเซียนก่อนหน้านี้ 1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยยังไม่ระบุรายละเอียด และมอบหมายรัฐมนตรีช่วยพาณิชย์จีนหารือกับรัฐมนตรีช่วยพาณิชย์ในอาเซียน และนำมาเสนออีกครั้งในการประชุมผู้นำเดือนตุลาคมนี้
นอกจากนั้น อาเซียน-จีน ยังได้ลงนามบันทึกความเข้าใจด้านทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อแก้ปัญหาอุปสรรคการลงทุนและการค้าระหว่างกัน โดยฝ่ายไทยเสนอให้คณะกรรมการทรัพย์สินทางปัญญาของอาเซียน ให้ใช้นโยบายเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ (ครีเอทีฟ อีโคโนมี) ของอาเซียนเพื่อพัฒนาการค้าและการลงทุนให้เติบโตอย่างยั่งยืน
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
