พ่อคูณส่อติดหวัด09หมอให้ยาทามิฟูล

คมชัดลึก :หลวงพ่อคูณส่อติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 แพทย์ให้ยาทามิฟูลหลังมีไข้สูงกลางดึก ขณะที่อาการทั่วไปยังน่าห่วง

(14ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า อาการอาพาธของพระเทพวิทยาคมหรือหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา

ที่พักรักษาตัวอยู่ที่ห้องผู้ป่วยพิเศษ 9821 ชั้น 8 ตึกเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา หลังจากลูกศิษย์ใกล้ชิดได้นำหลวงพ่อคูณฯส่งโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาเร่งด่วนตั้งแต่วานนี้ (13ส.ค.) เนื่องจากมีอาการเบลอ หลงๆลืมๆ และจำใบหน้าลูกศิษย์ใกล้ชิดไม่ได้
ซึ่งแพทย์คาดว่าหลวงพ่อคูณน่าจะมีอาการสับสนเฉียบพลัน ซึ่งเป็นอาการที่เกิดขึ้นสำหรับผู้สูงอายุ แพทย์ได้ให้หลวงพ่อคูณนอนพักรักษาตัวที่อาคารเฉลิมพระเกียรติ ชั้น 8 ห้อง 9821 โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา เพื่อเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิดโดยไม่มีกำหนดออกจากโรงพยาบาล


ล่าสุดเมื่อคืนที่ผ่านมา (13ส.ค.)หลวงพ่อคูณมีอาการไข้สูง ซึม ไอ มีเสมหะและหนาวสั่น แพทย์ได้ให้น้ำเกลือ ยาขยายหลอดลม และให้ยาทามิฟูลต้านไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009

กับหลวงพ่อคูณเนื่องจากเกรงว่าหลวงพ่อคูณอาจติดเชื้อหวัดใหญ่ 2009 โดยหลังจากแพทย์ให้ยาทามิฟูลแล้วช่วงเช้าวันนี้ (14ส.ค.)หลวงพ่อคูณมีอาการดีขึ้นบ้างเล็กน้อย ไข้ลดลง ส่วนผลการตรวจจากห้องปฏิบัติการจะทราบผลอีก 2 วันว่าหลวงพ่อคูณติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 หรือไม่ โดยเช้าวันนี้(14ส.ค.)หลวงพ่อคูณมีสีหน้าอิดโรยอ่อนเพลียและมีอาการไอ เสมหะมาก แพทย์ได้ใช้ยาพ่นขยายหลอดลมเพื่อให้หายใจสะดวกขึ้น


 


นายแพทย์สุรินทร์ แซ่ตั้ง แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบประสาท รพ.มหาราชนครราชสีมา กล่าวว่า อาการหลงลืมและสับสนของหลวงพ่อคูณ ยังมีอยู่

แต่เริ่มจดจำใบหน้าลูกศิษย์ใกล้ชิดบางคนได้บ้างแล้ว ซึ่งถือเป็นอาการปกติของผู้สูงอายุวัยนี้และหลวงพ่อคูณเคยเข้ารับการผ่าตัดสมองครั้งใหญ่มาแล้ว ทั้งนี้แพทย์ได้ให้ยาบำรุงสมองเพื่อให้หลวงพ่อคูณฟื้นความทรงจำกลับมาเหมือนเดิมและให้น้ำเกลือไปแล้ว 2 ขวด เพื่อให้ร่างกายแข็งแรงมากขึ้น


นายแพทย์อนุชิต นิยมปัทมะ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคปอดและเวชบำบัดวิกฤต โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา กล่าวว่า เมื่อคืนที่ (13ส.ค.) ผ่านมาเวลาประมาณ 23.10 น. หลวงพ่อคูณมีอาการไข้สูง

คณะแพทย์ตัดสินใจให้ยาทามิฟูลซึ่งเป็นยาต้านเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 เนื่องจากเกรงว่าหลวงพ่อคูณอาจติดเชื้อดังกล่าว โดยการให้ยาทามิฟูลนั้นร่างกายหลวงพ่อคูณตอบสนองยาดี ไข้เริ่มลดลงเกือบเป็นปกติ แต่ยังคงมีเสมหะ และไอมาก ซึ่งแพทย์ได้ให้ยาขยายหลอดลมช่วยให้หายใจได้สะดวก ส่วนยาทามิฟูลที่ให้หลวงพ่อคูณนั้นร่างกายท่านตอบสนองดีไม่มีผลข้างเคียงในการรักษาแต่อย่างใด


ทั้งนี้ผลการตรวจจากห้องปฏิบัติการนั้นจะทราบผลภายใน 1-2 วันว่าหลวงพ่อคูณติดเชื้อหวัดใหญ่ 2009 หรือไม่ อย่างไรก็ตามคณะแพทย์ยังต้องดูแลอาการของหลวงพ่ออย่างใกล้ชิด

เพราะถือว่าท่านอาพาธหนักกว่าทุกครั้งที่ผ่านมาจึงงดเยี่ยมอย่างเด็ดขาดและขอฝากให้ลูกศิษย์ใกล้ชิดของหลวงพ่อที่ต้องดูแลตลอด 24 ชม.ต้องสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 นายแพทย์อนุชิตฯกล่าว ทางด้านนพ.พินิจจัย นาคพันธุ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคหัวใจและหลอดเลือด รพ.มหาราช นครราชสีมา ให้สัมภาษณ์ ว่า อาการทั่วไปดีขึ้นเล็กน้อย ส่วนอาการอย่างอื่นยังบอกไม่ได้ แต่ยังมีอาการไข้หนาวสั่นรุนแรงกว่าทุกครั้ง เบื้องต้นคาดว่าอาจเป็นหวัดใหญ่ 2009 เพราะมีอาการที่บ่งบอกค่อนข้างชัดเจน จึงให้ยาโอเซลทามิเวียร์เพื่อต้านเชื้อไว้รัสแล้ว
 
นพ.พินิจจัยกล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมาถือว่าหลวงพ่อคูณมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อหวัดสายพันธุ์ใหม่อย่างมาก

เนื่องจากคลุกคลีกับญาติโยมจำนวนมากอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน เบื้องต้นที่ระบุว่ามีอาการทางสมองนั้น ในทางการแพทย์อาการเช่นนี้ก็เกี่ยวพันกับไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ได้เช่นกัน ซึ่งจะต้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง ดังนั้น จะต้องให้ยาต้านไวรัสอย่างน้อย 5 วันเพื่อดูอาการ
 


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์