พังงาป่วนผวาสึนามิหลังแผ่นดินไหว

พังงาป่วน ชาวบ้านน้ำเค็ม-ทับละมุ อพยพ หลังรับแจ้งแผ่นดินไหวในทะเลอันดามัน เผย ได้รับ เอส เอ็ม เอส จากศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ น้อยใจหน่วยงานในพื้นที่เงียบ ด้านผู้ว่าฯ.สั่งเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงภัยสึนามิใกล้ชิด

(11ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า

เกิดเหตุแผ่นดินไหวในทะเลอันดามันเมื่อใกล้รุ่งวันนี้ ทำให้แกนน้ำ อปพร.บ้านน้ำเค็ม ต้องเรียกระดมพลกว่า 60 นายและอพยพคนกว่า 80 %ในพื้นที่เสี่ยงขึ้นไปอยู่ในที่สูงเกรงเกิด สึนามิ ซ้ำรอยปี 2547 โดยนายไมตรี จงไกรจักร ผู้ประสานงานบ้านน้ำเค็ม เปิดเผยว่า ช่วงเวลาดังกล่าวได้มี เอส เอ็ม เอส มาจากศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติว่า อาจเกิดคลื่นยักษ์ สึนามิ ขึ้นในทะเลอันดามันหลังเกิดแผ่นดินไหว ให้คอยสังเกตระดับน้ำทะเลและเตรียมอพยพชาวบ้านขึ้นที่สูง ซึ่งข้อความนี้ได้ถูกส่งมายังแกนนำอปพร.บ้านน้ำเค็มประมาณ 10 คน และตนเองด้วย
 
 จากนั้นตนจึงได้ประสานเรียกพลกว่า 60 คนประชุมประเมินสถานการณ์ ประมาณ 20 นาที และเวลาใกล้จะตีห้าวันเดียวกันก็มีข้อความเตือนอีกครั้ง ตนจึงได้แยกย้ายกันปลุกชาวบ้านที่ส่วนใหญ่ยังคงนอนหลับอยู่แจ้งให้ทราบถึงเรื่องเตือนภัยข้างตนและกำชับว่าอย่าตกใจให้ตั้งสติให้ดี
 
 ต่อมาได้อพยพคนกว่า 400 คนไปยังสำนักสงฆ์บ้านแหลมป้อมและที่โรงเรียนบ้าน้ำเค็มซึ่งเป็นอาคารสูง 3 ชั้นเพื่อความสบายใจของชาวบ้าน กระทั่งเวลา 07.00น.จึงอพยพคนกลับบ้าน เพราะมีข้อความแจ้งยกเลิกการเตือนภัย สึนามิ เข้ามา
 
 นายไมตรี  กล่าวว่า

การอพยพคนโดยที่ไม่มีเสียงจากหอเตือนภัยในหมู่บ้านดังขึ้นนับว่าได้ผล 90 เปอร์เซ็นต์ ที่ได้ฝึกซ้อมมา เพราะเราใช้กำลังพลเดินไปทุกบ้านแจ้งให้ทราบด้วยวาจาและกำชับไม่ให้ตกใจ และให้ทำตามคำแนะนำเจ้าหน้าที่ ในเมื่อไม่มีเสียงเตือนภัยดังขึ้นเราสามารถควบคุมคนให้อยู่ในภาวะไม่วิตกได้และทำการอพยพได้อย่างมีระบบและถูกต้องตามหลักวิธีการโดยที่ไม่ขลุกขลักหรือโกลาหลเกิดขึ้น การเตือนภัยและการอพยพคนในหมู่บ้านน้ำเค็มครั้งนี้ ไม่ได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่ระดับอำเภอหรือจังหวัดเลย ซึ่งไม่ทราบว่าหากเกิดคลื่นขึ้นจริงๆครั้งนี้ทางจังหวัดจะทราบในเวลากี่โมง
 
 นายวโรจน์ โฮ่สกุล ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 ต.บางม่วง อ.ตะกั่วป่า ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยและมีลูกบ้านอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยคือชุมชนชาวมอแกนทับตะวัน กล่าวว่า

ทราบข่าวการแจ้งเตือนให้เฝ้าระวังภัย สึนามิ ทางอินเตอร์เนท จึงแจ้งให้ชาวบ้านเฝ้าระวังเท่านั้นยังไม่ต้องอพยพ หากมีการเตือนให้หนีตนจะประกาศผ่านหอกระจ่ายข่าวหมู่บ้านอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งชาวบ้านก็เข้าใจและไม่มีใครตกใจหรือหนีออกมาจากหมู่บ้านแต่อย่างใด
 
 ด้านนายละออง แก้วสามสี ป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยจังหวัดพังงา กล่าวว่า
 
เวลา 0.0.2 น.เศษ ได้รับแจ้งจากศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติว่าได้เกิดแผ่นดินไหวขึ้นในทะเลอันดามัน และให้เฝ้าติดตามสถานการณ์ที่อาจเกิดคลื่นยักษ์ สึนามิ ขึ้นได้ ตนจึงสั่งให้กำลังพลเตรียมพร้อม ณ.ที่ตั้งและและติดตามการเตือนของทางศูนย์ฯโดยตลอด แต่ก็ไม่ได้แจ้งให้ชุมชนต่างๆเตรียมตัวแต่อย่างใดเพราะเกรงว่าชาวบ้านจะโกลาหล
 
 อย่างไรก็ตามการแจ้งเตือนภัยครั้งนี้ได้แจ้งผ่านระบบเอส เอ็ม เอ็ส ไปยังบุคคลอื่นๆด้วย ซึ่งชาวบ้านทั่วๆไปอาจไม่ทราบเพราะเป็นช่วงที่กำลังนอนหลับอยู่ และในเวลาเช้าของวันนี้ก็มีการแจ้งยกเลิกการเตือนไปแล้ว ในส่วนของชุมชนต่างๆนั้นตนยังไม่ได้รบรายงานการอพยพคนเข้ามาแต่อย่างใด
 
 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเพิ่มเติมว่าในพื้นที่บ้านทับละมุ ต.ลำแก่น อ.ท้ายเหมือง ชาวบ้านในพื้นที่ชายทะเลต่างทราบข่าวข้างต้นจากญาติๆทางโทรศัพท์ พากันหนีตายออกมาข้างนอก ซึ่งเป็นถนนเพชรเกษมกันจำนวนหนึ่งซึ่งมีทั้งคนไทยและแรงงานต่างด้าวชาวพม่า บ้างก็ไปหลบอยู่ในวัดหลักแก่น

 ด้านนายวันชาติ วงษ์ชัยชนะ ผวจ.ระนอง กล่าวว่า
 
เหตุเกิดแผ่นดินไหวขนาด 7.5 ริคเตอร์ ในหมู่เกาะกลางทะเลอันดามัน เพื่อเป็นการไม่ประมาทขณะนี้ทางตนได้จึงขอให้ทุกหน่วยงานและอำเภอดำเนินการดังนี้

1.ติดตามสถานการณโดยใกล้ชิดและประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนโดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงภัยทราบอย่างกว้างขวางให้อยู่ในสภาพการเตรียมพร้อม แต่ไม่ให้เกิดการตื่นตระหนก

2. แจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยที่จะเกิดภัยสึนามิหรือเกิดเกิดภัยสึนามิโดยผ่านทางวิทยุกระจายเสียงประจำท้องถิ่น เสียงตามสาย หอกระจายข่าวประจำหมู่บ้าน และเครือข่ายวิทยุสมัครเล่น

3.กำชับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง สำหรับอำเภอให้แจ้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ขอให้เตรียมความพร้อมของเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน อาสาสมัครเตือนภัย เฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด รวมถึงสถานพยาบาลที่จะต้องมีการเตรียมความพร้อมหากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินขึ้น
 
 นอกจากนี้ขณะนี้ทางจ.ระนองมีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง
 
เนื่องจากได้รับอิทธิพลจากพายุทั้ง 2 ลูก ซึ่งลักษณะเช่นนี้ทำให้พื้นที่ดังกล่าวมีฝนตกเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากในบางพื้นที่ จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยกับบริเวณที่ราบลุ่มริมน้ำ ที่ลาดเชิงเขา ระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนักที่อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากหรือดินถล่มได้ สำหรับชาวเรือควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ เรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้