เมื่อวันที่ 5 ส.ค. ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดตรัง ได้รับการเปิดเผยจาก นายชัยฤทธิ์ ถ่ายย้วน กำนันตำบลกะลาเส อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง
เนื่องในงานฌาปนกิจศพ พระครูกมลวรการ (เงื่อม อังสุกาโร สรรพจักร) หรือพระอาจารย์ เงื่อม อดีตเจ้าอาวาสวัดกมลศรี ตำบลกะลาเส อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง อายุ 82 ปี 51 พรรษา ซึ่งได้มรณภาพไปเมื่อวันที่ 29 มิ.ย. ที่ผ่านมานั้น ปรากฎว่า ได้มีเหตุอัศจรรย์เกิดขึ้นขณะฌาปนกิจศพ โดยหลังจากที่บุคคลสำคัญในระดับจังหวัดตรัง อาทิ นายกิจ หลีกภัย นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ตรัง และพระพรหมจริยาจารย์ เจ้าคณะใหญ่หนใต้ ซึ่งร่วมในงานดังกล่าวเดินทางกลับไปแล้ว และกำลังจุดเพลิงศพ ด้วยวิธีการยิงลูกหนูให้ไฟวิ่งเรื่อยๆ เพื่อไปจุดชนวนระเบิดกับดินประสิวภายในโลงศพ ซึ่งตั้งอยู่ ณ เมรุพิเศษภายในวัดกมลศรี โดยได้มีการราดน้ำมันเบนซินใส่ลงไปในโลงศพไว้จนเต็มที่แล้ว ซึ่งเป็นเวลาประมาณ 19.19 น. ของคืนวันที่ 4 ส.ค.ที่ผ่านมา
นายชัยฤทธิ์ กล่าวอีกว่า ทันทีที่สิ้นเสียงระเบิดของลูกหนู ก็เกิดไฟขึ้นลุกท่วมเหนือโลงศพ จากนั้น ได้ลุกไหม้เป็นเวลานานประมาณ 10 นาที ไฟก็ดับลง
ต่อมาอีกสักพักเมื่อควันไฟจางหายไปทั้งหมด คณะสงฆ์ คณะศิษยานุศิษย์ และประชาชน ที่อยู่ร่วมในงานพิธีต่างก็ต้องตกตะลึง ต่อเหตุอัศจรรย์ที่เกิดขึ้นบริเวณโลงศพของ พระอาจารย์เงื่อม เนื่องจากร่างกายของท่านมิได้ถูกไฟไหม้เลยแม้แต่นิดเดียว นอกจากผ้าขาวที่ใช้คลุมร่างของท่านที่ถูกไฟไหม้ไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ต่อเรื่องดังกล่าวเป็นอย่างยิ่ง
นายสุทน ขบวนพล อายุ 63 ปี ชาวอำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งได้รับการว่าจ้างให้มาทำหน้าที่เป็นสัปเหร่อในงานพิธีดังกล่าว บอกว่า ตนเองทำงานเป็นสัปเหร่อมานานถึง 15 ปีแล้ว
ไม่เคยปรากฎพบเห็นเหตุอัศจรรย์เช่นนี้มาก่อนเลย ไม่ว่าจะเป็นศพของฆราวาส หรือประชาชนทั่วไป หรือแม้แต่ศพของพระสงฆ์ในระดับชั้นต่างๆ เมื่อทำพิธีฌาปนกิจศพ หรือเผาศพทุกครั้ง เพลิงก็จะมอดไหม้ร่างกายไปทั้งหมด จนเหลือแค่เพียงกระดูกเท่านั้น ซึ่งตนเองก็ตอบไม่เช่นกันว่าเป็นไปได้อย่างไร และเพราะอะไร
หลังจากเกิดเหตุอัศจรรย์ขึ้นกับสรีระของ พระอาจารย์เงื่อม คณะศิษยานุศิษย์จึงร่วมกันประชุม เพื่อปรึกษาหารือกันเป็นการด่วน
โดยเบื้องต้นได้งดการแจกเหรียญวัตถุมงคล ที่เตรียมเอาไว้หลังจากเสร็จพิธีเผาศพออกไปก่อน ขณะเดียวกัน ก็มีผู้มีจิตศรัทธาจำนวนหนึ่ง ได้บริจาคเงินมาให้แล้ว 3 แสนบาท เพื่อสมทบทุนในการซื้อโลงแก้วนำมาบรรจุศพของท่าน ให้ประชาชนที่ทราบข่าวได้มากราบไหว้บูชาเพื่อความเป็นสิริมงคล ส่วนหลังจากนี้จะดำเนินการเช่นไรต่อไป ต้องรอการประชุมของคณะศิษยานุศิษย์อีกครั้ง
พระมหาโอทก ปริยปคุโณ เจ้าคณะอำเภอสิเกา กล่าวว่า พระอาจารย์เงื่อม เป็นพระเถระที่มีอุปนิสัยเรียบง่าย สงบเยือกเย็น พูดน้อย
ทุกอริยาบถที่พบเห็นจะอยู่ในอาการเป็นมิตรเสมอ ได้ฝากแบบอย่างอันดีงามแก่พระสงฆ์ผู้อยู่เบื้องหลังคือ ท่านเป็นพระผู้นั่งอยู่ในใจคน อันเนื่องมาจากทั้งบรรพชิตและคฤหัสถ์ต่างเคารพศรัทธาในวัตรปฏิบัติของท่าน ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระอาจารย์เงื่อม ถือได้ว่าเป็นพระเถระชั้นผู้ใหญ่ ที่มีอายุพรรษามากที่สุดในจังหวัดตรัง คือ 51 พรรษา