บีบีซีแจ้งว่า ที่ผ่านมานักวิทยาศาสตร์พบว่าเชื้อไวรัสเอช ไอวี/เอดส์ที่ระบาดไปทั่วโลกมีที่มาจากลิงชิมแปนซี
ล่าสุดพบข้อมูลน่าวิตกว่าเชื้อเอชไอวีใน "ลิงกอริลลา" ข้ามมาติดมนุษย์เป็นครั้งแรก แต่ยังโชคดีที่เชื้อดังกล่าวตอบสนองต่อการรักษาด้วยยาต้านไวรัสเอชไอวีในปัจจุบัน วารสารเนเจอร์เมดิซีนจีพิมพ์ผลการวิจัยร่วมกันของคณะนักไวรัสวิทยา ประเทศฝรั่งเศส และนักวิจัยมหาวิทยาลัยแมนเชส เตอร์ ประเทศอังกฤษ พบว่า หญิงวัย 62 ปีชาวแคเมอรูน ซึ่งย้ายมาอยู่ที่กรุงปารีส เมืองหลวงฝรั่งเศส มีเชื้อเอชไอวีสายพันธุ์ย่อยที่พบในลิงกอริลลา เบื้องต้นพบว่าผู้ป่วยไม่เคยกินเนื้อและไม่เคยสัมผัสกับลิงกอริลลาโดยตรง จึงเชื่อว่าน่าจะรับเชื้อมาจากผู้ชาย ซึ่งมีเชื้อดังกล่าวอยู่ในตัวอยู่แล้ว
"ผู้ติดเชื้อชาวแคเมอรูนย้ายมาอยู่กรุงปารีสเมื่อปี 2547 หลังจากนั้นไม่นานเข้ารับการตรวจหาเชื้อเอชไอวีพบว่าติดเชื้อเอชไอวี 1 แต่หาสายพันธุ์ย่อยไม่พบ นักวิจัยถอดรหัสพันธุกรรมของเชื้อแล้วใช้คอมพิวเตอร์เปรียบเทียบกับเชื้อเอชไอวีที่พบในคนและเชื้อเอสไอวีที่พบในลิงปรากฏว่ามีความเหมือนอย่างมากกับเชื้อเอชไอวีในลิงกอริลลา บ่งชี้ว่าเป็นสายพันธุ์ย่อยที่ข้ามจากลิงกอริลลามาสู่คน ขณะนี้คนไข้ยังไม่ปรากฏอาการของเอดส์ โดยมีปริมาณเชื้อไวรัสและเซลล์ภูมิคุ้มกันประเภทซีดี 4 คงที่เพราะรับยาต้านไวรัส"
ทั้งนี้ เชื้อเอชไอวีทุกสายพันธุ์ย่อยในตระกูลเอชไอวี 1 ล้วนเกี่ยวข้องกับลิงชิมแปนซี ได้แก่ สายพันธุ์ย่อยเอ็ม พบมากที่สุด ส่วนสายพันธุ์ย่อยโอและเอ็นพบไม่บ่อยนัก