พี่เลี้ยงตกใจ หลินฮุ่ยคาบแพนด้าน้อยลากพื้นไปมา

เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 4 ส.ค  ที่สวนสัตว์เชียงใหม่ นายประเสริฐศักดิ์ บุญตระกูลพูนทวี หัวหน้าโครงการวิจัยส่วนจัดแสดงหมีแพนด้าแห่งประเทศไทย

เปิดเผยว่า หลินฮุ่ยได้ทำการเรียนรู้ด้วยการคาบลูกแล้วลากไปกับพื้น สร้างความตกใจให้กับทีมงานพี่เลี้ยงแพนด้าเป็นอย่างมากว่าเกิดอะไรขึ้น ซึ่งทางนายประเสริฐศักดิ์ ได้อธิบายให้ทีมงานได้เข้าใจ เพราะถือเป็นการกระทำของหลินฮุ่ยครั้งแรกที่คาบลูกแล้วลากไปกับพื้น โดยคาบที่ท้ายทอยลูกและลากและเปลี่ยนเป็นอมหัวลูกแล้วลาก ตอนแรกทีมงานคิดว่าหลินฮุ่ยจะทำร้ายลูก กระทั่งทุกคนโล่งอกเมื่อหลินฮุ่ยได้ทำการยกลูกขึ้นมาอุ้มไว้ที่อกและทำการนั่งเลียลูก ซึ่งแพนด้าน้อยมีขนาดใหญ่มาก การกอดของหลินฮุ่ยจึงต้องสลับลูกไปมา เอาหัวลงบ้างขึ้นบ้าง จากนั้นหลินฮุ่ยก็ปล่อยลูกนอนกับพื้นและหลินฮุ่ยก็เดินไปกินใบไผ่ ตามปกติ

นายประเสริฐศักดิ์ บุญตระกูลพูนทวี กล่าวว่า หลินฮุ่ยอยู่ในช่วงของการหัดที่จะคาบลูก เพื่อต้องการจะย้ายจุดเดินไปเดินมา

ซึ่งแต่เดิมเราจะเห็นว่าหลินฮุ่ยจะใช้วิธีการอุ้มแล้วเดินสามขา แต่ตอนนี้ลูกมีน้ำหนัก  4 กิโลกรัมเกือบจะครึ่ง ถือว่าแพนด้าน้อยมีน้ำหนักมาก สำหรับตัวแม่หมีแพนด้าซึ่งจะต้องใช้วิธีการประคอง โดยการใช้ปากคาบด้วยส่วนหนึ่ง เมื่อลูกมีน้ำหนักมากทำให้ไม่สะดวกในการเดินไปเดินมา ซึ่งอีกขั้นตอนหนึ่งที่หลินฮุ่ยกำลังเรียนรู้ก็คือในเรื่องของการที่จะคาบลูก แต่เนื่องจากว่าหลินฮุ่ยเรียนรู้ด้วยวิธีการนี้ ช้าไปนิดหนึ่ง ก็อาจจะไม่สามารถคาบลูกแล้วยกให้ลอยขึ้นได้ ก็จะเริ่มต้นด้วยวิธีการเริ่มหาจุดที่เหมาะสมในการที่จะคาบแล้วก็ใช้วิธีลากลูก เพราะว่าการลากลูกจะปลอดภัยเพราะว่าน้ำหนักทั้งหมดจะอยู่กับพื้น ลูกก็จะไม่ได้รับอันตราย ถึงแม้ในช่วงแรกหลินฮุ่ยอาจจะคาบลูกในจุดที่ไม่เหมาะสม เช่นที่เห็น หลินฮุ่ยจะคาบที่บริเวณคอซึ่งหากใช้กำลังยกให้ลูกลอยตัวขึ้น ลูกก็จะเจ็บตัวแน่นอน จึงใช้วิธีการลาก 

โดยจุดที่คาบให้มาอยู่บริเวณส่วนหนังที่ท้ายทอยซึ่งลูกจะไม่เจ็บ  ตอนนี้เข้าใจว่าต่อไปหลินฮุ่ยจะยังคงคาบลากลูกต่อไป

ถือเป็นเรื่องการพัฒนาการการเลี้ยงดูลูกของหลินฮุ่ยขั้นตอนหนึ่งที่ไม่ได้เกิดอันตรายอะไร เราได้เห็นถึงความนุ่มนวลในการที่จะคอยนวดลูกไปทั่วทั้งตัว แล้วเห็นลูกโตวันโตคืนก็จะมีบางช่วงเวลาที่หลินฮุ่ยได้หยอกล้อเล่นกับลูก นวดให้ลูกให้ลูกได้รู้สึกสบายตัว ให้ลูกได้รับความอบอุ่นความรักจากแม่


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์