เมื่อวันที่ 29 ก.ค. ทีมงานโครงการวิจัยส่วนจัดแสดงหมีแพนด้า และสัตวแพทย์สวนสัตว์เชียงใหม่
รายงานผลการติดตามพัฒนาการลูกหมีแพนด้า ว่า ขณะนี้ อายุ 63 วัน โดยเมื่อช่วงกลางคืนวันที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านมา หลินฮุ่ยและลูกแยกกันนอนเป็นส่วนใหญ่ หลินฮุ่ยจะปลุกลูกด้วยการเลียทำความสะอาด เฉลี่ย 4 ชั่วโมงต่อครั้ง ในแต่ละครั้งหลินฮุ่ยจะให้ลูกอยู่ในท่านอนหงาย เลียที่ทวารหนักและอวัยวะเพศ เพื่อให้ขับถ่าย เมื่อทำความสะอาดแล้ว จะอุ้มลูกพลิกไปมาและเลียจนทั่วตัว ในช่วงแรกลูกแพนด้าจะส่งเสียงร้อง กระทั่งค่อยนอนหลับบนอกหลินฮุ่ย
ทีมสัตวแพทย์รายงานต่อว่า ลูกแพนด้ากินนมเฉลี่ยวันละ 3 ครั้ง แต่ละครั้งนานประมาณ 20 นาที น้ำหนักเพิ่มขึ้น เฉลี่ยวันละ 50 กรัม
ความยาวลำตัวเพิ่มขี้นเฉลี่ยวันละ 0.3 เซนติเมตร จากค่าเฉลี่ยที่นำไปสู่การคาดการณ์การเจริญเติบโตในตรวจสุขภาพครั้งต่อไป น้ำหนักตัวของลูกแพนด้าน่าจะอยู่ในช่วง 3,600-3,700 กรัม ความยาวลำตัวน่าจะอยู่ระหว่าง 48-49 เซนติเมตร
ต่อมา นายประเสริฐศักดิ์ บุญตระกูลพูนทวี หัวหน้าโครงการวิจัยส่วนจัดแสดงหมีแพนด้าแห่งประเทศไทย นำของเล่นเป็นม้าโยกพลาสติกเข้าไปในคอกกัก
เป็นช่วงที่หลินฮุ่ยปล่อยลูกนอนกับพื้น และหลินฮุ่ยไปกินใบไผ่ ทางเจ้าหน้าที่จับแพนด้าน้อยนั่งที่ม้าโยก และดูพฤติกรรม การตอบสนอง โดยแพนด้าน้อยใช้เท้าหน้ากำที่จับม้าโยก แต่ยังทรงตัวไม่ดีพอ ทำอยู่นานประมาณ 10 นาที หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่นำม้าโยกมายังหลินฮุ่ย เพื่อให้ดมจะได้คุ้นเคย
การนำของเล่นให้แพนด้าน้อยได้ทดสอบ เพื่อจะดูพัฒนาการ พบว่าตอบสนองที่ดี
ขาหน้ากำที่จับม้าโยกได้อย่างแน่นหนา แต่การทรงตัวยังไม่ดี ต้องช่วยประคอง แพนด้าน้อยมีพัฒนาการเสมือนเด็กทารกอายุประมาณ 7-8 เดือน ต้องค่อยๆ เรียนรู้ ต่อจากนี้จะเอาพรมมาปู เพื่อให้แพนด้าน้อยได้สัมผัสกับพื้นที่ ตะกาย หรือดึงตัวได้เนื่องจากพื้นซีเมนต์ลื่น จึงไม่สามารถคลานมาหาได้ แต่มีความพยายามจะทำให้ได้ นอกจากนี้ จะนำกระดิ่งมาทดสอบด้วย เพื่อสังเกตการได้ยิน