จากกรณี นสพ.ข่าวสด เสนอข่าว นายนวน เมฆสุวรรณ อายุยืนยาวถึง 113 ปี แล้วยังมีสุภาพแข็งแรง สามารถพูดจา จำหน้าลูกหลานได้ครบ
รวมทั้งยังไม่เจ็บป่วยหนักมาเป็นเวลานาน เผยเคล็ดทานผักธรรมชาติ กับปลาแม่น้ำเป็นประจำ จึงได้อายุยืน ตามข่าวที่เสนอไปก่อนหน้านี้แล้ว เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 24 กค. ผู้สื่อข่าวข่าวสด ได้เดินทางเข้าไปเยี่ยมคุณทวด นวน เมฆสุวรรณ บ้านเลขที่ 26 ม.7 บ้านท่าต้นเกี๋ยง ต.สันติสุข อ.พาน จ.เชียงราย โดยได้พบกับ นายอ้าย เมฆสุวรรณ อายุ 73 ปี ลูกชายคนเดียวที่เหลืออยู่บัจุบัน
ลุงอ้าย เปิดเผยว่า ตนเป็นบุตรชายคนที่สามของครอบครัว นอกนั้นเป็นหญิงหมด บัจจุบันนอายุ 73 ปีแล้ว แต่ยังแข็งแรงออกไปทำไร่ทำสวนปกติ
และยังหาข้าวหาปลาให้บิดาทานประจำ คุณทวดนวนตอนยังหนุ่มแข็งแรงมาก หาปลาเก่งมาก ตนเคยไปหาปลาตามแหล่งน้ำธรรมชาติกับพ่อบ่อย ๆ แต่ว่ายน้ำไม่เก่งเลยไม่กล้าไปด้วย พ่อจะชอบเก็บผักตามธรรมชาติในป่า ตามข้างนามาทานกับน้ำพริก ไม่ว่าจะทานสด หรือลวกก็ชอบทั้งนั้นทานกับปลาที่แกหามาได้แทบทุกมื้อ ตนและพี่น้องกินกันทั้งครอบครัว ปลาที่กินเป็นประจำก็เป็นปลาพื้นบ้าน ปลาใน ปลาขาว ปลาหมอ ปลาดุก ฯลฯ
ลุงอ้าย เปิดเผยว่า ตอนนี้ สุภาพทุกอย่างของ ตานวน โดยรวมค่อนข้างแข็งแรง
จะน่าห่วงก็เรื่องสายตาที่พร่ามัว ด้านซ้าย ที่ต้องการจะให้แพทย์มาช่วยเหลือ ตนคาดว่าจะเป็นโรคต้อ เหมือนกับคนแก่ทั่วไปเป็น และอยากได้แว่นใหม่ มาให้ใส่ เพราะแว่นอันเก่า ก็เก่ามากแล้ว จะออกไปวัดสายตา ซื้อแว่นใหม่ก็กลัวว่าเงินจะไม่พอ
หลังจากที่ข่าวได้เสนอไปแล้ว นั้น นางยุพิน ผ่องรัตน์นันท์ ซึ่งเป็นญาติของทวดนวน เล่าให้ฟังว่า มีกลุ่มผู้สูงอายุในตำบลติดต่อ จะขอมาเยี่ยมตานวน
เพื่อขอดูตัวจริงและพูดคุยต่าง ๆ นานา พร้อมทั้งนำข้าวของมาเยี่ยม ตนก็รู้สึกดีใจที่ยังมีคนให้ความสนใจตานวนอยู่ และได้เล่าให้ตานวนฟัง ตานวนก็ยิ้มพอใจ เพราะทุกวันนี้อยู่บ้านคนเดียวบ่อยมาก เหงา ไม่ค่อยมีคนคุยด้วย อ่านหนังสือก็ไม่ออก ไม่ค่อยชอบดูทีวีเท่าไหร่นัก จะมีลูกหลานแวะจัดข้าวปลาน้ำให้จากนั้นต่างคนก็ต่างไปไร่ไปสวน จะกลับมาก็ช่วงเที่ยง แล้วก็ไปสวนอีก มีแต่กินกับนอน นั่งดูรถผ่านไปผ่านมาเท่านั้น
รายงานข่าวแจ้งว่า หลังจากที่ นสพ.ข่าวสดลง ข่าว ตานวนไปแล้วนั้น เมื่อตานวน ทราบว่าตัวเองลง นสพ. ก็รู้สึกดีใจ ถึงแม้จะอ่านไม่ออก
แต่เห็นรูปตนแล้ว ก็ยิ้มอย่างพอใจ โดยมีญาติอ่านข้อความและอธิบายภาพให้ ตานวนเข้าใจ เรียกเสียงหัวเราะได้เป็นระยะ แถมยังถามผู้สื่อข่าวว่า หนังสือพิมพ์นี้ทำที่ไหนอีกด้วย