ดร.สมิทธ ธรรมสโรช นักวิชาการอิสระและผู้เชี่ยวชาญด้านการเตือนภัยพิบัติ กล่าวในการเสวนาเรื่องแนวโน้มภัยพิบัติธรรมชาติในอนาคตและการเตรียมพร้อมเพื่อรับมือกับภัยพิบัติ ที่ จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม
ที่มีการลือจะเกิดแผ่นดินไหวในวันที่ 22 กรกฎคมที่จะถึงนี้ ทางวิชาการอาจเป็นไปได้ จากการสอบถามผู้เชี่ยวชาญและนักดาราศาสตร์จะเกิดสุริยคราส มีแรงดึงดูดให้เปลือกโลกขยับตัว ซึ่งทางทฤษฎีเป็นไปได้ที่จะเกิดแผ่นดินไหวดึงคลื่นเข้าอ่าวไทยได้ หากเกิดขึ้นจริงควรเตรียมตัวไว้
ดร.สมิทธกล่าวว่า ถ้ามีการขยับตัวของเปลือกโลกแถบหมู่เกาะไต้หวัน ญี่ปุ่นตอนใต้และฟิลิปินส์จะเกิดคลื่นพัดเข้ามาถึงอ่าวไทยสูง 2-3 เมตรน้อยกว่าสึนามิ
เพราะกว่าจะถึงอ่าวไทยสามารถใช้เวลาเตรียมตัวหลบหนีได้ทัน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรจะออกมาให้ข้อมูล ที่น่าเป็นห่วงคือรอยเลื่อนเปลือกโลกบริเวณเจดีย์สามองค์และรอยเลื่อนศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี ใต้เขื่อนศรีนครินทร์ ที่ยังมีพลังอยู่ ถึงแม้ตัวเขื่อนจะรับแรงแผ่นดินไหวขนาด 7.5 ริคเตอร์ได้ แต่หากแผ่นดินไหวรุนแรงกว่านี้อาจเกิดผลกระทบต่อพื้นที่บริเวณใต้เขื่อนได้
ด้าน นพ.ชาตรี เจริญชีวะกุล เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (ศูนย์นเรนทร) กล่าวว่า กำลังมีการเจราจาให้มีการซ้อมอพยพที่ จ.กาญจนบุรีไว้ก่อน
หากไม่มีอะไรก็ไม่เป็นไร ซึ่งทางศูนย์ได้รวบรวมประสานเฮลิคอปเตอร์ของหน่วยงานราชการเอกชน รวมทั้งเรือสปีดโบ๊ตไว้รับเหตุภัยพิบัติ โดยกันเงินสำรองไว้ใช้จ่าย 10 ล้านบาท และมีเจ้าหน้าที่ทีมแพทย์พยาบาลฉุกเฉินทั่วประเทศอีก 90,000 คน นอกจากนี้ตั้งเป้าให้มีหน่วยกู้ชีพกู้ภัยในทุกตำบลด้วย