ผู้สื่อข่าวรายงาน เมื่อวันที่ 12 ก.ค.ว่า นพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร
ได้เดินทางมาที่บริษัท มติชน จำกัด(มหาชน) เพื่อชี้แจงเรื่องการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 พร้อมมอบหน้ากากอนามัย เจลล้างมือ เพื่อป้องกันโรค นพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์กับมติชนว่า ในวันพรุ่งนี้ (13 ก.ค.) เวลา 11.00 น. สธ.จะเป็นเจ้าภาพจัดประชุมคณบดีคณะแพทยศาสตร์ ทุกมหาวิทยาลัยในพื้นที่กรุงเทพฯ อาทิ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล โรงพยาบาลรามาธิบดี โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เพื่อวางแนวทางการรักษาที่เหมาะสม ส่วนความเสี่ยงต่อการขึ้นรถประจำทาง ยอมรับว่ารถปรับอากาศที่ปิดสนิทนั้นเสี่ยงอันตราย จึงอยากให้สวมหน้ากากเพื่อป้องกัน นอกจากนี้ ยังต้องระมัดระวังเรื่องการรับน้อง เช่น การดื่มเหล้าแก้วเดียวกัน หรือให้รุ่นน้องอมไข่ลูกเดียวกัน จนทำให้ติดเชื้อ
นพ.ภาสกร อัครเสวี ผู้อำนวยการสำนักระบาดวิทยา กล่าวว่า การระบาดของโรคยังอยู่ในระลอกที่ 1
คือ ซึ่งจะมีผู้ป่วยเป็นกลุ่มเด็ก เยาวชนอายุระหว่าง 11-24 ปี ป่วยมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 87 ซึ่งจากการสอบสวนโรคพบว่า เด็กที่ติดเชื้อ ร้อยละ 10 ไปเรียนที่โรงเรียนกวดวิชา สธ.จึงจำเป็นต้องออกมาตรการสั่งปิดโรงเรียนกวดวิชา 2 สัปดาห์ เพื่อชะลอการระบาดของโรคให้ช้าลง โดยนักวิชาการคาดการณ์ว่า หากไม่มีมาตรการควบคุมโรคเลย ภายใน 180 วันหลังพบการระบาดครั้งแรก จะมีผู้ติดเชื้อสูงถึงร้อยละ 30 ของประชากรในประเทศ หากไม่เร่งดำเนินมาตรการจะทำให้การระบาดหนักขึ้น ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตประมาณ 1200-1800 คน แต่ถ้าร่วมกันป้องกันจะช่วยชะลอการตาย ทำให้ผู้เสียชีวิตลดลงกว่าครึ่ง
"ขณะนี้สธ. ต้องติดตามสถานการณ์การระบาดอย่างใกล้ชิดว่าจะเกิดการระบาดระลอก 2 หรือไม่ ซึ่งตามประวัติศาสตร์การระบาดของไวรัส มักจะเกิดขึ้นในช่วง 6-8 เดือน หลังจากพบการระบาดครั้งแรก โดยจะพบผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้นกว่าการระบาดระลอกแรก แต่เปลี่ยนกลุ่มผู้ป่วยจากเดิมเป็นกลุ่มเด็ก เยาวชน และระบาดในโรงเรียน จะขยายการระบาดไปสู่กลุ่มคนวัยทำงาน และระบาดในสถานที่ทำงานแทน ซึ่งส่วนใหญ่จะติดเชื้อมากจากเด็กที่เคยป่วยอยู่ก่อนแล้ว อย่างไรก็ตาม ไม่สามารถยืนยันได้ว่า ประเทศไทยจะมีการการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ระลอก 2 หรือไม่ เพราะไม่จำเป็นว่าโรคระบาดใหม่ทุกโรคจะต้องมีการระบาดระลอก 2 ที่สำคัญหากไทยมีมาตรการควบคุมโรคที่เข้มแข็งก็อาจจะไม่มีการระบาดอีกก็ได้" นพ.ภาสกร กล่าว
นพ.ภาสกร กล่าวอีกว่า คนทั่วไปนั้น มีโอกาสรับเชื้อ บางคนมีอาการน้อย แต่ผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงจึงจะเข้าสู่ระบบการรักษา คนทั่วไปจึงไม่จำเป็นต้องตรวจ
และโรคนี้ยังสามารถหายได้เอง หากมีร่างกายที่แข็งแรง ซึ่งโรงพยาบาลทุกแห่งรวมกันสามารถตรวจได้เพียงวันละ 2000 คน ส่งผลให้ผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงได้รับการตรวจช้า สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ การควบคุมร้านเกม เนื่องจากไม่สามารถใช้กฎหมายบังคับให้ปิดร้านได้ โดยผู้เสียชีวิตรายที่ 17 นั้น เป็นเจ้าของร้านเกม รวมทั้งมีรายงานผู้ติดเชื้อที่เป็นเจ้าของร้านเกมอีกราย ซึ่งขณะนี้มีอาการปอดบวมด้วย
"สิ่งที่น่าเป็นห่วง คือ การประกอบพิธีฮัจย์ หากแพร่ระบาดเข้าโลกมุสลิม อาจจะลุกลามถึงแอฟริกาเหนือด้วย" นพ.ภาสกร กล่าว
สำหรับโรคเรื้อรังที่เสี่ยงต่อการเสียชีวิตหากติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 อาทิ
โรคเบาหวาน โรคความดัน โรคเลือดจางธาลัสซีเมีย โรคไต โรคอ้วน โรคหอบหืด และโรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ผู้ป่วยที่เป็นโรคเหล่านี้ควรรีบพบแพทย์ภายใน 3 วัน หากมีอาการ ไข้ น้ำมูกไหล ไอ จาม และต้องรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
