เหยื่อหวัดใหญ่ 2009 ตายเพิ่มอีก 2 เป็นรายที่ 8 และ 9 ของไทย เผยชายอายุ 58 ปี มีโรคประ จำตัวไตวายเรื้อรัง กับเด็กหญิง 8 ขวบ จ.เพชรบุรีป่วยเป็นลูคีเมียมาก่อน
อธิบดีกรมแพทย์เผยยังมีผู้ป่วยอาการหนักอีก 2 ราย เด็กชาย 7 ขวบ นอนรักษาตัวร.พ.นาน 7 วัน แต่อาการไม่ดีขึ้น แถมทรุดหนักเนื่องจากเชื้อลามขึ้นสมอง ถือเป็นรายแรกของไทย ทั่วโลกพบน้อยกว่าร้อยละ 1 ยอมรับมีโอกาสเสียชีวิตสูง อีกรายหญิงท้อง 3 เดือน มีโรคประจำตัวเป็นธาลัสซีเมีย
ดช.โคม่า-หวัดลาม ขึ้นสมอง รายแรกของไทย
เมื่อวันที่ 7 ก.ค. นายมานิต นพอมรบดี รมช.สาธารณสุข เปิดเผยว่า ได้รับรายงานมีผู้เสียชีวิตจากเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 เพิ่มอีก 2 ราย
รายแรกเสียชีวิตตั้งแต่วันที่ 5 ก.ค. ที่ร.พ.ราชวิถี เป็นชายอายุ 58 ปี แพทย์ระบุสาเหตุการเสียชีวิตว่าเกิดจากอาการไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย นับเป็นคนไข้รายที่ 8 ที่เสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ส่วนผู้เสียชีวิตรายที่ 9 เป็นเด็กหญิงอายุ 8 ขวบ จ.เพชรบุรี เสียชีวิตตั้งแต่วันที่ 2 ก.ค.ที่ผ่านมา และผลตรวจยืนยันการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 เมื่อวันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยเด็กมีโรคประจำตัวคือโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวหรือลูคีเมีย สันนิษฐานว่าเด็กติดเชื้อจากเพื่อนในโรงเรียน
รมช.สาธารณสุข กล่าวว่า ผู้เสียชีวิตทั้ง 2 รายถือเป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะเสียชีวิตเพราะมีโรคประจำตัว และโรคแทรกซ้อนจากไข้หวัด 2009 ได้มากกว่าคนปกติ
เพราะเป็นผู้ป่วยโรคเรื้อรัง โดยเฉพาะโรคไต ซึ่งมีโอกาสที่คนไข้จะช็อก หรือเสียชีวิตจากอาการไตวายได้อยู่แล้ว ส่วนชื่อและภูมิลำเนาของผู้ป่วย ทางกระทรวงไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากเป็นความประสงค์ของญาติ และต้องเคารพในสิทธิผู้ป่วย "ไม่อยากให้ประชาชนตื่นตระหนกแม้จะมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น แต่ที่ผ่านมาจะเห็นว่าผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่มีความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตสูงอยู่แล้ว เช่น มีน้ำหนักตัวมากเกินปกติ มีอาการโรคเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง และโรคไตวาย เมื่อติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 อาจเป็นตัวกระตุ้นให้ภูมิคุ้มกันในร่างกายลดลงและเสียชีวิตในที่สุด ไม่ใช่เสียชีวิตเพราะไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 อย่างเดียว" นายมานิต กล่าว
ด้านน.พ.เรวัต วิศรุตเวช อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ผู้เสียชีวิตรายที่ 8 เป็นชายวัย 58 ปี มีโรคประจำตัวเป็นโรคไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย
ต้องฟอกเลือดด้วยเครื่องล้างไตเทียมสัปดาห์ละ 2 ครั้ง เคยผ่าตัดนิ่วในไตทั้ง 2 ข้าง โดยรักษาตัวที่ร.พ.ราชวิถี เสียชีวิตวันที่ 5 ก.ค. ช่วงเวลาประมาณ 13.30 น. แต่ผลตรวจพิสูจน์จากห้องปฏิบัติการของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เพิ่งสรุปเมื่อช่วงค่ำวันที่ 6 ก.ค."ผู้ป่วยมาโรงพยาบาลในวันที่ 1 ก.ค. หลังจากมีไข้สูงมาก่อนแล้ว 2-3 วัน อาการขณะที่มาพบแพทย์มีไข้สูง เหนื่อยแต่ไม่หอบ รู้สึกตัวดี แพทย์ได้ส่งตัวเอกซเรย์พบมีอาการปอด บวม จึงให้พักที่ห้องผู้ป่วยธรรมดาเนื่อง จากอาการไม่หนักมาก ต่อมาวันที่ 5 ก.ค.ผู้ป่วยมีอาการทรุดลง หอบมากขึ้น จึงนำตัวเข้าห้องไอซียูพร้อมกับใส่เครื่องช่วยหายใจ แต่อาการไม่ดีขึ้นและหัวใจหยุดเต้น แพทย์พยายามช่วยชีวิตอย่างเต็มที่แต่ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้" น.พ.เรวัต กล่าว
อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังมีผู้ป่วยอาการหนัก 2 รายอยู่ในกรุงเทพฯ ทั้งหมด รายแรกเป็นเด็กชายอายุ 7 ขวบ พักรักษาตัวอยู่ ร.พ.นพรัตน์ราชธานี รักษาตัวมา 1 สัปดาห์แล้ว อาการยังไม่ดีขึ้น
ล่าสุดเชื้อไวรัสขึ้นสมองทำให้อาการทรุดลง ชักเกร็งเป็นระยะ ทำให้ไม่รู้สึกตัว แต่เอกซเรย์ที่ปอดไม่พบว่าปอดบวม นับว่าเป็นรายแรกของไทยที่มีเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ 2009 ขึ้นสมอง อย่างไรก็ตาม การที่เชื้อไวรัสขึ้นสมองนั้นเกิดขึ้นได้ตามปกติของโรค ไม่เกี่ยวกับการรักษาล่าช้าหรือรักษาผิดพลาด ส่วนรายที่ 2 ที่มีอาการหนัก เป็นหญิงตั้งครรภ์อายุครรภ์ 12 สัปดาห์ ป่วยเป็นโรคธาลัสซีเมีย ผลอาการล่าสุดพบว่าเด็กยังอยู่ในภาวะปลอดภัย ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าในอนาคตจะมีการส่งต่อผู้ป่วยอาการหนักมาโรงพยาบาลในสังกัดของกรมการแพทย์มากขึ้น ซึ่งขณะนี้ได้เตรียมความพร้อมรับมือแล้ว
รศ.(พิเศษ)น.พ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ ผู้ทรงคุณวุฒิระดับ 11 กรมการแพทย์ กล่าวว่า เชื้อไวรัสขึ้นสมองมีโอกาสเกิดขึ้นทั้งไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล และไข้หวัดใหญ่ 2009 ถือเป็นธรรมชาติของโรค แต่จะเกิดขึ้นน้อยมาก
ทั่วโลกพบน้อยกว่าร้อยละ 1 ส่วนใหญ่พบมากในญี่ปุ่นและเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี เมื่อเชื้อขึ้นสมองจะทำให้มีโอกาสเสียชีวิตสูง ขณะนี้นักวิชาการทั่วโลกยังไม่ทราบสาเหตุที่ทำให้เชื้อขึ้นสมอง แต่สันนิษฐานว่าอุบัติการณ์ดังกล่าวน่าจะพบได้ในภูมิภาคเดียวกัน "ก่อนหน้านี้ไทยพบว่ามีผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลเชื้อขึ้นสมองเช่นกัน แต่น้อยมากจนไม่สามารถคำนวณเป็นเปอร์เซ็นต์ได้ สำหรับเด็กอายุ 7 ปีที่มีเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 ขึ้นสมองนั้น ขณะนี้ได้ขอข้อมูลแนวทางการรักษาไปยังผู้เชี่ยวชาญของสหรัฐอเมริกาแล้ว เพราะสหรัฐรักษาผู้ป่วยเด็กที่เชื้อขึ้นสมองไปแล้ว 4 ราย แนวทางการรักษาเบื้องต้นคือการให้ยาโอเซลทามิเวียร์เพิ่มขึ้นจากเดิม 5 วัน เป็น 10 วัน" รศ.(พิเศษ)น.พ.ทวี กล่าว
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับตัวเลขผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ของไทย ล่าสุดวันนี้พบผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 156 ราย ส่งผลให้ยอดรวมเป็น 2,428 ราย ยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 40 ราย เสียชีวิต 9 ราย และเฝ้าระวังอีก 2 ราย
เมื่อเวลา 10.30 น. ที่ห้องประชุมสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเพชรบุรีเขต 1 อ.เมือง จ.เพชรบุรี นายชาย พานิชพรพันธุ์ ผู้ว่าฯเพชร บุรี เป็นประธานประชุมแถลงข้อเท็จจริงและแนวทางการป้องกัน หลังพบเด็กหญิงวัย 8 ขวบติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 แล้วเสียชีวิต มีหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องและผู้บริหารสถานศึกษาในตัวเมืองเพชรบุรี เข้าร่วมรับฟังจำนวนมาก
น.พ.วัฒนา โรจนวิจิตรกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเพชรบุรี กล่าวว่า ในจ. เพชรบุรีพบผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 จำนวน 12 ราย เป็นเด็กนักเรียนทั้งหมด รวมทั้งด.ญ.พรปวีร์ จงเจริญ วัย 8 ขวบ ที่เสียชีวิตเมื่อช่วงกลางคืนวันที่ 2 ก.ค.ที่ผ่านมาด้วย และยังมีนักเรียนที่นอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลอีก 1 ราย ส่วนอีก 10 รายอาการปลอดภัย แพทย์ให้กลับไปพักผ่อนเฝ้าดูอาการที่บ้าน ส่วนกรณีด.ญ.พรปวีร์ที่เสียชีวิต เนื่องจากป่วยด้วยโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวและปอดติดเชื้อรุนแรง และยังมาติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 ร่วมด้วย
น.พ.วัฒนา กล่าวต่อว่า ทางสาธารณสุขแจ้งขอความร่วมมือไปยังทุกโรงเรียนให้ป้องกันการแพร่เชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 เพิ่มมากขึ้น เบื้องต้นได้แจกผ้าปิดปากป้องกันเชื้อโรค รวมทั้งให้คำแนะนำในการปฏิบัติตนที่ถูกต้อง เพื่อป้องกันเชื้อโรคทั้งนักเรียนและครู รวมทั้งบุคคลอื่น หากไม่แน่ใจให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทราบทันที เพื่อตรวจสอบและป้องกันการแพร่กระจายได้ทัน
นายชาย พานิชพรพันธุ์ ผู้ว่าฯเพชรบุรี กล่าวว่า หลังจากนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องให้ความสำคัญกับการป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค ทั้งผู้ติดเชื้อและผู้ต้องสงสัยให้มากขึ้น
นางน้ำเพชร จงเจริญ แม่ของด.ญ.พรปวีร์ เผยว่า ลูกสาวป่วยเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว มากว่า 3 ปี โดยนำลูกไปรักษาที่สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กรุงเทพฯ ก่อนนำลูกส่งร.พ.พระจอมเกล้าฯ เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.ที่ผ่านมา
โดยลูกสาวมีอาการเหนื่อยหอบและไอเล็กน้อย วันรุ่งขึ้นอาการหนักต้องนำเข้าห้องไอซียู ทางโรงพยาบาลแจ้งว่าต้องนำเด็กส่งยังโรงพยาบาลที่กรุงเทพฯ แต่เมื่อสอบถามก็ถูกบ่ายเบี่ยงตลอดว่าเตียงคนไข้ที่โรงพยาบาลในกรุงเทพฯ เต็ม ต้องพักรักษาที่ร.พ.พระจอม เกล้าฯ จนอาการทรุดลงเรื่อยๆ ถึงวันที่ 2 ก.ค. จึงตัดสินใจนำลูกกลับบ้าน เพราะเห็นว่าลูกอาการทรุดหนักและคงไม่รอด ขณะนั้นแพทย์บอกว่าลูกอาจเป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ทำให้ตนและสามีไม่พอใจ เพราะตลอดเวลาที่อยู่โรงพยาบาลไม่ได้รับการเอาใจใส่ดูแลเท่าที่ควร สภาพร่างกายลูกก็ทรุดหนัก จึงตัดสินใจนำลูกกลับบ้านและเมื่อมาถึงบ้านลูกก็เสียชีวิต จากนั้นทางสาธารณสุขจังหวัดจึงเดินทางมานำเสมหะลูกไปตรวจ และตรวจสอบรายชื่อบุคคลที่สัมผัสใกล้ชิดกับลูกของตนทั้งหมด
นางน้ำเพชร เผยต่อว่า จนถึงขณะนี้ทางครอบครัวยังไม่ได้รับแจ้งจากหน่วยงานที่เกี่ยว ข้องว่า ลูกสาวติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 ด้วย
โดยในใบมรณบัตรระบุเสียชีวิตจากโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว และปอดติดเชื้อรุนแรงเท่านั้น ถ้าติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 จริง ทำไมแพทย์ตรวจไม่เจอ เพราะนอนรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลถึง 9 วัน แต่หลังเสียชีวิตกลับพบว่ามีเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 อยู่ด้วย ทำให้ตอนนี้ตนกับสามีรวมทั้งญาติๆ เหนื่อยไปตามๆ กัน เพราะจะมีเจ้าหน้าที่มาตรวจเช็กร่างกายและซักถามรายละเอียดตลอดเวลา หากแพทย์ตรวจพบและรีบนำไปรักษายังโรงพยาบาลในกรุงเทพฯ ลูก สาวอาจจะไม่เสียชีวิตก็ได้ แต่ตนไม่ได้ติดใจอะไรมากนักเนื่องจากทราบอยู่แล้วว่าไม่นานลูกคงต้องเสียชีวิต เนื่องจากเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว แต่อยู่ๆ มาบอกว่าพบเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 รวมอยู่ด้วย ถ้าเป็นเช่นนั้นทำไมแพทย์ไม่พบเชื้อตั้งแต่ตอนแรก เพราะช่วงที่นำลูกไปรักษาที่โรงพยาบาลพระจอมเกล้าฯ ก็ไม่ได้พาไปรักษาหรือเดินทางไปยังสถานที่ใดอีกเลยกระทั่งเสียชีวิต
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับอาการป่วยของนักแสดงสาวเซ็กซี่ "เป้ย"ปานวาด เหมมณี หลังถูกนำตัวส่งร.พ.กรุงเทพ ตั้งแต่วันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมา เพื่อตรวจหาเชื้อไข้หวัด 2009 นั้น
ในวันนี้อาการของนักแสดงสาวดีขึ้นมาก โดยแฟนหนุ่ม "อาร์"อาณัตพล ศิริชุมแสง ที่เฝ้าไข้อยู่ด้วยตลอดเวลา เผยว่า วันนี้เป้ยอาการดีขึ้นมาก ไม่มีไข้ แต่ยังมีอาการไอบ้างและยังบ่นปวดเนื้อตัวอยู่ ส่วนเรื่องผลตรวจว่าเป็นไข้หวัด 2009 หรือไม่ ต้องรอผลตอนเที่ยงคืนวันที่ 8 ก.ค. เพราะแพทย์บอกว่าต้องใช้เวลาตรวจ 4 วันถึงจะทราบผล การรักษาตอนนี้ก็เหมือนกับการรักษาไข้หวัดใหญ่ทั่วไป เพราะไข้หวัด 2009 ก็ต้องใช้วิธีรักษาแบบเดียวกัน
ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกหัวหน้าพรรคกล่าวถึงกรณีการระบาดไข้หวัดใหญ่ 2009 ว่า รัฐบาลได้พยายามแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ตามมาตรฐานโลก
เมื่อดูจำนวนผู้เสียชีวิต ไทยไม่ได้เสียชีวิตมากกว่าประเทศในโลก และถือเป็นเหตุสุดวิสัย และเป็นเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ที่รัฐบาลให้ความสำคัญและ พยายามแก้ไข แต่พรรคเพื่อไทยได้เรียกร้องให้รมว.สาธารณสุขและนายกฯ ลาออก ขอเรียนว่าถ้ากลับไปดูในยุครัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ไม่เคยมีใครเรียกร้องให้รัฐบาลรับผิดชอบในการระบาดของโรคไข้หวัดนก โรคซาร์ส ทั้งที่มีอัตราผู้เสียชีวิตมากกว่าไข้หวัดใหญ่ 2009
นายเทพไท กล่าวอีกว่า วันนี้กลับมีนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทยออกมาท้าเดิมพันตำแหน่งกับรมว.สาธารณสุข และนายกฯ อยากถามว่านายพร้อมพงศ์มีตำแหน่งอะไรที่มีศักดิ์ศรีจะมาเดิมพัน เพราะเป็นแค่ส.ส. สอบตก เป็นแค่โฆษกพรรคเพื่อไทยในวันที่ไม่มีส.ส.อยากรับตำแหน่งนี้เพราะกลัวถูกยุบพรรค ไม่มีใครเอาพิมเสนแลกกับเกลือ ไม่มีใครเอาเพชรไปแลกกับก้อนกรวด เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่จะมาท้าพนันตำแหน่งกัน