นอกจากนี้ธรรมเนียมจีนการตั้งชื่อ หากมีคำเดียวกันในชื่อจะตั้งเฉพาะในกลุ่มพี่น้อง หรือ คนในรุ่นเดียวกัน เช่น ถ้าพี่ชื่อหลินฮุย น้องจะชื่อ หลินปิง ดังนั้นหากตั้งชื่อแพนด้าน้อยว่า ” หลินปิง ” อาจมีความหมายว่าเป็นพี่น้องกับหลินฮุยได้
“สำหรับชื่อหลินปิงนั้น หลิน แปลว่า ป่า ส่วนปิง แปลว่าน้ำแข็ง เมื่อนำมารวมกันชื่อนี้จึงมีความหมายว่าป่าน้ำแข็ง แม้ชื่อมีความหมายดีแต่เป็นชื่อของผู้ชาย จึงไม่ควรนำมาตั้งเป็นชื่อแพนด้าเพศเมีย”นายกฤตย์กล่าวและว่า การท้วงติงชื่อการตั้งชื่อแพนด้าน้อย เข้าใจว่าทูตจีนทราบดีแต่ที่ไม่ออกมาท้วงติงเพราะเป็นมารยาท แต่ในฐานะตนงเป็นคนไทยเชื้อสายจีนที่เข้าใจในวัฒนธรรม จำเป็นต้องออกมาท้วงติงเพื่อความถูกต้อง
ส่วนด.ญ.กัญญาพร เยี่ยมเมธากร อายุ 10 ปี กล่าวว่า
พ่อชวนมาเข้าแถวดูแพนด้าน้อยตั้งแต่เช้า ดูแล้วผ่านตู้อบแม้ได้ดูไม่นาน เพราะเจ้าหน้าที่จัดเวลาให้ชมคนละไม่กี่นาที แต่แพนด้าน้อยน่ารักมาก หากแพนด้าน้อยโตขึ้นจะกลับมาดูอีก
ส่วนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เข้าชมแพนด้าน้อยในวันนี้ นาย GLENN BURCHETT อายุ 63 ปี ชาวอเมริกัน กล่าวว่า
แพนด้าเป็นสัตว์ที่น่ารักและสวยงาม ส่วนความแตกต่างระหวางแพนด้าน้อยที่สวนสัตว์ในซานดิเอโก้และวอชิงตัน แพนด้าที่นั้นจะตัวโตกว่าแพนด้าน้อยของสวนสัตว์เชียงใหม่ จึงนำออกมาโชว์นอกตู้อบให้ประชาชนและนักท่อเที่ยวชมได้และเปิดให้นักท่องเที่ยวถ่ายภาพได้แต่ที่นี้ไม่อนุญาต เพราะแพนด้าน้อยของสวนสัตว์เชียงใหม่ต้องชมผ่านตู้อบ
นางสาวนวลจันทร์ เรืองเดช ภรรยาของนาย GLENN BURCHETT ซึ่งเกษียณอายุจากอเมริกามาพำนักที่ประเทศไทย และถือโอกาสวันหยุดยาวมาพักผ่อนที่ จ.เชียงใหม่ และมาชมแพนด้าน้อยพร้อมสามี กล่าวว่า
ความพิเศษของแพนด้าน้อยที่สวนสัตว์เชียงใหม่ คือมีจุดขนสีขาวที่ฝาเท้าหลังทั้งสองข้าง ซึ่งแพนด้าที่จัดแสดงในสวนสัตว์ซานดิเอโก ไม่มีลักษณะพิเศษแบบนี้ จึงรู้สึกชอบมาก
“แพนด้าน้อยนอกจากเป็นทูตสันถวไมตรี ยังเป็นสัตว์ที่มีคุณประโยชน์กับจ.เชียงใหม่ เพราะเศรษฐกิจอยู่ในภาวะซบเซา แต่ทราบว่าวันหยุดยาวนี้มีนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากเดินทางมาจ.เชียงใหม่และจองโรงแรมกันจนเต็มเพื่อมาชมแพนด้าน้อย ” นางสาวนวลจันทร์กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า
บรรยากาศวันแรกการจัดงานฉลอง“สู่ข้าวเอาขวัญ” แพนด้าน้อยเป็นไปอย่างคึกคัก ประชาชนและนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศได้เข้าคิวยาวเหยียดแห่ซื้อบัตรผ่านประตูและบัตรเข้าชมส่วนจัดแสดงแพนด้ามากกว่าปกติตั้งแต่ 08.00น.ที่ผ่านมา เพื่อต่อคิวเข้าชมแพนด้าน้อยตัวเป็นอย่างคึกคัก ส่งผลให้บัตรเข้าชมแพนด้าน้อย 2,000 ใบแรกสำหรับการเข้าชมในรอบเช้าและบ่ายวันนี้เต็มหมดแล้ว ส่วนในวันพรุ่งนี้ยังพอมีเหลืออยู่บ้าง
กระทั่งเวลา 10.30 น. ทีมสัตวแพทย์ได้แยกตัวแพนด้าน้อยออกมาเข้าตู้อบในส่วนคลินิกแพนด้า จากนั้นได้ปล่อยแถวให้ประชาชนเดินทางเข้ามาดูคนละไม่เกิน 1 นาที โดยขอความร่วมมือไม่ให้ถ่ายภาพเพื่อความสะดวกและป้องกันการใช้แสงแฟลตยิงตรงไปยังแพนด้าน้อย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าประชาชนที่เดินทางมาดูแพนด้าน้อยในวันนี้ส่วนใหญ่จะเป็นครอบครัวที่พาบุตรหลานมาดูซึ่งส่วนใหญ่จะพอใจกับการจัดระบบเข้าชมที่เปิดให้เข้าทางเดียว มีบางครอบครัวที่เคยเดินทางไปดูลูกแพนด้าในสวนสัตว์แห่งอื่นในอเมริกาและที่จีนมาแล้ว แต่ก็ยังอยากจะมาชื่นชมร่วมแสดงความยินดีและดูแพนด้าน้อยของไทย
นางสารภี นากาโอะ อายุ 30 ปีพาลูกชายวัย 2 ขวบเศษคือเด็กชายเกนกิ นากาโอะเดินทางมาดูแพนด้าน้อย กล่าวว่า
รู้สึกพอใจกับการเข้าชมแพนด้าน้อยตัวเป็น ๆในวันนี้เป็นอย่างมากเพราะต้องการฝึกให้ลูกได้ช่วยเหลือตัวเองเป็น ซึ่งก่อนหน้านี้ได้เตรียมการรอคอยมานานวันนี้มากับบุตรชาย 2 คน โดยมารอคิวรับบัตรเข้าชมตั้งแต่เวลา 08.00น.ก่อนหน้าส่วนจัดแสดงแพนด้าเปิดถึง 2 ชั่วโมง
ทั้งนี้ที่ผ่านมาได้เคยพาน้องเกนกิมาเที่ยวชมสัตว์ในสวนสัตว์มาแล้วหลายครั้งเพราะเขาชอบสัตว์หลายชนิดโดยเฉพาะเพนกวิน ช้าง แต่ระยะหลังชอบแพนด้าเพราะเขาเคยเห็นในโทรทัศน์และเวลาไปเดินที่ศูนย์การค้าก็จะใช้มือจับที่ป้ายและตะโกนเรียกแพนด้าแพนด้าอยู่ตลอด วันนี้จึงคิดว่าจะพาเขามาดูตัวจริงแม้จะได้เพียง 1 นาทีก็คุ้มค่าและไม่เสียใจที่ไม่ได้ถ่ายภาพเพราะคิดว่าถ้ารอให้แพนด้าน้อยโตกว่านี้มีโอกาสค่อยมาอีก