แห่ดูแพนด้าน้อย-ติงชื่อหลินปิงไม่เหมาะ

หน.โครงการวิจัยแพนด้า ชี้ “หลินฮุ่ย” นิสัยขี้เล่น-ซุกซนใช้มือลอดออกจากกรงปัดกล้องวิดีโอตกพื้นเสียหาย คนไทยเชื้อสายจีน ติงตั้งชื่อ”หลินปิง” ไม่เหมาะ เหตุมีชื่อแม่ แถมชื่อมีความหมายเป็นผู้ชาย ขณะที่ประชาชนแห่เข้าดู”แพนด้าน้อย"คึกคัก


(4ก.ค.) นายประเสริฐศักดิ์ บุญตระกูลพูนทวี หัวหน้าโครงการวิจัยและจัดแสดงแพนด้าในประเทศไทย สวนสัตว์เชียงใหม่ เปิดเผยว่า

การแยกแพนด้าน้อยนำมาแสดงให้ประชาชนเข้าชมเช้าวันที่ 4 ก.ค.ซึ่งเป็นรอบแรกที่เปิดให้ประชาชนเข้าชม ไม่มีปัญหา ช่วงเช้ามีประชาชนทยอยรับบัตรเข้าชมจำนวนมาก ส่วนการตรวจสุขภาพแพนด้าน้อยช่วงเช้าวันนี้ น้ำหนักตัวชั่งได้ 1,925 กรัม ความยาวลำตัว 39เซนติเมตร รอบอก 33 เซนติเมตร รอบเอว 32 เซนติเมตร ส่วนหางยาว 7 เซนติเมตร ภาพรวมการตรวจสุขภาพน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
ขณะนี้แพน ด้าน้อยกำลังฝึกการทรงตัวและคลาน โดยพยายามชันตัวขึ้น คาดว่าอีก 1 สัปดาห์น่าจะลืมตาได้
 
 นายประเสริฐศักดิ์ กล่าวว่า
 
สำหรับหลินฮุยตัวเดิมที่มีอุปนิสัยขี้เล่นซุกซนได้กลับมาแล้ว จากนิสัยขี้เล่นทำให้กล้องวิดีโอยี่ห้อโซนี่ ที่ตั้งถ่ายทอดแพนด้าผ่านกล้องวงจรปิดตกลงพื้นเสียหาย เพราะหลินฮุยสงสัยว่าเป็นอะไรจึงเอามือยื่นออกมาปัดกล้องที่อยู่บนขาตั้งล้มลงจนเสียหาย วันนี้ภาพที่ถ่ายทอดผ่านกล้องวงจรปิดอาจไม่ชัดเจนเพราะมีปัญหาเรื่องคุณภาพกล้องแต่ไม่น่าจะมีปัญหา
 
 ด้านนายกฤตย์ เยี่ยมเมธากร อายุ 41 ปี ชาวเชียงใหม่ซึ่งนำบุตรสาว 2 คนมาชมแพนด้าน้อย กล่าวว่า
 
ในฐานะคนไทยเชื้อสายจีน และมีโอกาสไปเรียนวัฒนธรรมจีนที่เมืองกวางโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน อยากท้วงติงเรื่องการประกวดตั้งชื่อแพนด้าน้อย ที่ผ่านเข้ารอบ 4 ชื่อ ชื่อ หญิงหญิง ขวัญไท ไทยจีน ไม่มีปัญหา แต่ชื่อที่มีปัญหาไม่เหมาะสม คือ ชื่อ “ หลินปิง “ เพราะหลินเป็นชื่อตัวแรกของแม่แพนด้า หลินฮุย ซึ่งธรรมเนียมจีนไม่นิยมนำชื่อพ่อ-แม่มาตั้งเป็นชื่อลูก ส่วนปิง เป็นชื่อผู้ชายจึงไม่ควรนำมาตั้งเป็นชื่อผู้หญิง 


นอกจากนี้ธรรมเนียมจีนการตั้งชื่อ หากมีคำเดียวกันในชื่อจะตั้งเฉพาะในกลุ่มพี่น้อง หรือ คนในรุ่นเดียวกัน เช่น ถ้าพี่ชื่อหลินฮุย น้องจะชื่อ หลินปิง ดังนั้นหากตั้งชื่อแพนด้าน้อยว่า ” หลินปิง ” อาจมีความหมายว่าเป็นพี่น้องกับหลินฮุยได้
 
 “สำหรับชื่อหลินปิงนั้น หลิน แปลว่า ป่า ส่วนปิง แปลว่าน้ำแข็ง เมื่อนำมารวมกันชื่อนี้จึงมีความหมายว่าป่าน้ำแข็ง  แม้ชื่อมีความหมายดีแต่เป็นชื่อของผู้ชาย จึงไม่ควรนำมาตั้งเป็นชื่อแพนด้าเพศเมีย”นายกฤตย์กล่าวและว่า การท้วงติงชื่อการตั้งชื่อแพนด้าน้อย เข้าใจว่าทูตจีนทราบดีแต่ที่ไม่ออกมาท้วงติงเพราะเป็นมารยาท แต่ในฐานะตนงเป็นคนไทยเชื้อสายจีนที่เข้าใจในวัฒนธรรม จำเป็นต้องออกมาท้วงติงเพื่อความถูกต้อง
 
 ส่วนด.ญ.กัญญาพร เยี่ยมเมธากร อายุ 10 ปี กล่าวว่า

พ่อชวนมาเข้าแถวดูแพนด้าน้อยตั้งแต่เช้า ดูแล้วผ่านตู้อบแม้ได้ดูไม่นาน เพราะเจ้าหน้าที่จัดเวลาให้ชมคนละไม่กี่นาที แต่แพนด้าน้อยน่ารักมาก หากแพนด้าน้อยโตขึ้นจะกลับมาดูอีก
 
 ส่วนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เข้าชมแพนด้าน้อยในวันนี้ นาย GLENN BURCHETT อายุ 63 ปี ชาวอเมริกัน กล่าวว่า
 
แพนด้าเป็นสัตว์ที่น่ารักและสวยงาม ส่วนความแตกต่างระหวางแพนด้าน้อยที่สวนสัตว์ในซานดิเอโก้และวอชิงตัน แพนด้าที่นั้นจะตัวโตกว่าแพนด้าน้อยของสวนสัตว์เชียงใหม่ จึงนำออกมาโชว์นอกตู้อบให้ประชาชนและนักท่อเที่ยวชมได้และเปิดให้นักท่องเที่ยวถ่ายภาพได้แต่ที่นี้ไม่อนุญาต เพราะแพนด้าน้อยของสวนสัตว์เชียงใหม่ต้องชมผ่านตู้อบ
 
 นางสาวนวลจันทร์ เรืองเดช ภรรยาของนาย GLENN BURCHETT ซึ่งเกษียณอายุจากอเมริกามาพำนักที่ประเทศไทย และถือโอกาสวันหยุดยาวมาพักผ่อนที่ จ.เชียงใหม่ และมาชมแพนด้าน้อยพร้อมสามี กล่าวว่า

ความพิเศษของแพนด้าน้อยที่สวนสัตว์เชียงใหม่ คือมีจุดขนสีขาวที่ฝาเท้าหลังทั้งสองข้าง ซึ่งแพนด้าที่จัดแสดงในสวนสัตว์ซานดิเอโก ไม่มีลักษณะพิเศษแบบนี้ จึงรู้สึกชอบมาก
 
 “แพนด้าน้อยนอกจากเป็นทูตสันถวไมตรี ยังเป็นสัตว์ที่มีคุณประโยชน์กับจ.เชียงใหม่ เพราะเศรษฐกิจอยู่ในภาวะซบเซา แต่ทราบว่าวันหยุดยาวนี้มีนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากเดินทางมาจ.เชียงใหม่และจองโรงแรมกันจนเต็มเพื่อมาชมแพนด้าน้อย ” นางสาวนวลจันทร์กล่าว


 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า

บรรยากาศวันแรกการจัดงานฉลอง“สู่ข้าวเอาขวัญ” แพนด้าน้อยเป็นไปอย่างคึกคัก ประชาชนและนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศได้เข้าคิวยาวเหยียดแห่ซื้อบัตรผ่านประตูและบัตรเข้าชมส่วนจัดแสดงแพนด้ามากกว่าปกติตั้งแต่ 08.00น.ที่ผ่านมา เพื่อต่อคิวเข้าชมแพนด้าน้อยตัวเป็นอย่างคึกคัก
ส่งผลให้บัตรเข้าชมแพนด้าน้อย 2,000 ใบแรกสำหรับการเข้าชมในรอบเช้าและบ่ายวันนี้เต็มหมดแล้ว ส่วนในวันพรุ่งนี้ยังพอมีเหลืออยู่บ้าง
 
 กระทั่งเวลา 10.30 น. ทีมสัตวแพทย์ได้แยกตัวแพนด้าน้อยออกมาเข้าตู้อบในส่วนคลินิกแพนด้า จากนั้นได้ปล่อยแถวให้ประชาชนเดินทางเข้ามาดูคนละไม่เกิน 1 นาที โดยขอความร่วมมือไม่ให้ถ่ายภาพเพื่อความสะดวกและป้องกันการใช้แสงแฟลตยิงตรงไปยังแพนด้าน้อย
 
 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าประชาชนที่เดินทางมาดูแพนด้าน้อยในวันนี้ส่วนใหญ่จะเป็นครอบครัวที่พาบุตรหลานมาดูซึ่งส่วนใหญ่จะพอใจกับการจัดระบบเข้าชมที่เปิดให้เข้าทางเดียว มีบางครอบครัวที่เคยเดินทางไปดูลูกแพนด้าในสวนสัตว์แห่งอื่นในอเมริกาและที่จีนมาแล้ว แต่ก็ยังอยากจะมาชื่นชมร่วมแสดงความยินดีและดูแพนด้าน้อยของไทย
 
 นางสารภี นากาโอะ อายุ 30 ปีพาลูกชายวัย 2 ขวบเศษคือเด็กชายเกนกิ นากาโอะเดินทางมาดูแพนด้าน้อย กล่าวว่า

รู้สึกพอใจกับการเข้าชมแพนด้าน้อยตัวเป็น ๆในวันนี้เป็นอย่างมากเพราะต้องการฝึกให้ลูกได้ช่วยเหลือตัวเองเป็น ซึ่งก่อนหน้านี้ได้เตรียมการรอคอยมานานวันนี้มากับบุตรชาย 2 คน โดยมารอคิวรับบัตรเข้าชมตั้งแต่เวลา 08.00น.ก่อนหน้าส่วนจัดแสดงแพนด้าเปิดถึง 2 ชั่วโมง
 
 ทั้งนี้ที่ผ่านมาได้เคยพาน้องเกนกิมาเที่ยวชมสัตว์ในสวนสัตว์มาแล้วหลายครั้งเพราะเขาชอบสัตว์หลายชนิดโดยเฉพาะเพนกวิน ช้าง แต่ระยะหลังชอบแพนด้าเพราะเขาเคยเห็นในโทรทัศน์และเวลาไปเดินที่ศูนย์การค้าก็จะใช้มือจับที่ป้ายและตะโกนเรียกแพนด้าแพนด้าอยู่ตลอด วันนี้จึงคิดว่าจะพาเขามาดูตัวจริงแม้จะได้เพียง 1 นาทีก็คุ้มค่าและไม่เสียใจที่ไม่ได้ถ่ายภาพเพราะคิดว่าถ้ารอให้แพนด้าน้อยโตกว่านี้มีโอกาสค่อยมาอีก


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์