นิวยอร์ก 2 ก.ค.-อุตสาหกรรมการบินสหรัฐ เผยข้อมูลล่าสุดพบว่า เครื่องบินประมาณ 7,000 เครื่องในสหรัฐ ประสบเหตุที่เกี่ยวกับนกพุ่งชน และมีอยู่ 14% ที่ทำให้เครื่องบินได้รับความเสียหาย
ปัญหาจากนกทำให้อุตสาหกรรมการบินของสหรัฐ สูญเสียเงินปีละ 650 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (22,750 ล้านบาท) ขณะที่อุตสาหกรรมการบินทั่วโลกต้องสูญเสียเงินถึงปีละ 1,200 ล้านดอลลาร์ (42,000 ล้านบาท) ปัญหานี้นับวันจะเพิ่มขึ้นเพราะการสัญจรทางอากาศมีมากขึ้น เครื่องบินมีเสียงที่เงียบลง อีกทั้งมีสัตว์ป่าจำนวนมากขึ้นที่สัญจรไปมาบนฟ้า
รายงานชี้ว่า เหตุการณ์นกชนเครื่องบินมีมากขึ้นในช่วง 10-20 ปีมานี้ เหตุการณ์สำคัญที่ทำให้เครื่องบินเกิดอุบัติเหตุ คือ เครื่องบินโดยสารลำหนึ่งบินชนฝูงห่านหลังจากเพิ่งขึ้นจากสนามบินลา การ์เดีย ทำให้เครื่องบินต้องลงจอดฉุกเฉินที่แม่น้ำฮัดสันที่เกาะแมนฮัตตันในนครนิวยอร์ก เหตุการณ์นั้นทำให้เริ่มตื่นตัวถึงอันตรายจากฝูงนกต่ออากาศยาน ซึ่งในเดือนที่แล้ว นครนิวยอร์กเริ่มการฆ่าห่าน 2,000 ตัวที่อาศัยอยู่รอบ ๆ สนามบินสำคัญ 2 แห่ง และได้ทดลองใช้เรดาร์ตรวจจับนกที่ท่าอากาศยานจอห์น เอฟ.เคนเนดี
ไมเคิล เบเกียร์ ผู้ประสานงานโครงการอันตรายจากสัตว์ป่าต่อท่าอากาศยาน ซึ่งเป็นหน่วยงานหนึ่งที่สังกัดกระทรวงเกษตรสหรัฐ กล่าวว่า ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2455 เป็นต้นมา มีผู้เสียชีวิตเกือบ 500 คนทั่วโลกจากเครื่องบินตกที่มีสาเหตุจากนก เขาบอกว่าวิธีการที่ดีที่สุดที่จะแก้ปัญหานี้ คือ สร้างสภาพแวดล้อมรอบสนามบินไม่ให้เอื้ออำนวยต่อนกมาทำรังอยู่อาศัย เช่น ใช้เสียงดังไล่นกหรือใช้การฆ่าเป็นคำตอบสุดท้าย.-สำนักข่าวไทย