มาร์คถกจีนขอหมี

สวนสัตว์เชียงใหม่เตรียมงานใหญ่ 27 มิ.ย. ครบ 1 เดือนแพนด้าน้อย เชิญนัก เรียน 10 ร.ร. กงสุลใหญ่จีนมาร่วมงานด้วย ทำเค้กขนาดใหญ่เป็นพิเศษ รวมทั้งจะนำสูติบัตรให้ "ครูบาน้อย" เกจิดังล้านนา ทำพิธีเจิมพุทธมนต์เป็นสิริมงคล ขณะที่ทีมสัตวแพทย์ฝึกแยกแพนด้าน้อยออกจาก "หลินฮุ่ย" ให้นานขึ้น ใช้วิธีสับเปลี่ยนตุ๊กตา สลับกับแยกออกเฉยๆ มั่นใจวันที่ 4-6 ก.ค. เปิดให้ชมได้แน่นอน เริ่มรับบัตรคิว 1 ก.ค. ด้าน "นายกฯ มาร์ค" ถกนายกฯ จีน ขอแพนด้าน้อยอยู่ในไทย

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 25 มิ.ย. ที่ศูนย์วิจัยหมีแพนด้า สวนสัตว์เชียงใหม่ นายประเสริฐศักดิ์ บุญตระกูลพูนทวี หัวหน้าโครงการวิจัยและส่วนแสดงหมีแพนด้าในประเทศไทย พร้อมด้วย สพ.ญ.กรรณิการ์ นิ่มตระกูล สัตวแพทย์แพนด้า ทีมสัตว แพทย์ และพี่เลี้ยง ฝึกซ้อมการแยกแพนด้าน้อยออกจากหลินฮุ่ย เพื่อให้เกิดความซับซ้อนในความจำของหลินฮุ่ย และให้หลินฮุ่ยไว้วางใจพี่เลี้ยงมากขึ้น โดยแยกลูกแพนด้าออกจากหน้าอกของแม่ แล้วไปวางไว้กับพื้น ก่อนจะคืนให้ในเวลาต่อมา ปรากฏว่าในช่วงแรกๆ หลินฮุ่ยไม่ยอมให้แยกลูกออกจากหน้าอก ใช้ขาหน้ากอดไว้อย่างแน่น

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า แต่ผ่านไปสักพักก็ยอมปล่อยลูกออกจากขาหน้าเป็นบางครั้ง แล้วก็เดินวนในกรงเพื่อผ่อนคลาย หลังจากนั้นก็มานั่งกอดลูกเช่นเดิม นอกจากนี้ทางทีมวิจัยยังเปิดคอกกักอีกคอก และให้หลินฮุ่ยเดินมาอีกคอก เพื่อกินอาหาร จากนั้นพี่เลี้ยงก็สลับสับเปลี่ยนตุ๊กตาแพนด้าวางไว้แทนลูก ปรากฏว่าหลินฮุ่ยค่อยๆ ทอดสายตามองมาที่ลูก เมื่อเห็นตุ๊กตาแทนลูกก็เบาใจและกินอาหารได้

นายประเสริฐศักดิ์กล่าวว่า ในวันนี้ไม่ได้แยกแพนด้าน้อยออกมาตรวจสุขภาพ แต่จะฝึกซ้อมพี่เลี้ยงให้เกิดความเคยชิน และให้หลินฮุ่ยเกิดความสับสน โดยการฝึกซ้อมมีหลายขั้นตอนและหลายวิธี ทั้งเปลี่ยนตุ๊กตาแทนลูก และแยกเฉยๆ ให้ลูกตัวจริงนอนอยู่บนพื้น ทางทีมวิจัยเห็นว่าจะเป็นวิธีที่นุ่มนวลที่สุดในการแยกลูกแพนด้าออกจากแม่ และนำมาให้ประชาชนได้รับชมอย่างไม่มีปัญหาในวันที่ 4-6 ก.ค.นี้ ขั้นตอนต่อไปเหลือเพียงแต่การเพิ่มระยะเวลา ในการแยกลูกออกจากแม่ และจะแยกให้นานขึ้น

หัวหน้าโครงการวิจัยฯ กล่าวต่อว่า อีกทั้งในวันที่ 27 มิ.ย. เป็นวันครบรอบวันเกิดแพนด้าน้อย อายุ 1 เดือน ทางทีมวิจัยจะแยกแพนด้าน้อยมาตรวจสุขภาพ และอาจจะใช้เวลานานกว่าปกติ ดังนั้น 1-2 วันนี้จะฝึกพี่เลี้ยงให้แยกแพนด้าน้อยออกจากหลินฮุ่ยได้บ่อยมากขึ้น สำหรับสุขภาพของแพนด้าน้อยมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นมาก ขนาดลำตัวและอวัยวะอื่นๆ ใหญ่ขึ้น คาดว่าน้ำหนักเกิน 1 กิโลกรัมครึ่ง และด้วยน้ำหนักของลูกที่มากขึ้น ทำให้หลินฮุ่ยอุ้มลูกไม่ถนัดทำให้ลูกไหลหล่นเป็นบางครั้ง กรณีนี้ นายเหว่ย หมิง ผู้เชี่ยวชาญจากประเทศจีน ก็ระบุว่าเป็นเรื่องปรกติ และบอกทีมวิจัยว่า หลินฮุ่ยจะเรียนรู้ด้วยตัวเองว่าควรจะอุ้มลูกอย่างไร เชื่อว่าภายใน 1-2 วันนี้ หลินฮุ่ยจะมีวิธีใหม่ๆ ในการคาบและอุ้มลูก

นายประเสริฐศักดิ์กล่าวอีกว่า ในวันที่ 27 มิ.ย. แพนด้าน้อยอายุครบ 1 เดือน ทางสวนสัตว์เชิญนักเรียน 10 โรงเรียน และผู้ใหญ่ที่เกิดตรงกับแพนด้าน้อย มาร่วมแสดงความยินดีด้วยการเป่าเค้กพร้อมกัน รวมทั้งกงสุลใหญ่ของจีน จ.เชียงใหม่ จะมาร่วมงานด้วย โดยเค้กจะมีขนาดกว้าง 1.20 เมตร คูณ 1.60 เมตร ตกแต่งหน้าเค้กด้วยประวัติของแพนด้าน้อย ตั้งแต่แรกเกิดจนอายุครบ 1 เดือน อีกทั้งทางสวนสัตว์เชียงใหม่จะทำพิธีทางศาสนาที่วัดศรีดอนมูล อ.สารภี จ.เชียงใหม่ เพื่อเป็นสิริมงคลแก่แพนด้าน้อยด้วย มีกิจกรรมขบวนสัตว์ป่าพาเหรด ที่พิเศษสุดจะนำแพนด้าน้อยออกมาตรวจสุขภาพ และเปิดให้ผู้ที่มีวันเกิดตรงกับแพนด้าน้อยได้เข้าชมก่อนใครด้วย แต่จะมีการป้องกัน ด้วยการฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรคโดยรอบ

ด้านนายนิพนธ์ วิชัยรัตน์ ผู้ช่วย ผอ.สวนสัตว์เชียงใหม่ กล่าวว่า สำหรับสูติบัตรของแพนด้าน้อยจะมีลายเซ็นของ รมว.ทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จะนำไปให้ครูบาน้อย เตชปัญโญ เจ้าอาวาสวัดศรีดอนมูล ทำพิธีเจิมพุทธมนต์เพื่อความเป็นสิริมงคล รวมทั้งชื่อทั้ง 4 ชื่อที่ให้ประชาชนโหวตทางไปรษณียบัตร พิธีจะมีขึ้นในเวลา 10.39 น. วันที่ 27 มิ.ย.นี้ นอกจากนี้ ในวันที่ 4-6 ก.ค. ทางเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี โดยนายพันจักร บุลสถาพร ผอ.ฝ่ายการตลาดและประชา สัมพันธ์ จะนำสัตว์ป่าหายากกว่า 10 ชนิด ทั้งลูกเสือขาว ลูกสิงโต และลูกไฮยีน่า มาร่วมเดินขบวนพาเหรด โดยผู้ที่เดินทางมาเที่ยวสวนสัตว์เชียงใหม่ภายในเดือนก.ค.นี้ยังสามารถนำหางบัตรไปเป็นส่วนลดถึง 20 เปอร์เซ็นต์ ที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ได้อีกด้วย

นายนิพนธ์กล่าวต่อว่า สำหรับการรับบัตรคิวชมแพนด้าน้อยนั้น ให้ประชาชนมารับบัตรคิวได้ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. จนถึงวันงาน โดยผู้ที่มาชื้อบัตรชมส่วนแสดงแพนด้าก็จะได้รับบัตรคิวชมลูกแพนด้าน้อยเป็นบัตรแถมพิเศษ แต่ทางสวนสัตว์จำกัดจำนวนผู้เข้าชมในรอบเช้าจำนวน 1,000 คน รอบบ่าย 1,000 คน รวมวันละ 2,000 คน เปิดให้ชมลูกแพนด้าในวันสู่ข้าวเอาขวัญแพนด้าน้อย วันที่ 4-6 ก.ค. อีกทั้งจะมีกิจกรรมต่างๆ มากมาย

ส่วนนายวันชัย ยุชัย ผู้จัดการสำนักงานไปรษณีย์เขต 5 บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวว่า จากการจำหน่ายไปรษณียบัตรในภาคเหนือ เพื่อโหวตตั้งชื่อแพนด้าน้อย พบว่ามียอดจำหน่ายกว่า 500,000 ใบแล้ว โดย จ.เชียงใหม่ จ.เชียงราย จ.อุตรดิตถ์ และ จ.แพร่ มียอดจำหน่ายสูงตามลำดับ ก่อนสิ้นเดือนมิ.ย.นี้คิดว่ายอดจำหน่ายไปรษณียบัตรในภาคเหนือน่าจะเกิน 1,000,000 ใบ และจำนวนไปรษณียบัตรที่ทางบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ส่งมาจำนวน 2,400,000 ใบ คงจะไม่เพียงพอ

วันเดียวกัน ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ระหว่างเดินทางเยือนประเทศจีน ถึงการหารือกับนายเหวิน เจีย เป่า นายกรัฐมนตรีจีน เกี่ยวกับการขอให้ลูกหมีแพนด้าอยู่ในประเทศไทยต่อไปว่า ทุกฝ่ายเห็นตรงกันว่าลูกแพนด้าทำให้เกิดความใกล้ชิดระหว่าง 2 ประเทศมากยิ่งขึ้น และคนไทยมีความผูกพันกับลูกแพนด้ามาก ส่วนรายละเอียดในระดับรัฐมนตรีกำลังหารือกันอยู่แล้ว โดยจะต้องไปพร้อมกับเรื่องการพัฒนาศูนย์วิจัยและจัดแสดงด้วย อย่างไรก็ตาม เรายังมีเวลา เนื่องจากลูกแพนด้ายังต้องอยู่กับเราอีก 2 ปี