คมชัดลึก :โพลล์ร้อยละ 75.2 ไม่เห็นด้วยกับการหยุดเดินรถไฟ ชี้ ทำชาวบ้านเดือดร้อน ร้อยละ 53.8 รู้สึกแย่ ไม่ดีต่อทั้งรัฐบาลและพนักงานการรถไฟ
(24มิ.ย.) ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยผลวิจัย “เอแบคเรียลไทม์โพลล์”
ที่เป็นการสำรวจจากครัวเรือนที่สุ่มตัวอย่างได้ทั่วประเทศตามหลักสถิติแบบแบ่งกลุ่มเชิงชั้นภูมิหลายชั้น และได้ติดตั้งโทรศัพท์ให้ครัวเรือนที่เป็นตัวอย่างเพื่อทำการสัมภาษณ์ได้อย่างรวดเร็วฉับไวภายในระยะเวลาประมาณ 10 ชั่วโมงในแต่ละโครงการวิจัย จากนั้นประมวลผลด้วยระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์แบบเรียลไทม์ โดยครั้งนี้ได้ทำการสำรวจ เรื่อง ชาวบ้านรู้สึกอย่างไรต่อการหยุดเดินรถไฟและรัฐบาลภายใต้การนำของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กรณีศึกษาประชาชน 18 ปีขึ้นไปใน 18 จังหวัดของประเทศ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ สุโขทัย อุตรดิตถ์ เพชรบูรณ์ กาญจนบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ปทุมธานี เพชรบุรี ขอนแก่น ศรีสะเกษ สกลนคร หนองบัวลำภู พัทลุง ระนอง และสุราษฎร์ธานี จำนวนทั้งสิ้น 1,217 ครัวเรือน ดำเนินโครงการวันที่ 22 มิถุนายน 2552 งบประมาณของโครงการนี้สนับสนุนโดยมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ผลสำรวจพบว่า
ประชาชนที่ถูกศึกษาส่วนใหญ่หรือร้อยละ 75.2 ไม่เห็นด้วยกับการหยุดเดินรถไฟ เพราะ ชาวบ้านเดือดร้อน และไม่มีทางเลือกอื่นในการเดินทางเพราะไม่มีเงิน
นอกจากนี้ ทำให้เศรษฐกิจแย่ลงไปอีก ขายของไม่ได้ และคนเจ็บป่วยไม่สามารถเดินทางไปหาหมอได้ เป็นต้น ในขณะที่ ร้อยละ 24.8 เห็นด้วย เพราะ ไม่ชอบรัฐบาลชุดปัจจุบันนี้ ไม่ต้องการให้ขายสมบัติชาติ เป็นห่วงอนาคตของการรถไฟ และเป็นเรื่องปกติในสังคมประชาธิปไตย ที่น่าพิจารณาคือ ประชาชนส่วนใหญ่หรือร้อยละ 53.8 รู้สึกแย่ ไม่ดีต่อทั้งรัฐบาลและพนักงานการรถไฟ หลังเกิดการหยุดเดินรถ ร้อยละ 15.3 รู้สึกแย่ต่อรัฐบาล ร้อยละ 10.8 รู้สึกแย่ต่อพนักงานการรถไฟ ในขณะที่ร้อยละ 20.1 ไม่รู้สึกอะไร
ส่วนความในใจที่อยากบอกรัฐบาลชุดปัจจุบันว่า ด้วยเรื่องการปรับเปลี่ยนการบริหารรัฐวิสาหกิจต่างๆ พบว่า
ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 69.6 อยากบอกให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาทุจริตคอรัปชั่นในแต่ละหน่วยงานดีกว่า ร้อยละ 64.3 อยากบอกว่า หยุดขายสมบัติของประชาชน และร้อยละ 34.8 อยากให้ปรับเปลี่ยนการบริหารของรัฐวิสาหกิจตามแต่รัฐบาลเห็นสมควร ที่น่าเป็นห่วงสำหรับเสถียรภาพของรัฐบาลคือ ประชาชนส่วนใหญ่หรือร้อยละ 55.7 กำลังรู้สึกลังเลที่จะสนับสนุนรัฐบาล คือ กำลังคิดอยู่ว่าจะสนับสนุนรัฐบาลต่อไปหรือไม่ ในขณะที่ ร้อยละ 22.9 ระบุยังคงสนับสนุนรัฐบาล แต่ที่ใกล้เคียงกันคือ ร้อยละ 21.4 ไม่สนับสนุนรัฐบาลแล้ว
ผอ. เอแบคโพลล์ เสนอให้รัฐบาลพิจารณาแก้ปัญหาขาดทุนในหน่วยงานรัฐวิสาหกิจต่างๆ ด้วยการว่าจ้างหน่วยงานภายนอกเข้าตรวจสอบปัญหาทุจริตคอรัปชั่นและดำเนินคดีความตามกฎหมายอย่างจริงจัง ส่วนการปรับโครงสร้างบริหารให้ถือว่าเป็นสิ่งใหม่ถ้าจะทำต้องได้รับการยอมรับการเปลี่ยนแปลงจากคนภายในองค์กรเสียก่อน