ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(21 มิ.ย.)ครบ 25 วัน ที่แพนด้าน้อยเกิด และเป็นวันที่จะต้องนำแพนด้าน้อยออกมาตรวจร่างกายและชั่งน้ำหนักวัดตัว เพื่อติดตามพัฒนาการ
แต่ปรากฎว่า ทางทีมสัตวแพทย์กรรณิการ์ นิ่มสุวรรณ ได้ทำการหลอกล่อเพื่อจะนำแพนด้าน้อยออกมาจากหลินฮุ่ย ซึ่งตามปกติจะใช้เวลานานสุดก็แค่ 15 นาที แต่ปรากฎว่าทางหลินฮุ่ยเหมือนจะรู้ว่าจะมีการมาพรากลูกไปจากอก หลังจากเมื่อครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 18 มิ.ย.มีการพรากออกไปนานร่วม 45 นาที สร้างความไม่พอใจจนต้องแสดงพฤติกรรมเดินวนเวียนรอบกรงมาแล้ว ดังนั้นเมื่อทางทีมพี่เลี้ยงได้เข้ามาเพื่อจะนำออกไปอีกหลินฮุ่ยจึงได้อุ้ม ลูกนั่งห่างจากจุดที่พี่เลี้ยงนั่งอยู่รวม 3 เมตร ทางทีมพี่เลี้ยงได้นำอาหารที่หลินฮุ่ยโปรดปรานที่สุดไม่ว่าจะเป็บแอปเปิ้ล ขนมปังไผ่ และไผ่ชนิดต่างๆมาทำการหลอกล่อให้หลินฮุ่ยเข้ามาใกล้ชิดกรงที่ทีมพี่เลี้ยงนั่งอยู่ แต่หลินฮุ่ยเหมือนจะรู้ว่าทีมพี่เลี้ยงจะมาพรากลูกไปอีกจึงไม่ยอมจะกินอาหาร และไม่ยอมอุ้มลูกกลับมา
ส่วนแพนด้าน้อยเหมือนจะรู้ว่าแม่หลินฮุ่ย ป้องกันตัวมันเองได้ จึงทำท่านอนกลับหัวกลับหางกลิ้งไปมาบนอกของหลินฮุ่ย เป็นที่น่ารักน่าชังเป็นอย่างยิ่งและยังเป็นภาพที่หาดูได้ยากในรอบหลายวัน
เป็นเวลาผ่านไปร่วมชั่วโมงครึ่ง ทางทีมพี่เลี้ยงจึงได้ให้ทางนายเว่ยหมิง ผู้เชี่ยวชาญด้านหมีแพนด้าชาวจีน เข้ามาทำการหลอกล่อหลินฮุ่ย จนยอมอุ้มลูกเข้ามาในส่วนคอกเล็กเพื่อกินน้ำ นายเว่ยหมิง ได้เข้าไปปลอบหลินฮุ่ยเอาอกเอาใจป้อนแอปเปิ้ล และน้ำให้ แต่ยอมกินแต่ไม่ยอมคลายมือปล่อยลูก แม้จะพยายามแล้วแต่หลินฮุ่ยก็ไม่ให้ความร่วมมือ จนเวลาล่วงเลยนานถึง 2 ชั่วโมง ทางนายเว่ยหลินจึงบอกทีมงานให้เลื่อนการตรวจออกไปเป็นวันที่ 22 มิ.ย.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากการเจรจากับหลินฮุ่ยเพื่อขอนำแพนด้าน้อยออกมาไม่ได้ผล ทางนายเว่ยหมิง ได้ออกมาเปิดเผยผ่านล่ามชาวไทยว่า วันนี้หลินฮุ่ยไม่ให้ความร่วมมือ
ไม่ว่าจะเป็นการกินอาหารหลายชนิดที่นำมาให้ก็ไม่ยอมกิน และนำแพนด้าน้อยไปนั่งอยู่ในมุมที่ไม่เคยอยู่ เมื่อดูแล้วเห็นว่า หลินฮุ่ยไม่ให้ความร่วมมือก็ไม่ควรจะไปฝืน และเท่าที่ได้ดูอาการพบว่าหลินฮุ่ยมีอาการไม่สบาย จะต้องให้ทีมสัตวแพทย์ ทำการดูพฤติกรรม หลินฮุ่ยก็เหมือนกับคนที่บางครั้งก็ไม่สบาย เป็นไข้ เป็นหวัด ดูแล้วหลินฮุ่ยจะอ่อนแอลงกว่าปกติ ซึ่งหากไม่เป็นอะไรก็ต้องกินอาหารดีกว่านี้ จึงจะให้ทางทีมพี่เลี้ยงดูแลอย่างใกล้ชิด โดยจะประสานไปยังนายประเสริฐศักดิ์ บุญตระกูลพูนทวี หัวหน้าโครงการวิจัยและส่วนจัดแสดงหมีแพนด้าในประเทศไทย ที่เดินทางไปประชุมเกี่ยวกับการจัดงานโหวตชื่อแพนด้า ที่กรุงเทพฯ ดังนั้นในวันที่ 22 มิ.ย.จะนำออกมาตรวจอีกครั้ง แต่เรื่องที่เกิดคงจะไม่ส่งผลกระทบถึงวันที่ 4-6 ก.ค.ที่จะนำออกมา
หวั่นถูกพรากลูก หลินฮุ่ยหวง ไม่ปล่อยออกจากอก
นายเว่ยหมิง ได้กล่าวผ่านล่ามอีกว่า จากอาการของหลินฮุ่ย หากได้ถ่ายท้องแล้วก็คงจะใช้เวลาพักผ่อนร่างกายและจะกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง
ถือว่าหมีแพนด้าทุกตัวก็เป็นแบบนี้อยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องให้ยาใดๆหากถ่ายท้องแล้วก็จะปรับสภาพของหลินฮุ่ยเองได้ และขอบอกว่า การถ่ายท้องของแพนด้า ไม่เหมือนกับการถ่ายมูลออกมา คนละอย่างกัน โดยถ่ายท้องเป็นการถ่ายของเหลวออกมาและร่างกายแพนด้าจะเพลียหากพักผ่อนเล็กน้อยก็จะฟื้นกลับคืนสู่ปกติ กินอาหารได้เหมือนเดิม
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า เมื่อทางทีมงานยกเลิกที่จะแยกลูกออกมาจากหลินฮุ่ยแล้ว ปรากฎว่าสิ่งที่นายเว่ยหมิง ได้บอกผ่านล่ามว่าหลินฮุ่ยส่ออาการไม่สบาย
แต่ปรากฎว่าหลังจากทีมพี่เลี้ยงที่ทำหน้าที่แยกแพนด้าน้อยออกไปแล้วทางทีมพี่เลี้ยงอีกชุด ที่หลินฮุ่ยให้ความไว้วางใจที่สุด ได้เข้ามาเพื่อจะดูอาการของหลินฮุ่ย ด้วยความห่วงใย หลินฮุ่ย มองมาเห็นว่าทางนายเว่ยหมิง และทีมพี่เลี้ยงที่จะมาพรากลูกออกไปแล้ว ไม่ถึง 5 นาที หลินฮุ่ยได้อุ้มลูกน้อยเข้ามาตรงที่พี่เลี้ยงคนหนึ่งที่นั่งอยู่และทำท่า แสดงความหิวพี่เลี้ยงได้รีบนำน้ำให้ดื่มและทำการป้อนอาหารหลินฮุ่ยกลับกิน อาหารอย่างเอร็ดอร่อยไม่มีอาการที่บ่งบอกว่าไม่สบาย มิหน่ำซ้ำยังวางลูกไว้ข้างตัวกินอาหารเป็นเวลานานและมีท่าทีปกติทุกอย่าง
สัตวแพทย์หญิงกรรณิการ์ ได้ดูอาการของหลินฮุ่ยแล้ว ได้บอกว่า หลินฮุ่ยมีอาการปกติ ไม่ได้ป่วยแต่อย่างใด
แต่ที่ไม่ยอมกินอาหารที่ทางทีมพี่เลี้ยงให้กิน เพราะเกรงว่าจะทางพี่เลี้ยงจะแยกลูกออกมา จึงรู้ทันว่า ในช่วงเวลาแบบนี้ทางทีมพี่เลี้ยงชุดนี้นำอาหารมาให้เพราะจะมีการนำลูกออกไป จึงได้ทำท่าทีไม่ยอมกินข้าวและนำลูกไปอยู่ห่างจากทีมพี่เลี้ยงให้มาก ดังนั้นปัญหาในการที่จะแยกแพนด้าน้อยจากหลินฮุ่ยก็จะต้องมีการปรับวิธีการอีกที เพราะอาจจะส่งผลกระทบต่อการที่จะแยกลูกออกมาในวันที่ 4-6 ก.ค.นี้ จึงจะต้องมีการปรึกษากันในการปรับเปลี่ยนเวลาในการแยกแพนด้าน้อยออกมาตรวจสุขภาพ จากเดิมที่จะตรวจในเวลา 09.00 น.ในทุก 2 วัน แต่จะต้องมีการปรับเวลาเอาในช่วงสะดวกที่เห็นว่าหลินฮุ่ยวางลูกไว้ก็สามารถ แยกออกมาได้ในเวลานั้น จึงขอยืนยันว่าหลินฮุ่ยไม่ได้เป็นอะไรแต่พฤติกรรมที่เกิดขึ้นเป็นอาการหวง ลูกน้อยเท่านั้นเอง
ต่อมาเมื่อเวลา 14.30 น.วันเดียวกัน ทางทีมพี่เลี้ยงที่หลินฮุ่ยไว้ใจยอมปล่อยลูกไว้ข้างๆตัว ทางพี่เลี้ยงจึงได้เล่นกับลูกหลินฮุ่ยโดยที่หลินฮุ่ยไม่มีท่าทีขัดขืนหรือ หวง
ทางพี่เลี้ยงจึงฉวยโอกาสทองรีบอุ้มลูกหลินฮุ่ยออกมาโดยที่ทางหลินฮุ่ยเพลิน กับการกินไผ่และขนมปังไผ่อยู่ ทางสัตวแพทย์หญิงกรรณิการ์ จึงได้นำแพนด้าน้อย มาที่ส่วนคลีนิคแพนด้า ทำการตรวจสุขภาพและทำการชั่งน้ำหนักพบว่าน้ำหนักเพิ่มขึ้นมาก โดยมีน้ำหนักถึง 1,145 กรัมแล้วความยาวจากปลายจมูกถึงโคนหาง 30 ซม. สุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงจากการกินนมอย่างเต็มที่ทำให้พุงป่อง โดยทางทีมแพทย์ได้แยกแพนด้าน้อยจากหลินฮุ่ยมานานร่วม 55 นาทีก่อนจะนำกลับไปคืน.