พี่ชายวัยดึก เผยญาติทุกคนยืนยันว่าจะเฝ้าโครงกระดูกของ"หมอเทวดา"ต่อไป จนกว่าจะตายกันไปหมดแล้ว เล่าความหลังเรื่องน่าแปลก เมื่อตั้งศพน้องไว้ในบ้าน และเป็นคนไปซื้อโลงไม้สักมาให้ ปรากฏว่า ศพไม่เน่าเหม็น จึงไม่ต้องปิดฝาโลง จนกระทั่งร่างแห้งไปเอง ทุกวันนี้ยังเก็บรางบดยา ไว้รำลึกถึงเรื่องราวในอดีตที่ครอบครัวเป็นหมอโบราณมาก่อน และผู้ตายเป็นหมอวิเศษช่วยรักษาคน
จากเรื่องประหลาดชวนขนลุก ที่มีญาติ ๆ ของนายพวงทอง ลิดกะโห้ ซึ่งเสียชีวิตไปแล้วกว่า 70 ปีแล้ว แต่ญาติยังคงมานอนเฝ้าซากโครงกระดูกของนายพวงทอง ซึ่งเก็บไว้ในโลงไม่ปิดฝา ในบ้านเลขที่ 49 หมู่ 1 ต.อมฤต อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา โดยช่วงที่นายพวงทองยังมีชีวิตจะเป็นหมอรักษาโรค จนเป็นที่รักของชาวบ้าน แต่เกิดอุบัติเหตุเสียชีวิต โดยก่อนตายได้สั่งเสียว่าไม่ให้เผาร่าง ขอให้เก็บศพไว้ในบ้าน หลังนี้ เดิมทีแม่ผู้ตายเป็นคนเฝ้าศพ เมื่อแม่เสียชีวิตก็ให้ลูก-หลานสืบทอดเจตนารมณ์ช่วยกันเฝ้าศพไว้ จนกว่านายพวงทองจะไปเกิด ตามที่เสนอ ข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้า เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 18 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านเลขที่ 39/1 หมู่ 11 ต.อมฤต อ.ผักไห่ เพื่อพบกับนายประสิทธิ์ ลิดกะโห้ อายุ 75 ปี เปิดเผยเรื่องราวของนายพวงทอง ว่าครอบครัวตนมีพี่น้องด้วยกัน 7 คน ตนเป็นคนที่ 4 และยังเหลือนาง ยุพิน อาทร น้องสาวอีกคน นอกนั้นเสียชีวิตไปหมดแล้ว ส่วนนายพวงทองเป็นน้องชายคนสุดท้อง โดยครอบครัวของตนมีอาชีพเป็นหมอรักษาชาวบ้านด้วยมีดหมอ ก่อนหน้าที่นายพวงทองจะเกิด ได้มีฤาษีตาไฟมาเข้าฝันแม่จะเอากุมารทองมาให้ และเป็นผู้วิเศษ
เมื่อแม่มาเล่าความฝันให้พ่อฟังแล้ว พ่อก็แก้ฝันให้ โดยบอกว่าไม่ยอมรับกุมารทอง เพราะจะอยู่ไม่นาน ให้เอาลูกชายที่มือกุดเท้า กุดมาก็ได้ ปรากฏว่าเมื่อนายพวงทองคลอดออกมา พบว่ามือข้างขวากุด นิ้วเท้าซ้ายและขวาก็กุด เหลืออยู่มือซ้ายข้างเดียว เมื่ออายุได้ 9 ขวบ นายพวงทองก็สามารถรักษาคนป่วยได้ ไม่ว่าจะ เป็นโรคปวดเมื่อยทั่วไป จนถึงถูกคุณไสย โดยนายพวงทองจะรักษาโดยให้คนไข้นอนราบกับพื้น แล้วใช้มีดหมอสับตามร่างกาย คนป่วยก็หาย ทำให้มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักว่าเป็นหมอเทวดา และยังมีซินแสชาวจีนมาบอกว่าเป็นเซียนมาเกิดให้ช่วยเหลือคน
แต่นายพวงทองเคราะห์ร้าย เกิดอุบัติ เหตุล้มไปกระแทกครกขนาดใหญ่ ก่อนตายได้เรียกพ่อแม่และพี่ ๆ มาที่บ้านหลังดังกล่าว แล้วบอกว่าจะลาทุกคน จากนั้นนายพวงทองก็นั่งขัดสมาธิ แล้วพนมมือหลับตานิ่ง ตนเป็นพี่ชายที่ใกล้ชิดที่สุด จึงพยายามแกะมือของน้องชายออก แต่น้องชายไม่ยอม และยังบอกว่าขอร้องอย่าเผาร่างเด็ดขาด เพราะหากเผาจะทำให้ครอบครัวแตกแยก เสาจะเกรียนดิน หมายถึง ไม่เหลืออะไรเลย จากนั้นก็หลับตาหมดลมหายใจ ไปในอ้อมกอดของตน
“เป็นเรื่องน่าแปลก เมื่อตั้งศพเอาไว้ในบ้าน ผมเป็นคนไปซื้อโลงไม้สักมาให้ ปรากฏว่าศพไม่เน่าเหม็น จึงไม่ต้องปิดฝาโลง จนกระทั่งร่างแห้งไปเอง ทุกวันนี้ยังเก็บรางบดยา ไว้รำลึกถึงความหลังที่ครอบครัวเป็นหมอโบราณมาก่อน และนายพวงทองก็เป็นหมอวิเศษที่รักษาคนจริง ๆ ผมอยากจะทำบุญให้กับน้องชาย แต่ไม่มีโอกาสเนื่องจากขาเดินไม่ได้ ส่วนวิชารักษาคนและมีดหมอที่นายพวงทองเคยใช้รักษาคนนั้น ตอนนี้ลูกชายของผมบวชเป็นพระชื่อพระบุญ เสริม เอาไปเก็บไว้ใช้รักษาคนอยู่จนทุกวันนี้ที่ จ.กาญจนบุรี ส่วนเรื่องการเฝ้ากระดูกนายพวงทองนั้น ญาติทุกคนยืนยันว่าจะเฝ้าร่างนายพวงทองกันต่อไป จนกว่าจะตายกันไปหมดแล้ว” นายประสิทธิ์ กล่าว.