เมียไกรสรตัดพ้อ พระเพชร เลี้ยงแต่เด็กกลับโกหก

ที่ จ.เชียงใหม่ เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 15 มิ.ย. น้าโอ๊ต หรือ นางสิริกร อินพรหม  ภรรยาคนปัจจุบันของนายไกรสร แสงอนันต์ พ่อของพระสรภพ ลีละเมฆินทร์ หรือ พระลูกเพชร บุตรชายคนเดียวของอดีต "ราชินีลูกทุ่ง" พุ่มพวง ดวงจันทร์ 

เดินทางมาพร้อมกับนายนทีธีระโรจนพงษ์ เลขานุการกลุ่มเชียงใหม่อารยะ  เปิดเผยว่า จากคำพูดของพระลูกเพชร ที่ตนเลี้ยงมาตั้งแต่ พุ่มพวง ดวงจันทร์ เสียชีวิตไปประมาณ 2 ปี ระบุว่า ช่วงบวช ได้โทรศัพท์บอกให้กับพ่อทราบแต่ไม่มีใครรับสายขอบอกว่าโทรศัพท์ที่บ้านเสียมานานเป็นปีแล้ว ทำไมไม่โทรศัพท์มาที่มือถือของพ่อ ตนได้ดูโทรทัศน์แล้วเศร้าใจและสงสารพระเพชรที่ยังเป็นเด็กและหัวใจก็ยังไม่ แกร่งพอที่จะลุกขึ้นมาฟาดฟันในเรื่องเหล่านี้ ตนว่าเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อเพราะเคยเลี้ยงดูมาและกลับมาโกหกในผ้าเหลืองเช่นนี้ ตนไม่ออกมาซ้ำเติมพระเพชร  ตนรักพระเพชรเสมอ ถึงวันนี้ก็ยังรักและหวังดีเสมอ เมื่อมีเรื่องเช่นนี้ตนยังรู้สึกเจ็บปวดแทนด้วยซ้ำ หัวใจที่ดีและสวยงามของพระเพชรที่ตนเลี้ยงดูมามันกลับกลาย เป็นคำโกหก มันมีผลกระทบถึงครอบครัวและทุกคนที่เกี่ยวข้อง

คำพูดที่ว่าแฟนใหม่พ่อ อยู่กินกันตั้งแต่แม่พุ่มพวงไม่สบาย  ทุกคนที่ใกล้ชิดจะรู้ว่าตนมาอยู่กับนายไกรสร เวลาไหน

ตนช้ำใจมากที่พระเพชรออกรายการโทรทัศน์ว่าได้โทรศัพท์มาหาพ่อ แต่ถูกแฟนใหม่ของพ่อกีดกัน มันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เพราะตัวเราเองก็รักพุ่มพวงอยู่แล้ว การเลี้ยงดูพระเพชรตนเลี้ยงดูให้ดีเกิน 5 เท่า 10 เท่าด้วยซ้ำเพราะพระเพชรเป็นลูกของบุคคลที่มีคนรู้จักกันทั่วประเทศ

นางสิริกร กล่าวตต่อว่าหากตนไม่ออกมาพูดในวันนี้มัน เหมือนเป็นการเสริมสร้างให้พระ เพชรเป็นคนโกหกไปเรื่อยๆจะเป็นผลเสียผลอันตรายต่อตัวพระเพชรและคนรอบข้างมาก

ขอบอกว่าหากตนไม่ออกมาพูดก็เหมือนยอมรับในสิ่งที่พระเพชรพูดว่าเป็นความจริง  ตนอยู่กับนายไกรสรมาถึง 17 ปีก็ไม่เคยลุกขึ้นมาพูดอะไรเลยและคอยระวังตัวเสมอ แต่ในวันนี้เป็นเรื่องไม่จริง ตนเองขณะนี้ก็อยู่ในกลุ่มเครือข่าย เชียงใหม่อารยะ มีแต่เรื่องคุณธรรม แต่ตนไม่อาจจะอยู่ในกลุ่มได้เพราะคนในครอบครัวออกมาพูดโกหก ไม่มีคุณธรรมที่แท้จริงจึงปล่อยไว้ไม่ได้ เพราะตนดูแลเขามาก่อน เขาเป็นคนที่มีหัวใจสวยงามหัวใจที่ดีไม่ใช่แบบนี้ แต่วันนี้เขากลับเป็นเช่นนี้ไปได้ ตนเชื่อว่าจะต้องมีอะไรอยู่เบื้องหลังทำให้เขากลายเป็นคนเช่นนี้ การโกหก คำโตๆเช่นนี้ตนรู้สึกไม่ดี

"ในสมัยเด็กตี 4 ตี 5 พี่ต้องตื่นลูกขึ้นป้อนข้าวป้อนน้ำส่งเขาไปโรงเรียน หลังจากพุ่มพวงเสียชีวิตไป และเขาออกจากบ้านไปเมื่ออายุ 18 ปี พี่จึงกล้าพูดว่าเขาเป็นเด็กที่ดีมาก แต่ไม่นึกว่าพี่จะมาถูกเขาต่อว่า ประเด็นที่เกิดขึ้นจากคำถามที่ไกรสรถามพระเพชรว่าทำไมไม่บอกพ่อว่าบวช แต่เขาบอกว่าโทรบอกน้าโอ๊ตแล้ว ทำไมไม่บอก ทั้งที่พระเพชรไม่เคยโทรมาเลย พี่รอการกลับมาของพระเพชรตลอดเวลา จะมาบอกว่าพี่เป็นคนปิดกั้นพ่อลูกไม่ให้เจอกันหรือกีดกัน มันไม่มีในความคิดของพี่เลย ในการออกมาพูดของน้าโอ๊ตในวันนี้ไม่ได้ต้องการออกมาซ้ำเติมพระเพชร หรือไม่รักพระเพชร น้าโอ๊ต ดูข่าวแล้วน้ำตาไหลตั้งแต่ต้นจนจบและรู้สึกว่าหัวใจของพระเพชรเจ็บปวดมาก แต่น้าโอ๊ตก็ไม่รู้จะทำอย่างไรเพราะเพชรก็โตมากแล้ว ก็ขอให้คิดทบทวนไม่มีใครที่นี่คิดทำร้ายพระเพชรมีแต่รอเพชรกลับบ้านและน้า โอ๊ตก็อยากจะฝากบอกว่าพระเพชรว่าสิ่งที่พระเพชรพูดออกไปก็คงจะรู้แก่ใจว่า มันจริงหรือไม่จริง น้าโอ๊ตก็ขอฝากไว้แค่นี้ว่าน้าโอ๊ตรักพระเพชรเสมอ"นางสิริกรกล่าว

เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์