ผู้สื่อข่าวรายงานวันนี้ (15 มิ.ย.) ว่า นพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้มอบหมายให้นายแพทย์สุพรรณ ศรีธรรมมา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข
พร้อมด้วยนายแพทย์ศุภมิตร ชุณห์สุทธิ์วัฒน์ ผู้ทรงคุณวุฒิกรมควบคุมโรค และนายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกกระทรวงสาธารณสุข แถลงข่าว ภายหลังประชุมศูนย์ปฏิบัติการเตรียมความพร้อมป้องกันและควบคุม แก้ไขสถานการณ์การระบาดใหญ่ของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ กระทรวงสาธารณสุขว่า ในวันนี้ กระทรวงสาธารณสุข พบผู้ป่วยยืนยันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 ในประเทศเพิ่มอีก 51 ราย ในจำนวนนี้เป็นกลุ่มนักเรียนโรงเรียนเอกชน 28 ราย และโรงเรียนอื่นๆ อีก 10 ราย ซึ่งเป็นผู้ป่วยเก่า ส่วนผู้ป่วยใหม่มี 13 ราย รวมผู้ป่วยในประเทศไทยสะสมทั้งหมด 201 ราย
นพ.สุพรรณ กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์ในประเทศไทย มีแนวโน้มจะพบผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะตามธรรมชาติของโรคจะขยายไปทั่วประเทศ ทั้งในโรงเรียน โรงงานเป็นระยะทุกวัน
โดยจะเริ่มในเขตเมืองก่อน แม้โรคไม่รุนแรงเมื่อเทียบกับไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เก่า แต่กระทรวงสาธารณสุขจะต้องชะลอและควบคุมการระบาดให้อยู่ในวงจำกัด เพื่อบรรเทาผลกระทบของการระบาด โดยการค้นหาผู้ป่วยโดยเร็วและสอบสวนโรคเป็นกลุ่ม เนื่องจากขณะนี้พบผู้ป่วยทั้งในโรงเรียน กทม.และต่างจังหวัด แนะให้โรงเรียนทุกแห่ง ควรเร่งป้องกันโดยแนะนำเด็กและผู้ปกครอง หากพบเด็กป่วยให้หยุดเรียน และอยู่บ้านเป็นเวลา 7 วัน และตรวจเช็คสุขภาพเด็กทุกคนทุกวัน หากพบเด็กในห้องเดียวกันป่วยตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป ให้แจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุข เพื่อเฝ้าระวังและป้องกันควบคุมโรค
“สำหรับมาตรการปิดโรงเรียน ควรพิจารณาเป็นกรณีไป ซึ่งหากจะปิดโรงเรียน ขอให้เป็นการตัดสินใจร่วมกันระหว่างผู้บริหารโรงเรียนกับทีมสอบสวนควบคุมโรค โดยพิจารณาหลักวิชาการและปัจจัยเกี่ยวข้องอย่างรอบคอบ” นพ.สุพรรณ กล่าว
ด้านนพ.ศุภมิตร ชุณห์สุทธิวัฒน์ ผู้ทรงคุณวุฒิกรมควบคุมโรค กล่าวว่า องค์การอนามัยโลกได้แลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างผู้เชี่ยวชาญของประเทศต่างๆ เป็นระยะ เกี่ยวกับวิธีการควบคุมโรค
ซึ่งทุกปีจะมีการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ มีการกลายพันธุ์เล็กน้อยตลอดเวลาเป็นธรรมชาติ ไม่รุนแรง แต่เชื้อตัวใหม่นี้ไม่รุนแรง แต่จะแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็ว จึงเน้นให้ประชาชนสนใจในการป้องกันดูแลตนเองตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งจะป้องกันได้ทั้งเชื้อตัวเก่าและตัวใหม่
“การแพร่กระจายเชื้อหรือการติดต่อของโรคนี้ เกิดจากการถูกผู้ป่วยไอ จาม รดโดยตรง หรือหายใจเอาฝอยละอองเสมหะ น้ำมูก น้ำลายในระยะ 1 เมตร เนื่องจากเชื้อไวรัสอยู่ในเสมหะ น้ำมูก น้ำลาย แต่บางรายอาจได้รับเชื้อทางอ้อมผ่านทางมือ หรือสิ่งของเครื่องใช้ที่ปนเปื้อนเชื้อ เช่น โทรศัพท์ แก้วน้ำ ฯลฯ ดังนั้นการป้องกันที่ดีที่สุด ประชาชนต้องล้างมือด้วยน้ำและสบู่ให้สะอาดบ่อยๆ และทำความสะอาดสิ่งของเครื่องใช้ที่จับต้องทุกวันและกินของร้อน ใช้ช้อนกลาง หากไม่สบายเป็นไข้หวัดควรใช้กระดาษทิชชู่ปิดปาก จมูกทุกครั้งที่ไอ จาม หากอยู่กับผู้อื่นควรสวมหน้ากากอนามัย” นพ.ศุภมิตร กล่าว
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
