จองกฐินได้ทุกปีสำหรับ "อุเทนถวาย" หรือมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย ที่ต้องเป็นสถาบันที่มีชื่อเกี่ยวกับปัญหาการรับน้องใหม่ ทุกๆ ครั้งที่เกิดเรื่อง
ล่าสุดในปีการศึกษา 2552 ที่เพิ่งเปิดเรียนมาได้ไม่กี่วัน รุ่นพี่ก็แสดงบทโหดกับนักศึกษาปี 1 จนหลายคนทนไม่ไหวเข้าร้องเรียนนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี
ส่วนหนึ่งแสดงความจำนงขอลาออกเพื่อไปเรียนที่ใหม่
และมีอีกส่วนที่ลาออกไปอย่างเงียบๆ เพราะไม่อยากมีเรื่องมีราว
ขณะเดียวกันฝ่ายผู้บริหารมหาวิทยาลัย พยายามออกมาชี้แจง แต่ไม่เป็นผลมากนัก ทั้งยังถูกนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.ศึกษาธิการ สั่งตั้งกรรมการสอบวินัยอาจารย์ที่เกี่ยวข้องรวม 5 ราย
อย่างไรก็ตาม มีนักศึกษาอีกกลุ่มออกมาแก้ต่างให้รุ่นพี่ว่าการรับน้องไม่ได้รุนแรง อย่างที่มีการร้องเรียน
ส่วนผู้ปกครองนักศึกษาบางคนที่เข้าร้องเรียน ระบุว่าเพื่อนที่ยังเรียนอยู่โทรศัพท์มาเตือนลูกๆ ว่า รุ่นพี่ประกาศจะตามฆ่ารุ่นน้องที่ลาออกแล้วไปร้องเรียน!??
เรื่องราวรับน้องโหดของ "อุเทนถวาย" เป็นเรื่องขึ้นเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน ที่ผ่านมา นักศึกษาสาวปี 1 สาขาวิชาเทคโนโลยี สถาปัตยกรรม เข้าร้องเรียนและขอความช่วยเหลือจากนางปวีณา หง สกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ว่าถูกรุ่นพี่อุเทนถวายรับน้องโหดจนทนไม่ไหว
นักศึกษาสาวระบุว่า หลังเปิดเทอมเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน ที่ผ่านมา ถูกรุ่นพี่บังคับรับน้องในทุกเย็นหลังเลิกเรียน ทั้งบังคับให้กินกระดาษทั้งที่มีหมึกปากกาเขียนอยู่เต็มแผ่น
"มีเพื่อนคนหนึ่งเคยประสบอุบัติเหตุที่ศีรษะอย่างรุนแรงและแจ้งให้รุ่นพี่ทราบแล้ว แต่กลับถูกรุ่นพี่ทำโทษด้วยการตบศีรษะอย่างแรงบ่อยครั้งจนต้องขอลาออกไปในที่สุด"
นักศึกษาสาวระบุอีกว่า บางวันรุ่นพี่ทำโทษด้วยการให้กินพริกขี้หนูสดๆ ห้ามกินน้ำเด็ดขาด เพื่อนหลายคนถึงกับร้องไห้ออกมา
นอกจากนี้รุ่นพี่สั่งรุ่นน้องทุกคนพกพาอาวุธติดตัวมาด้วย จะเป็นมีดหรือปืนก็ได้ และยังปลูกฝังให้เกลียดสถาบันคู่อริที่อยู่ใกล้ๆ กันด้วย
นักศึกษาสาวเล่าว่าเปิดเรียนได้แค่ไม่ถึง 1 สัปดาห์เพื่อนร่วมรุ่นตัดสินใจลาออกถึง 20 คน เพราะทนการรับน้องไม่ไหว
และที่ตัดสินใจเข้าร้องเรียนเพราะรุ่นพี่แจ้งว่าจะพาไปรับน้องที่อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เกรงว่าจะเกิดเรื่องรุนแรงขึ้นเพราะขนาดในสถาบันยังลงไม้ลงมืออย่างหนัก หากไปนอกสถานที่อาจจะเกิดการบาดเจ็บหรือเสียชีวิตได้
เมื่อมีนักศึกษารายแรกเข้าร้องเรียน ปรากฏว่ามีนักศึกษาและผู้ปกครองทยอยเข้าร้องทุกข์เพิ่มเติมอีกกว่า 10 ราย โดยทั้งหมดแสดงความจำนงว่าต้องการลาออกไปเรียนที่ใหม่
นางปวีณา จึงประสานกับกระทรวงศึกษาธิการ เรื่องหาที่เรียนและโอนเงินค่าเทอมที่จ่ายให้อุเทนถวายรายละกว่า 10,000 บาทไปด้วย เพราะเพิ่งเข้าเรียนได้ไม่กี่วันเท่านั้น
การร้องเรียนส่วนใหญ่ผู้ปกครองจะเป็นคนออกหน้า เนื่องจากเด็กๆ เกรงว่าจะถูกรุ่นพี่ทำร้าย
นางสุกัญญา ชาวจ.ปราจีนบุรี ที่นำลูกชายมาร้องเรียน กล่าวว่า ลูกชายเรียนอุเทนถวายในโควตา จ.ปราจีนบุรี โดยมีทั้งหมด 4 คน ขณะนี้เด็กที่มาจากจังหวัดเดียวกันลาออกแล้ว ลูกเล่าว่ารุ่นพี่ให้ไปหาที่ห้อง เพื่อไปเฝ้ารุ่นพี่ดื่มเบียร์ และสูบกัญชา พอเมาได้ที่ก็ชกต่อยทำร้ายร่างกาย
ส่วนนางกฤษณา มารดาของนักศึกษาที่มาร้องเรียน กล่าวว่า ลูกชายถูกบังคับให้ใช้อาวุธปืนยิงเพื่อน โดยรุ่นพี่ขู่ว่าหากไม่กล้ายิงก็ให้ยิงตัวเอง พอลูกชายเอาปืนจ่อยิงหัวตัวเอง แต่ปืนไม่มีลูก ก็ถูกรุ่นพี่ตบหัว นอกจากนี้ยังถูกบังคับให้ถอดกางเกง เพื่อฉีดสเปรย์สีบริเวณอวัยวะเพศ พร้อมด้วยการเผาขนเพชร
ลูกชายบอกว่ามีเพื่อนร่วมรับน้องครั้งนี้ ตกเป็นเหยื่อการกระทำทารุณรูปแบบดังกล่าวถึง 4 คน ทุกคนหวาดผวาและหวาดกลัว จนถึงขั้นไม่ยอมไปเรียนที่สถาบันอีกเลย
"ตอนแรกก็ดีใจที่ลูกชายสอบเข้าเรียนต่อที่นี่ได้ แต่สุดท้ายก็ต้องมาพบกับความผิดหวังหลังเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ภาพลักษณ์ของสถาบันอุเทนถวายขณะนี้เหมือนนรก และเหมือนสอนเด็กให้เป็นโจร โดยลูกจะไม่ขอกลับไปเรียนที่นี่อีก"
จากเหตุนี้ทำให้กระทรวงศึกษาธิการ สั่งตั้งคณะกรรมการสอบ สวนทันที โดยมีนายสรรค์ วรอินทร์ จากสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) เป็นประธาน
เบื้องต้นมีรุ่นพี่ผู้หญิงที่ถูกนักศึกษาหญิงชี้ตัวว่าเป็นคนบังคับ และลงไม้ลงมือกว่า 10 คน
คณะกรรมการสอบสวนสอบปากคำนักศึกษาและอาจารย์บางส่วน พบว่าเกิดเหตุรับร้องโหดจริงตามที่ร้องเรียน จึงเสนอขึ้นไปยังนายสุเมธ แย้มนุ่น เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.)
ด้านนายจุรินทร์ รมว.ศึกษาธิการ สั่งตั้งกรรมการสอบวินัยอาจารย์ที่รับผิดชอบ ฐานปล่อยปละละเลย เบื้องต้นอยู่ในข่าย 5 รายนำโดยรองอธิการบดี คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์และสถาปัตยกรรมศาสตร์ หัวหน้าภาควิชา อาจารย์ฝ่ายกิจการนักศึกษา และอาจารย์ผู้เกี่ยวข้อง
พร้อมกับสั่งยกเลิกการรับน้องทุกรูปแบบทั้งหมดของอุเทนถวาย
สําหรับ "อุเทนถวาย" แทบไม่เคยมีปีการศึกษาใหม่ใดเลยที่จะไม่เกิดเรื่อง อย่างเมื่อปีที่แล้วก็รุนแรงถึงขั้นทำให้น้องใหม่เสียชีวิต!!!
เหยื่อรุ่นพี่โหดคือนายกฤษณะ หรือแชมป์ ฉัตรสุวรรณ อายุ 25 ปี น้องใหม่ปี 1 คณะวิศวกรรมศาสตร์และสถาปัตยกรรมศาสตร์
นายกฤษณะ เดินทางไปรับน้องนอกสถานที่กับเพื่อนและรุ่นพี่ราวๆ 40 คน ที่ชายทะเล อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2551
อีก 2 วันให้หลังแก๊งนี้ก็เผ่นกลับกรุงเทพฯ โดยทิ้งนายกฤษณะ ไว้ที่โรงพยาบาลหัวหินในสภาพได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะอย่างรุนแรง
รุ่นพี่บางคนแจ้งกับผู้ปกครองว่า นายกฤษณะหกล้มหัวฟาดกับก้อนหิน!??
แต่เมื่อพ่อแม่เดินทางมาที่โรงพยาบาลสอบถามแพทย์พบว่าน่าจะถูกทำร้ายมากกว่า
งานนี้จึงกลายเป็นคดีขึ้นมาโดยตำรวจสอบสวนพบว่าสาเหตุมาจากนายกฤษณะ ถูกรุ่นพี่บังคับให้ "ทิ้งดิ่ง"
โดยเอามือไพล่หลังแล้วรุ่นพี่จับโยนกระแทกกับพื้นทราย แต่เกิดพลาดหัวฟาดก้อนหินจนเสียชีวิต!!!
นอกจากรุ่นพี่"ฆาตกร"ที่ก่อเหตุจนทำให้รุ่นน้องเสียชีวิตจะถูกดำเนินคดี
คนอื่นๆ ที่ร่วมขบวนไปรับน้องนอกสถานที่จนมีผู้เสียชีวิตถูกสถาบันฯ สั่งพักการเรียนกว่า 100 คน
อีกสถาบันที่เป็นข่าวใหญ่เรื่องรับน้องในปี 2551 คือมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลเทคนิคกรุงเทพ
ผู้ปกครองของนายสุรเดช สุวรรณรัตน์ อายุ 20 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 1 คณะวิศวกรรมอุตสาหการ พาลูกเข้าแจ้งความกับตำรวจ สน.ทุ่งมหาเมฆ ดำเนินคดีกับรุ่นพี่หลายคนที่ทารุณกรรมทั้งร่างกายและจิตใจ
นายสุรเดช มาพบตำรวจด้วยสภาพแผ่นหลังพุพอง อวัยวะเพศบวมแดง และมีรอยไฟเผาขนเพชร!??
น้องใหม่คณะวิศวะ ให้การว่าถูกรุ่นพี่รับน้องด้วยวิธีซาดิสต์ ทั้งซ้อม บังคับดื่มเหล้า ให้ลงไปนอนแช่ในน้ำครำ
รุนแรงสุดก็คือการใช้สเปรย์พ่นสีมาจุดไฟแล้วพ่นใส่กลางหลัง จนได้รับบาดเจ็บ!!!
เหตุร้ายเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2551 รุ่นพี่จัดงานรับน้องคณะภายในสถาบันตั้งแต่ตอนเช้า บังคับให้รุ่นน้องทุกคนกลิ้งลงไปในสนามขี้โคลนและสนามทราย จากนั้นได้นำก้อนน้ำแข็งขนาดใหญ่มาใส่ที่เป้ากางเกง
จากนั้นสั่งให้ลงไปในบ่อน้ำเน่า ตามมาด้วยการใช้น้ำที่ผสมกับพริกป่นเทใส่ที่เป้ากางเกง จากนั้นรุ่นพี่ได้ใช้ไฟแช็กเผาขนเพชรซ้ำอีกรอบ!!!!
ต่อมาก็พามาประทับตราสถาบัน โดยตอนแรกใช้สีสเปรย์พ่นเป็นรูปเฟืองที่กลางหลัง โดยทุกคนเข้าใจว่าคงแค่นี้
ที่ไหนได้หลังจากพ่นเสร็จ รุ่นพี่ก็จุดไฟแช็กแล้วพ่นสีสเปรย์ซึ่งมีส่วนผสมของทินเนอร์สามารถติดไฟได้ ทับเข้ากลางหลังอีกรอบ!!!
เปลวไฟพุ่งเข้าใส่กลางหลังของรุ่นน้องจนดิ้นทุรนทุราย
ตำรวจพบรุ่นน้องถูกกระทำแบบเดียวกันอีกหลายคน ก่อนเข้าจับกุมนายนพพร เกิดศิริ อายุ 20 ปี, นายโอภาส ทิมคลองธรรม อายุ 20 ปี และนายกีรติ เริงอาจ อายุ 20 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 2 คณะวิศวกรรมอุตสาหการ
ทั้ง 3 คนอ้างว่าสมัยเรียนปี 1 ก็ถูกทำแบบนี้เช่นกัน เมื่อมาเป็นรุ่นพี่ก็ใช้วิธีการเดียวกันนี้ทำกับน้องปี 1!??
ตำรวจส่งดำเนินคดีรุ่นพี่ทั้ง 3 คน
ส่วนรุ่นพี่ที่ร่วมก่อเหตุ ส่วนหนึ่งทางสถาบันลงโทษพักการเรียน 1-2 เทอม
แต่ส่วนใหญ่จะถูกภาคทัณฑ์!??
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
