แพนดาน้อยเริ่มโวยวาย รอเดือนครึ่งเดินได้ เตรียมส่งช่วงช่วง-หลินฮุ่ยทดลองอยู่โดมหิมะ


แพนดาน้อยเริ่มโวยวายเหมือนเด็กขี้บ่น ตัวโตคับปากแม่ ผู้เชี่ยวชาญจีนแจ้งผู้บริหารศูนย์เพาะพันธุ์ไทยขอต่อสัญญา ชี้อาจอยู่ได้ไม่เกิน 4 ปี เตรียมส่งหลินฮุ่ย-ช่วงช่วงเข้าอยู่โดมหิมะชิมลางก่อนถ่ายทอดสดสัญญาณภาพสัมพันธ์แม่-ลูกผ่านระบบวิดีโอสตรีมมิ่ง 5 สวนสัตว์ทั่วประเทศ

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศจากโครงการวิจัยและจัดแสดงหมีแพนดาในประเทศไทย สวนสัตว์เชียงใหม่  เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 13 มิถุนายน ว่าบรรดานักท่องเที่ยวยังคงหลั่งไหลเข้าชมความน่ารักของ "ช่วงช่วง" แพนดาเพศผู้ที่ส่วนจัดแสดง รวมทั้งชมการถ่ายทอดสดภาพแม่ลูกแพนดา "หลินฮุ่ย" กับลูกน้อยอย่างต่อเนื่อง

ส.พญ.กรรณิการ์ นิ่มตระกูล สัตวแพทย์ประจำตัวหลินฮุ่ย เปิดเผยว่า สุขภาพแม่ลูกแพนดาดีเยี่ยม ยกเว้นพฤติกรรมแพนดาน้อยที่ไม่อ้อแอ้แล้ว แต่เริ่มโวยวายเหมือนเด็กขี้บ่น เพราะ หลินฮุ่ย มักนอนแผ่ให้ดูดนมอย่างสบายทั้งคืนและ "หลินฮุ่ย" คงจะเมื่อย จึงเปลี่ยนท่าทำให้ลูกไหลลงจากตัวแม่สู่พื้นบ่อยๆ หากลูกแพนดาอายุครบ 3 เดือน ถึงเวลานั้นจะวิ่งได้แล้ว คงเล่นกันทั้งวัน เพราะเป็นช่วงที่ฟันน้ำนมเริ่มขึ้น จะชอบแทะแบบมันเขี้ยว คล้ายเด็กน้อย

"ส่วนช่วงวันที่ 4-5 กรกฎาคมนี้ ที่จะจัดแสดงลูกแพนดาน้อยในตู้อบต่อสายตาสาธารณชนนั้น มีการเตรียมความพร้อมอย่างดี โดยนายวิศิษฐ์ ธีรพงษ์ เป็นพี่เลี้ยงแพนดาที่มองตาก็รู้ใจหลินฮุ่ยที่สุด เลยปรึกษากันว่า หากนำแพนดาน้อยออกมาโชว์ 1 ชั่วโมง จะมีกิจกรรมอะไรบ้าง เพื่อให้หลินฮุ่ยไม่กังวลหรือกระวนกระวายใจตามหาลูก เนื่องจากเคยแยกลูกน้อยออกมานานที่สุดเพียง 20 นาทีเท่านั้น" ส.พญ.กรรณิการ์กล่าว
 
ส.พญ.กรรณิการ์กล่าวว่า อาจจะทำความสะอาดกรง "ช่วงช่วง" เพื่อเปิดพื้นที่ระยะทาง 15 เมตรให้ "หลินฮุ่ย" ใช้เดินวนออกกำลังกาย จัดไผ่สดให้กิน พร้อมจัดหาตุ๊กตาหรือถุงทรายมีน้ำหนักใกล้เคียงกับลูกแพนดาให้ หลินฮุ่ย อุ้ม เพราะพบว่าหลังดึงลูกแพนดาออกมาตรวจสุขภาพ หลินฮุ่ยจะยังคงงอแขนเหมือนอุ้มลูกโดยไม่รู้ตัว กว่าจะรู้สึกและเริ่มเดินหาลูกก็ผ่านไปแล้วประมาณ 10 นาที และช่วงนี้ หลินฮุ่ย วางลูกบ่อยเฉลี่ยวันละ 10-12 ครั้ง เพราะวางใจว่า ลูกแข็งแรง แต่เมื่อลูกตัวโตคับปากทำให้ หลินฮุ่ย คาบลำบาก จึงใช้เวลานานกว่าจะคาบได้ ส่วนจะนำลูกแพนดาเข้าไปไว้ในส่วนจัดแสดงโดมหิมะนั้น น่าจะมีอายุ 6 เดือน แต่ทั้งนี้ต้องให้ ช่วงช่วง และ หลินฮุ่ย เข้าไปทดลองอยู่ก่อน
 
"ช่วงนี้พี่เลี้ยงทั้ง 8 คน และนักวิจัยอีก 3 คน จะสับเปลี่ยนกันดูแลแพนดา 3 ช่วง คือเช้า บ่าย และค่ำ เพื่อสร้างความคุ้นเคยกับแพนดาน้อยด้วยการฝึกจับ ดูแล วัดขนาด จนกว่าจะครบ 1 เดือน เพื่อทุกคนจะทำหน้าที่ทุกตำแหน่งได้ เราโชคดีที่หลินฮุ่ยเป็นแม่แพนดาที่เก่งที่สุดในโลก เราสามารถสื่อสารกับหลินฮุ่ยได้ดี เป็นผลมาจากความใส่ใจในการเลี้ยงดูอย่างใกล้ชิด รับรู้และเข้าใจอารมณ์ความต้องการของแพนดา" ส.พญ.กรรณิการ์กล่าว
 
นอกจากนี้ สพญ.กรรณิการ์ ยังกล่าวถึงสาเหตุที่ขอร้องนักท่องเที่ยวห้ามเล่นกับหมาและแมวจากบ้านก่อนเข้าชมแพนดาน้อย เพราะแพนดาน้อยช่วงนี้ไวต่อการติดโรคไข้หัดสุนัข จะทำให้แพนดาน้อยตายร้อยเปอร์เซ็นต์ จึงห่วงมาก เพราะเชื้อโรคดังกล่าวติดมากับเสื้อผ้าคนเลี้ยงหรือคนที่คลุกคลีกับสัตว์เหล่านี้ เป็นเชื้อโรคที่เรียกว่า "แอร์บอร์น"และลูกแพนดาน้อยของเรายังเล็ก ยังไม่สามารถฉีดวัคซีนป้องกันได้ ปกติจะฉีดวัคซีนตอนประมาณอายุ 3 เดือน ซึ่งต้องรอวัคซีนจากจีน และ 2 ปีข้างหน้า เราจะเริ่มผสมพันธุ์แพนดาอีกครั้งช่วงเป็นสัด โดยจะต้องเก็บน้ำเชื้อของช่วงช่วงส่งให้จีนนำไปผสมพันธุ์แพนดาเพศเมียตัวอื่นต่อไป
 
นายเว่ย หมิง ผู้เชี่ยวชาญจากศูนย์เพาะพันธุ์หยาอัน สาธารณรัฐประชาชนจีน กล่าวว่า น้ำหนักตัวของแพนดาน้อยที่เพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดนั้นไม่ถือว่าผิดปกติ เนื่องจากแพนดาน้อยมีน้ำหนักแรกเกิดมากคือกว่า 300 กรัม เรียกว่าค่อนข้างเยอะ ส่วนเรื่องเดินต้องใช้เวลา 1 เดือนครึ่ง ซึ่งช่วงเดียวกันรูหูก็จะปรากฏชัดเจนสมบูรณ์ด้วย

"แพนดาน้อยพร้อมที่จะอยู่ในตู้อบได้นานไม่ต่างจากช่วงเวลาที่เราตรวจสุขภาพ เพราะต้องดูความพร้อมทั้งลูกแพนดาและหลินฮุ่ย ขณะนี้ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าจะนำออกมาได้ครั้งละกี่นาทีหรือกี่ชั่วโมง สิ่งสำคัญที่สุดคือติดตามดูสถานการณ์ที่จะไม่ให้กระทบกับสุขภาพของแพนดาน้อย" นายเว่ย หมิงกล่าว
 
นายเว่ย หมิง กล่าวอีกว่า กรณีทางการไทยต้องการเจรจาให้แพนดาน้อยอยู่ที่เมืองไทยนานขึ้นนั้น (ตามข้อตกลงอยู่แค่ 2 ปี) นั้น ได้แจ้งเรื่องล่วงหน้าให้ผู้บริหารศูนย์เพาะพันธุ์แพนดาจีนทราบแล้ว แต่ยังไม่ทราบผล ทางสหรัฐอเมริกาก็เคยขอให้แพนดาน้อยอยู่ในสหรัฐอเมริกาได้นานขึ้น ซึ่งจีนก็ต่อสัญญาให้ได้อีก 2 ปี แต่ไม่ให้ลูกแพนดาอายุเกิน 4 ปี เพราะจำเป็นต้องจับคู่ผสมพันธุ์แบบข้ามสายพันธุ์ เป็นการขยายพันธุ์แพนดาที่ใกล้สูญพันธุ์เอาไว้ให้ได้มากที่สุด
 
ทางด้านสำนักงานไปรษณีย์เชียงใหม่ ที่จัดตั้งบู๊ธจำหน่ายแสตมป์ บริเวณทางเข้าส่วนจัดแสดงแพนดาในประเทศไทย เปิดโอกาสให้ประชาชนบันทึกภาพตนเองลงแสตมป์ ซึ่งมีพื้นเป็นรูป ช่วงช่วง- หลินฮุ่ย และแพนดาน้อย พร้อมวันเดือนปีเกิด และคำว่า "เจ้าแพนดาน้อยตัวแรกในแผ่นดินไทย"

นายกิตติ สงวนเพชรจินดา พนักงานไปรษณีย์เชียงใหม่ กล่าวว่า แสตมป์ทั้งหมดจะมี 8 ดวง สามารถใช้ส่งจดหมายได้จริง ราคาชุดละ 100 บาท จะมีจำหน่ายไปจนถึงวันที่ 12 สิงหาคม การจัดแสตมป์ลักษณะนี้เคยนำออกจำหน่ายเมื่อคราวงานมหกรรมพืชสวนโลก ราชพฤกษ์ ปี 2549 ที่ จ.เชียงใหม่ 
 
ด้านนายกฤษฎา นิถานานนท์ วิศวกรโดมหิมะ ได้ประชุมเจ้าหน้าที่เพื่อซักซ้อมความเข้าใจการทำงานของระบบการทำความเย็นและการพ่นหิมะเทียม ก่อนเปิดบริการโดมหิมะแก่นักท่องเที่ยวในวันที่ 15 มิถุนายนนี้
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกันนี้เป็นวันแรก ที่ทางสวนสัตว์เชียงใหม่ถ่ายทอดสดสัญญาณภาพของ "หลินฮุ่ย" กับแพนดาน้อยผ่านระบบวิดีโอสตรีมมิ่ง ไปยังสวนสัตว์ทั้ง 5 แห่งทั่วประเทศ ปรากฏว่า มีนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างประเทศเดินทางเข้าชมที่สวนสัตว์นครราชสีมามากขึ้น โดยเฉพาะเด็กนักเรียนต่างให้ความสนใจชมพฤติกรรมแม่ลูกแพนดาคู่นี้ ซึ่งจัดแสดงไว้บริเวณลานข้างสวนจัดแสดงนกเงือก
 
นายบัญญัติ อินทร์สุวรรณ ผู้อำนวยการสวนสัตว์นครราชสีมา กล่าวว่า จะเปิดให้ประชาชนชมผ่านสัญญาณระบบวิดีโอสตรีมมิ่งทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00-16.00 น. ซึ่งได้รับการต้อนรับอย่างดี โดยทางสวนสัตว์นครราชสีมาจัดเจ้าหน้าที่วิทยากรมาให้ความรู้เกี่ยวกับถิ่นที่อยู่ การผสมพันธุ์และพฤติกรรมการต่างๆ ของแพนดาให้ประชาชนรับทราบอีกด้วย 

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์