สพญ.กรรณิการ์ นิ่มตระกูล สัตวแพทย์ประจำตัวหลินฮุ่ย โครงการวิจัยและจัดแสดงแพนดาในประเทศไทย
เปิดเผยเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน ถึงพัฒนาการและสุขภาพของแพนดาน้อยและหลินฮุ่ยว่า สุขภาพของแพนดาแม่ลูกดีขึ้นมากเรียกว่า สุขสบาย โดยเฉพาะลูกแพนดาที่อ้วนขึ้นมากจากที่ดูด้วยสายตา อย่างไรก็ตาม ในช่วงเช้าวันที่ 12 มิถุนายน จะตรวจสุขภาพลูกแพนดาอีกครั้ง คาดว่าน้ำหนักน่าจะขึ้นไปอีกกว่า 100 กรัม เพราะอ้วนกลมเห็นได้ชัด สีที่ขาเริ่มลามไปถึงต้นขาคล้ายแพนดาตัวโต ตอนนี้เหลือเพียงความชัดเจนหรือเข้มขึ้นเท่านั้น
สพญ.กรรณิการ์ กล่าวว่า ช่วงกลางคืนหลินฮุ่ยปล่อยลูกนอนเองและนานขึ้น เพราะเริ่มวางใจว่าลูกโตและแข็งแรง
สามารถกินไผ่ได้เพิ่มเป็น 3-4 กิโลกรัม แต่ยังชอบกินไผ่ลูกศรซึ่งหายากและปลูกอยู่ไกลถึงดอยอินทนนท์ เราจึงพยายามกระตุ้นให้กินไผ่อื่น เช่น ไผ่ตง วันนี้เจ้าหน้าที่ขึ้นไปตัดไผ่ตง เพื่อความสดและใหม่ลงมาให้เพื่อจะกินได้มากขึ้น
"ช่วงนี้พยายามป้อนขนมปังไผ่ชิ้นเล็กๆ ใส่ปากหลินฮุ่ยให้มากขึ้น เพราะอุดมไปด้วยโปรตีน แคลเซียมที่จะช่วยให้น้ำนมสมบูรณ์ ก็กินได้มากประมาณ 2,000 กรัมต่อวัน ให้กินมากกว่าช่วงช่วงด้วยซ้ำ เพราะช่วงช่วงน้ำหนักกำลังพุ่ง" สพญ.กรรณิการ์กล่าว และว่า แม้น้ำหนักช่วงช่วงจะพุ่งขึ้น แต่ไม่น่าจะมีปัญหา เพราะโครงสร้างแพนดาเพศผู้ที่จีนเล็กกว่า แต่สมส่วนที่ 120 กิโลกรัม ขณะที่ช่วงช่วงมีโครงสร้างที่ใหญ่กว่าน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นจึงยังไม่น่ามีปัญหา พี่เลี้ยงจึงสนับสนุนให้กินไผ่เต็มที่ เพื่อให้สมบูรณ์และแข็งแรง เพราะเกรงว่าช่วงช่วงอาจจะสุขภาพไม่ดี หากไปบีบเรื่องน้ำหนักมาก แต่ปรับเปลี่ยนการกินด้วยการให้ปีนป่ายขึ้นไปกินไผ่ในที่สูง เพื่อให้ออกกำลังและให้เล่นเต็มที่
สพญ.กรรณิการ์กล่าวว่า พฤติกรรมที่น่ารักในสายตาทีมพี่เลี้ยงคือ เมื่อกลับเข้ามาที่คอกกัก แม้จะนอนพักห่างกันประมาณ 15 เมตร ช่วงช่วงส่งเสียง อึ๊ อึ๊ ในลำคอ สลับกับหลินฮุ่ย เหมือนตอบโต้กันไปมา
เช่นเดียวกับเวลาได้ยินเสียงลูกแพนดาน้อยร้องอ้อแอ้ ช่วงช่วงจะทำเสียงแบบเดียวกันประมาณ 2-3 นาที ก่อนที่จะถอนหายใจแล้วนอนหลับไป ด้านนายประเสริฐศักดิ์ บุญตระกูลพูนทวี หัวหน้าโครงการวิจัยฯ กล่าวว่า ลูกแพนดาโตขึ้นมาก ทำให้หลินฮุ่ยต้องกอดลูกไว้ระหว่างขาหน้าสองข้าง ในช่วงกลางดึกที่ผ่านมาหลินฮุ่ยแยกตัวไปนอนที่มุมห้องนานกว่าครึ่งชั่วโมง พี่เลี้ยงต้องปลุกให้หลินฮุ่ยตื่นมาดูแลลูก ซึ่งหลินฮุ่ยกินได้ดีขึ้นโดยเฉพาะน้ำที่กินได้มากกว่า 3 ลิตรต่อวัน เป็นผลดีต่อการผลิตน้ำนมให้กับลูกแพนดา ส่วนแพนดาน้อยนั้นสีดำตามตำแหน่งต่างๆ ชัดเจนมากขึ้นแล้ว รอบดวงตาสีดำ ใบหูขยายใหญ่ขึ้น มุมปากสองข้างสีเข้ม โดยเฉพาะผิวหนังทั่วทั้งตัวเริ่มยืดขยายรองรับความเติบโต และให้แม่คาบในยามเจริญวัยโดยไม่เจ็บ
ด้านนายธนภัทร พงษ์ภมร ผู้อำนวยการสวนสัตว์เชียงใหม่ กล่าวถึงความคืบหน้าการจัดพิธี "สู่ข้าวเอาขวัญแพนดาน้อย" ระหว่างวันที่ 4-6 กรกฎาคมว่า มีการแบ่งงานคณะกรรมการทั้ง 9 ชุดอย่างชัดเจน
โดยมีรองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ 3 คน เป็นประธานจัดกิจกรรม ประชาสัมพันธ์ และสิทธิประโยชน์ ซึ่งอยู่ในระหว่างวางแผน นายธนภัทร กล่าวถึง กรณีที่เจ้าดวงเดือน ณ เชียงใหม่ ประธานสภาวัฒนธรรม จ.เชียงใหม่ ห่วงใยพิธีกรรมที่จะจัดขึ้นโดยเฉพาะชื่องาน "สู่ข้าวเอาขวัญ" ว่า ควรไตร่ตรองให้ดีเพราะที่ผ่านมาไม่เคยทำกับสัตว์อาจขัดประเพณีได้นั้นว่า เข้าใจและถือเป็นเรื่องที่ดีที่มีคนทักท้วงเรื่องจัดกิจกรรรมสู่ข้าวเอาขวัญแพนดาน้อย แต่ขอยืนยันว่าการจัดงานจะเน้นการประยุกต์รูปแบบและพิธีกรรมที่มีความเหมาะสมตามประเพณีทุกประการ ขอให้มั่นใจว่าเราพยายามจะทำสิ่งที่ดี
ครอบครัวแพนดาใช้เสียงสื่อภาษาโต้ตอบพ่อ-แม่-ลูก
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอื่นๆ ครอบครัวแพนดาใช้เสียงสื่อภาษาโต้ตอบพ่อ-แม่-ลูก