ผู้ปกครองแห่รับลูก ตั้งวอร์รูม รร.เซนต์คาเบรียล

วันนี้ (11 มิ.ย.) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวถึงกรณีพบนักเรียนโรงเรียนเซนต์คาเบรียลติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ชนิด เอเอช1เอ็น1

ตนได้รับรายงานจาก นพ.ปราชญ์ บุญยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุขว่าขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขได้เข้าไปดูแลและดำเนินการตามกระบวนการทางการ แพทย์เพื่อระวังและป้องกันไม่ให้มีการแพร่ระบาดไปยังนักเรียนรายอื่นอยู่ แล้ว ดังนั้นขอให้ผู้ปกครองอย่าเพิ่งตื่นตระหนก หรือกังวลจนเกินไป โดยขอให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด หากพบว่าบุตร หลานไม่สบายขอให้หยุดเรียนและรีบไปพบแพทย์โดยด่วน อย่ากลัวว่าจะต้องขาดเรียนเพราะเรื่องของสุขภาพสำคัญกว่า ส่วนจะต้องถึงขั้นปิดโรงเรียนหรือไม่นั้น ให้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของโรงเรียนและผู้แทนจากกระทรวงสาธารณสุข ส่วนโรงเรียนอื่นๆ เคยมอบนโยบายให้คุมเข้มเรื่องนี้ก่อนเปิด เทอมอยู่แล้ว ดังนั้นขอให้ทุกโรงเรียนปฏิบัติตามนโยบายอย่างเคร่งครัด 

นายบัณฑิตย์ ศรีพุทธางกูร เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (กช.) กล่าวว่า ได้เข้าไปตรวจเยี่ยมที่โรงเรียนแล้ว

โดยได้มีการตั้งวอร์รูมขึ้นมาเพื่อทำงานร่วมกัน 4 ฝ่าย ได้แก่ โรงเรียน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) สาธารณสุข และกรุงเทพมหานคร ซึ่งในเบื้องต้นโรงเรียนได้ปิดการเรียนการสอนของนักเรียนจำนวน 3 ห้องตั้งแต่วันที่ 11-14 มิ.ย. และจะเปิดเรียนในวันที่ 15 มิ.ย. โดยเป็นอำนาจของโรงเรียนที่ทำได้อยู่แล้ว ส่วนนักเรียนชั้นอื่นๆ ยังเรียนตามปกติแต่ได้เน้นย้ำให้ทำตามข้อแนะนำของ กระทรวงสาธารณสุขที่เข้าไปให้คำแนะนำ และหากพบว่าเด็กคนไหนมีอาการไม่สบายให้หยุดเรียน และแจ้งให้วอร์รูมทราบ เพื่อทำการติดตามเด็กอย่างใกล้ชิดต่อไป 

อย่างไรก็ตาม นายบัณฑิตย์ กล่าวอีกว่า  สช.จะย้ำไปยังโรงเรียนเอกชนในสังกัดทุกแห่งให้ปฏิบัติตามข้อแนะนำอย่าง เคร่งครัด โดยเฉพาะการณรงค์ให้ กินของร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ และใช้หน้ากากอนามัยในกรณีที่มีอาการไอหรือจาม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบรรยากาศหน้าบริเวณโรงเรียนเซนต์คาเบียล ในช่วงเช้า เป็นไปด้วยความวุ่นวาย เด็กประถมและมัธยม ต่างใส่หน้ากาอนามัยมาโรงเรียนกันแทบทุกคน แม้ว่าผู้บริหารโรงเรียนจะย้ำว่าไม่ได้นิ่งนอนใจกับกรณีที่พบนักเรียนวัย 11 ขวบ ป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 โดยทางโรงเรียนได้สั่งปิดการเรียนของนักเรียนชั้น ป.6/2,  ป.6/3 และ ป.6/4 ไปแล้ว พร้อมมีมาตรการป้องกันแล้วก็ตาม อย่างไรก็ตามทันทีที่ทราบข่าวมีผู้ปกครองจำนวนมาก โดยเฉพาะเด็กเล็กชั้นประถมศึกษาที่ผู้ปกครองมารับลูกกลับบ้านเป็นจำนวนมาก โดยผู้ปกครองต่างมีสีหน้าวิตกกังวล โดยเฉพาะเด็กที่มีอาการไอ จาม และมีน้ำมูก รีบมารับไปพบแพทย์ทันที ขณะเดียวกันมีรถจากกรมอนามัยและสำนักอนามัย กทม.วิ่งเข้าไปนำเจลล้างมือและหน้ากากอนามัยจำนวนมาก พร้อมคู่มือประชาชนเข้าไปแจกเด็กและครูในโรงเรียน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรค