ฐานปล่อยปละ รุ่นพี่ฉุนถูกร้อง อาฆาตรุ่นน้อง ขู่ตามตื้บถึงบ้าน
ศธ.เอาจริงผู้บริหารอุเทนถวายไม่ใส่ใจรับ น้องโหด สั่งสอบวินัยกราวรูด5 ราย ตั้งแต่รองอธิการบดี-คณบดี-หัวหน้าภาค-อาจารย์ฝ่ายกิจการนักศึกษา รวมถึงให้อธิการ บดีไปไล่บี้รุ่นพี่ที่ลงมือโหดกับรุ่นน้องทั้งหมดว่ามีใครบ้าง จากนั้นก็ให้นำตัวมาลงโทษรายตัว ถ้าหากมีคนนอกแฝงตัวเข้ามาร่วมด้วยก็ให้ดำเนินคดีทางอาญา ผู้ปกครองรุ่นน้องที่ออกมาร้องเรียนเผยรุ่นพี่ยังซ่าขู่จะตามมาตื้บลูกชายถึงบ้าน แค้นที่ออกมาแฉพฤติกรรมซาดิสต์
รับน้องดุ ลามถึงมหาวิทยาลัยราชภัฏ เผยรุ่นพี่มรภ.เลยจับน้องใหม่ซ้อมร้องเพลงเชียร์แต่เสียงดังไม่เป็นที่พอใจ เลยสั่งให้นั่งชิดตะเบ็งเสียง แล้วจู่ๆบรรดาน้องปีหนึ่งก็เกิดเป็นลมวิงเวียนหน้ามืดหมู่พร้อมๆ กัน กว่า 70 คน ต้องระดมนำส่งโรงพยาบาลวุ่น ด้านรุ่นพี่ยอมรับน้องใหม่นั่งชิดติดกันอยู่ในที่แคบ ประกอบกับอากาศร้อนอบอ้าว แถมยังไม่ได้กินข้าวเลยเป็นลมกันเกือบร้อยคน ส่วนกรณีอุเทนถวาย ศธ.สั่งสอบวินัยกราวรูด 5 ราย ตั้งแต่รองอธิการบดี-คณบดี-หัวหน้าภาค-อาจารย์ฝ่ายกิจการนักศึกษาฐานปล่อยปละละเลยรับน้องโหด รวมถึงให้อธิการบดีไปไล่บี้รุ่นพี่ที่ลงมือโหดกับรุ่นน้องทั้งหมดว่ามีใครบ้าง จากนั้นก็ให้นำตัวมาลงโทษรายตัว ผู้ปกครองรุ่นน้องที่ออกมาร้องเรียน เผยรุ่นพี่ยังซ่าขู่จะตามมาตื้บลูกชายถึงบ้าน แค้นที่ออกมาแฉพฤติกรรมซาดิสต์
มหาวิทยาลัยราชภัฏเลยซ้อมเชียร์เตรียมรับน้องใหม่ ทำให้นักศึกษาชั้นปีที่ 1 กว่า 70 คนเป็นลมหามส่งโรงพยาบาลกันอลหม่านครั้งนี้ เมื่อเวลา 20.30 น.วันที่ 10 มิ.ย.รถกู้ภัยของมูลนิธิสว่างคีรีธรรมจังหวัดเลย ได้ระดมนำนักศึกษาคณะครุศาสตร์ ชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย จำนวนกว่า 70 คนนำส่งโรงพยาบาลจังหวัดเลยอย่างอลหม่าน เนื่องจากแต่ละคนอาการอิดโรย คล้ายจะเป็นลม พยาบาลต้องปฐมพยาบาลกันอย่างหนัก เนื่องจากแต่ละคนมีอาการคล้ายๆ กัน มีนักศึกษารุ่นพี่อำนวยความสะดวกขณะนำส่งให้แพทย์วินิจฉัยรักษา
ก่อนเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวนั้น เมื่อเวลา 16.00 น. นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏเลย จำนวน 2,000 คนได้ไปรวมตัวกันที่สนามกีฬามหาวิทยาลัย เพื่อฝึกซ้อมร้องเพลงเชียร์สำหรับกิจกรรมรับน้องใหม่ โดยแบ่งกันให้แต่ละคณะซ้อมร้องเพลงเชียร์ แต่พอเริ่มดำเนินกิจกรรมสักพัก ก็ไม่เป็นที่พอใจของรุ่นพี่ เนื่องจากเสียงไม่ดังเท่าที่ควร บรรดาสต๊าฟรุ่นพี่จึงสั่งให้นั่งชิดรวมกัน เพื่อต้องการให้เสียงเพลงที่ร้องออกมาดังจนเป็นที่พอใจ แล้วจู่ๆ นักศึกษาก็เกิดอาการเป็นลมพร้อมๆ กัน คาดว่าเกิดจากการอยู่รวมกันกับแบบแออัด ประกอบกับอากาศร้อนอบอ้าว จึงทำให้เกิดเป็นลมหมู่ขึ้น
น.ส.หนึ่งฤทัย ทองสงค์ นักศึกษาคณะครุศาสตร์ ชั้นปีที่ 1 กล่าวว่า วันนี้ นักศึกษารุ่นพี่ได้นำรุ่นน้องไปฝึกร้องเพลง ที่สนามกีฬามหาวิทยาลัย เพื่อเตรียมพร้อมวันรับน้องใหม่ ซึ่งกำหนดวันรับน้องไว้วันที่ 26 มิ.ย. ขณะที่ซ้อมร้องเพลงกันอยู่ปรากฏว่าหลายคนเกิดอาการหมดแรงโดยไม่ทราบสาเหตุ
นายปฏิภัทร์ สุวรรณไชย นักศึกษาคณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม รุ่นพี่ กล่าวว่าสาเหตุที่น้องใหม่เป็นลมหมู่ การอยู่ร่วมกันอย่างแออัดเป็นเวลานาน ประกอบกับอากาศร้อน และส่วนมากน้องๆ ไม่ได้รับประทานอาหารกัน เป็นเหตุเกิดอาการหมดแรงคล้ายเป็นลม
ส่วนความคืบหน้ากรณีร้องเรียนรุ่นพี่นักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวายรับน้องโหดนั้น วันเดียวกัน ที่มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกันนี้ ไม่มีผู้ปกครอง และนักศึกษาอุเทนถวาย เดินทางมาร้องเรียนเพิ่มกับมูลนิธิแต่อย่างใด มีเพียงผู้ปกครองพากันโทรศัพท์มาสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับการร้องเรียน และจะประสานเพื่อเข้าร้องเรียนในภายหลัง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากนี้ ยังมีผู้ปกครองโทร.มาร้องเรียนต่อเจ้าหน้าที่มูลนิธิว่า เพื่อนของลูกที่กำลังศึกษาอยู่ที่อุเทนถวายในขณะนี้ ได้โทรศัพท์มาเตือนว่ารุ่นพี่ที่ทำกิจกรรมรับน้องได้มาบอกกับน้องใหม่นักศึกษาชั้นปี 1 ว่ารู้ตัวแล้วว่ามีใครบ้างที่เป็นคนลาออกแล้วไปร้องเรียนต่อมูลนิธิ พร้อมกับขู่ว่าจะตามไปทำร้ายร่างกาย เพื่อนจึงโทร.มาบอกให้ระมัดระวังตัว ทำให้ลูกเกิดความหวาดกลัว เนื่องจากรุ่นพี่รู้จักบ้านของนักศึกษาชั้นปีที่ 1 ที่ยื่นความประสงค์ลาออก เจ้าหน้าที่จึงได้รับเรื่องดังกล่าวเอาไว้ก่อนจะประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปให้ความช่วยเหลือต่อไป
เมื่อเวลา 13.00 น. ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโล ยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย สมาคมศิษย์เก่าอุเทนถวาย ได้จัดประชุมหารือแนวทางแก้ไขปัญหาการรับน้องรุนแรง และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้สถาบัน มีศิษย์เก่าอุเทนถวายรุ่นต่างๆ จากทั่วประเทศ ประมาณ 200 คน เดินทางมาจากจังหวัดต่างๆ อาทิ ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี เพื่อเข้าร่วมหารือโดยใช้เวลาหารือประมาณ 3 ชั่วโมง
จากนั้นเวลา 16.00 น. นายวิชัย ป้อมประเสริฐ นายกสมาคมศิษย์เก่าอุเทนถวาย พร้อมด้วยตัวแทนศิษย์เก่ารุ่น 19 พ.ศ.2495 - รุ่น 63 พ.ศ.2537 ร่วมกันแถลงข่าวข้อเสนอของศิษย์เก่าที่จะเสนอแนวทางแก้ปัญหาการรับน้องรุนแรง ต่อผู้บริหารวิทยาเขตอุเทนถวาย
นายวิชัยกล่าวว่า จากการระดมความคิดเห็นศิษย์เก่าทุกรุ่นแล้ว เห็นว่าควรปรับรูปแบบการรับน้องโดยหันกลับไปใช้แบบเดิมที่เคยทำมา คือ พิธีครอบช่าง ซึ่งเป็นพิธีทางศาสนาทั้งพุทธ พราหมณ์ และยังเป็นการฝึกความอดทนของการเป็นช่าง มีความสนุกสนาน มีกีฬา โดยจัดเป็นเวลา 2 วัน 2 คืน โดยมีครูอาจารย์เป็นหลักในการจัดเพื่อรับขวัญศิษย์ใหม่ ส่วนรุ่นพี่ปัจจุบันเป็นแค่พี่เลี้ยง โดยจัดภายในสถาบัน แต่หากจะจัดนอกสถานที่ก็ต้องดูระเบียบอีกครั้ง ทั้งนี้ ทางสมาคมศิษย์เก่าจะหารือรายละเอียดการแก้ไขปัญหาความรุนแรง ทั้งการรับน้องและการตีกัน เพื่อเสนอวิทยาเขตภายใน 45 วัน และเชื่อว่าภายใน 2 เดือนนี้เรื่องการรับน้องรุนแรงก็จะไม่เกิดขึ้นอีก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบรรยากาศในที่ประชุมได้นำเสนอความเห็นหลากหลาย ศิษย์เก่าบางรุ่นเห็นว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเนื่องจากความหละหลวมในการดูแลของอาจารย์ ไม่มีมาตรการควบคุมดูแลที่เหมาะสมเพียงพอ และเห็นว่าการรับน้องที่ดำเนินการกันอยู่ขณะนี้รุนแรงเกินกว่าเหตุและโหดเกินไป ขณะที่บางรายเห็นว่ามีการนำเสนอข้อมูลการรับน้องที่เกินกว่าความเป็นจริง อย่างไรก็ตาม ในที่ประชุมได้มีการนำเสนอถึงแนวทางแก้ไขปัญหา อาทิ เสนอให้จัดประชุมสัมมนาร่วมกันระหว่างอาจารย์ นักศึกษา และศิษย์เก่าเป็นประจำทุกปี ขึ้นป้ายหน้ามหาวิทยาลัยว่า "อุเทนฯ ปลอดรับน้อง" รวมทั้งเสนอให้นำพิธีครอบช่าง ซึ่งเป็นพิธีศักดิ์สิทธิ์ของชาวอุเทนถวายมาแทนพิธีการรับน้องปัจจุบัน จัดพิธีบายศรีสู่ขวัญในวันที่ 1 ก.พ. ซึ่งเป็นวันสถาปนา หรือวันบลูเดย์ เป็นต้น
วันเดียวกัน เมื่อเวลา 16.30 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ รมช.ศึกษาธิการ นายสุเมธ แย้มนุ่น เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) และนายสรรค์ วรอินทร์ ที่ปรึกษาด้านพัฒนาภูมิปัญญาท้องถิ่น สกอ. ร่วมกันแถลงข่าวผลสรุปคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงกรณีการรับน้องรุนแรงของวิทยาเขตอุเทนถวาย
นายชัยวุฒิกล่าวว่า ได้รับรายงานผลสรุปของคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงแล้ว โดยผลจากการสอบถามพยานผู้เสียหายและอาจารย์ เชื่อว่าเป็นเรื่องจริงกรณีมีการสั่งให้รุ่นน้องกินพริก ใช้วาจาขู่เข็ญบังคับ ทำร้ายร่างกาย สั่งให้เดินไปมุมห้องถอดกางเกง ใช้ไฟเผาขนเพชร และพ่นสเปรย์อวัยวะเพศ ตลอดจนใช้อาวุธปืนข่มขู่ ทั้งที่ ศธ.ได้ออกประกาศและมีนโยบายอย่างชัดเจนและผู้บริหารและอาจารย์ก็ทราบดีแล้ว แต่ก็ยังคงเกิดกรณีรุ่นพี่บางกลุ่มในบางสาขารับน้องอย่างไม่เหมาะสม บังคับขู่เข็ญและละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐาน
นายชัยวุฒิกล่าวต่อว่า ฉะนั้นคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงจึงเสนอให้ดำเนินการ 2 เรื่อง คือ 1.ขอให้เลขาธิการกกอ.สั่งการไปยังอธิการบดีสืบเสาะเพิ่มเติม เพื่อหาผู้กระทำผิดทั้งรุ่นพี่ หรือบุคคลภายนอก มาลงโทษตามสถานหนักเบา ตั้งแต่การตัดคะแนนความประพฤติ ไปจนถึงดำเนินคดีอาญาถ้ามีความผิดทางอาญา และ 2.ขอให้เลขาธิการกกอ.สั่งการไปยังอธิการบดี ให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัย ผู้บริหาร อาจารย์และผู้เกี่ยวข้อง จำนวน 5 ราย อาทิ รองอธิการบดี คณบดี หัวหน้าภาควิชา อาจารย์ฝ่ายกิจการนักศึกษา เป็นต้น โดยขอให้ดำเนินการให้เร็วที่สุด
"การหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษถ้ารุ่นน้องไม่กล้าที่จะให้ข้อมูลเพราะกลัวรุ่นพี่ ก็ให้เป็นดุลพินิจของอธิการบดีที่จะดึงเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาร่วมสอบสวน เพราะบางเรื่องก็เกี่ยวข้องกับคดีอาญา ทั้งนี้ รุ่นน้องผู้เสียหายได้ให้ข้อมูลเบื้องต้นว่าผู้ที่สั่งการมี 3-4 ราย แต่ผู้เสียหายไม่กล้าระบุว่าเป็นรุ่นพี่หรือคนภายนอกที่แฝงตัวมา" รมช.ศึกษาธิการ กล่าวและว่า สำหรับผู้พบเห็นและต้องการแจ้งเบาะแสการรับน้องที่รุนแรงและไม่เหมาะสมของสถาบันการศึกษาต่างๆ ขอให้แจ้งมาที่ ศธ.โดยจะเก็บข้อมูลไว้เป็นความลับ สำหรับรุ่นน้องผู้เสียหายที่ต้องการย้ายสถานที่เรียนก็พร้อมที่จะหาที่เรียนให้
นายสุเมธกล่าวว่า หลังอ่านผลสรุปของคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงแล้วถ้าไม่มีประเด็นใดเพิ่มเติม ตนจะทำหนังสือสั่งการถึงอธิการบดีในวันที่ 11 มิ.ย.นี้