ความคืบหน้าสุขภาพแม่ลูกแพนด้าที่สวนสัตว์เชียงใหม่ เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 9 มิ.ย. ที่ส่วนวิจัยและจัดแสดงแพนด้า สวนสัตว์เชียงใหม่
นายเว่ยหมิง ผู้เชี่ยวชาญจากประเทศจีนพร้อมทีมวิจัยแพนด้าสวนสัตว์เชียงใหม่ แยกแพนด้าน้อยจากหลินฮุ่ย แล้วนำตัวมาตรวจสุขภาพในตู้อบได้นานถึง 15 นาที หลังเว้นการตรวจไป 2 วัน ซึ่งครั้งนี้ถือว่าครบ 2 สัปดาห์เต็มที่หลินฮุ่ยให้กำเนิดแพนด้าน้อย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการแยกแม่ลูกนั้นทีมวิจัยได้ส่งไผ่ให้หลินฮุ่ยกิน แต่หลินฮุ่ยไม่ยอมกิน เนื่องจากเรียนรู้ว่าถ้าได้กินไผ่ลูกจะหายไป เจ้าหน้าที่จึงเปลี่ยนมาใช้ขนมปังหลอกล่อจนยอมกิน จึงสามารถแยกแพนด้าน้อยออกมาตรวจได้ โดยนายเว่ยหมิง เปิดเผยผ่านล่ามว่า ตอนนี้ลูกหมีแพนด้าพ้นขีดระยะอันตรายแล้วไม่มีปัญหาอะไร ตนจะเดินทางกลับประเทศจีนสิ้นเดือนมิ.ย.นี้ เพราะที่ศูนย์เพาะพันธุ์แพนด้าหย่าอันประเทศจีนในเดือนก.ค.จะมีแพนด้าเกิดลูกอีก ต้องไปดูแล ส่วนมากแล้วแพนด้าจะตกลูกช่วงเดือนก.ค. มีแต่แพนด้าน้อยที่ประเทศไทยที่คลอดในเดือนพ.ค. อย่างไรก็ตามทางจีนจะส่งผู้เชี่ยวชาญแพนด้าอีกคน คือ นายอู๋ไผ่ผิง เดินทางมาดูแลแพนด้าน้อยตัวนี้สลับกับตนต่อไป
นายเว่ยหมิง กล่าวว่า เร็วๆ นี้ เราจะได้เห็นภาพหลินฮุ่ยใช้ปากงับหนังลูก แล้วลากไปกับพื้นแทนการคาบลูกขึ้นมาอุ้ม ซึ่งถือเป็นธรรมชาติของแม่แพนด้า
เพราะหลังจากที่ลูกตัวโตขึ้นจนแม่ไม่สามารถที่จะใช้ปากงับทั้งตัวมาไว้ได้เช่นเดิม แต่การใช้ปากงับที่หลังลูกแล้วลากไปนั้นจะไม่มีอันตรายใดๆ เป็นสัญชาต ญาณการปรับตัว และพัฒนาการเลี้ยงลูกของแพนด้าตามธรรมชาติ สพ.ญ.กรรณิการ์ นิ่มตระกูล สัตวแพทย์ประจำตัวแพนด้า เปิดเผยถึงการตรวจสุขภาพแพนด้าน้อยว่า มีการเจริญเติบโตที่เร็วมาก ยกเว้นความยาวของขาและหางที่ยาวขึ้นเพียงเล็กน้อย ขณะนี้ลูกแพนด้ามีน้ำหนัก 500 กรัม เพิ่มจากเดิม 105 กรัม ความยาวลำตัว 22 ซ.ม. เพิ่มจากเดิม 2 ซ.ม. หางยาว 6 ซ.ม. มีสีดำเกิดขึ้นที่บริเวณขาหลังจากปลายเท้าเกือบถึงหัวเข่า สีดำที่หู และตา รวมไปถึงขาหน้าชัดเจนมากขึ้น ดวงตามีรอยขีดของเปลือกตาลึกชัดเจนมากขึ้น พบการขยับของดวงตาภายใน ใบหูมีสีดำชัดเจน เริ่มพบการพัฒนาของรูหู โดยมีรอยบุ๋มลึกลงไปเล็กน้อย ทีมงานจะชั่งน้ำหนักลูกหมีอีกครั้งในวันที่ 13 มิ.ย. นี้ ที่น่าดีใจคือวันนี้แพนด้าน้อยผิวหนังเริ่มย่น แสดงให้รู้ว่าเตรียมพร้อมที่จะขยายลำตัวใหญ่ขึ้น และยังปรากฏร่องและหลืบที่หูซึ่งจะพัฒนากลายไปเป็นรูหูต่อไป
ประกาศผล12สค. ชื่อแพนด้าน้อย
สพ.ญ.กรรณิการ์ กล่าวว่า สำหรับน้ำนมแม่นั้น แม้ว่าการเติบโตของแพนด้าน้อยจะเป็นไปอย่างก้าวกระโดด
ขณะที่หลินฮุ่ยยังไม่กลับมากินอาหารได้มากเท่าปริมาณตามปกติก่อนตั้งท้องแต่ก็ไม่เป็นปัญหา เนื่องจากแพนด้าน้อยดูดนมแม่ทุกวัน เป็นการกระตุ้นการทำงานของเต้านมหลินฮุ่ย จะเห็นได้ว่าหลินฮุ่ยมีปริมาณน้ำนมที่มาก เจ้าหน้าที่ต้องคอยเช็ดให้ทุกเช้า และจากการตรวจสอบพบว่าคุณภาพของน้ำนมสูงมาก มีสีขาวขุ่นแสดงถึงคุณภาพที่ดี
นายประเสริฐศักดิ์ บุญตระกูลพูนทวี หัวหน้าส่วนวิจัยและจัดแสดงแพนด้า กล่าวว่า สำหรับการตั้งชื่อนั้นผ่านไป 4-5 วันของการเปิดรับ มีผู้ส่งชื่อเข้ามาเป็นหมื่นๆ รายแล้ว
ยิ่งจำนวนวันมากขึ้น รายชื่อที่แตกต่างยิ่งเพิ่มมากขึ้น น่าจะสร้างความหนักใจให้คณะกรรมการขององค์การสวนสัตว์อยู่พอสมควร อย่างไรก็ ตามยืนยันว่าจะปิดรับตามกำหนดเดิมของรอบแรกในวันที่ 12 มิ.ย. นี้ เพื่อที่จะรวบรวมคัดสรรให้เหลือ 4 ชื่อสุดท้าย และตัดสินให้เหลือเพียงชื่อเดียวได้ทันในวันที่ 12 ส.ค.นี้
นายประเสริฐศักดิ์ กล่าวว่า หลักเกณฑ์ที่อยากฝากเป็นพิเศษไปยังผู้ที่จะตั้งชื่อเข้ามานั้นหากจะให้ดี ควรตั้งชื่อและส่งแนบคำอธิบายของความหมายมาพร้อมกัน
และหากจะให้ดีชื่อที่ส่งมานั้นควรจะมีความหมายที่สอดคล้องทั้งไทยและจีนในชื่อเดียวกัน หรือน่าจะมีความพ้องเสียงเรียกทั้งไทยจีน จะทำให้สะดุดตากรรมการมากขึ้น "ขอประชาสัมพันธ์ไปยังผู้ที่จะส่งชื่อเข้ามาร่วมประกวดตอนนี้ คือในการส่งไปรษณียบัตรเพื่อร่วมตั้งชื่อในรอบ 4 ชื่อสุดท้ายเพื่อชิงเงินล้านนั้น อย่าเพิ่งซื้อไปรษณียบัตรไปกักตุนไว้ เพราะในรอบ 4 ชื่อสุดท้ายผู้ร่วมตั้งชื่อจะต้องใช้ไปรษณียบัตรเฉพาะที่มีการออกแบบเฉพาะมีรูปแพนด้ามาใช้ร่วมการประกวด ซึ่งขณะนี้ออกแบบใกล้แล้วเสร็จ คาดว่าจะทำออกมามีหลายรูปแบบและสามารถสะสมได้เป็นคอลเล็กชั่น โดยจะนำรายได้ส่วนหนึ่งจากการจำหน่ายสมทบทุนเข้ากองทุนแพนด้า" นายประเสริฐศักดิ์กล่าว
ผู้ช่วยผอ.สวนสัตว์เชียงใหม่ กล่าวว่า สำหรับการคัดแยกรายชื่อที่มีผู้ส่งเข้ามาจากทั่วสารทิศนั้น เช่นชื่อ เอื้องผึ้ง, ล้านนา, คำหล้า, ชิงชิง, สายไหม, ฮองเฮา, ปิงปิง, ฟ้าใส, ฮุ่ยฮุ่ย, เฉินตู, ช่วงฮุ่ย, เอื้องเหนือ, เอื้องคำ, แว่นแก้ว, พิมพา, จอมขวัญ และอื่นๆ จำนวนมาก