สลด ช้างป่าเขาชะเมา ระยอง ออกจากป่าในเขตอุทยานฯ ลงมาหากินในหมู่บ้าน ขณะดึงเอายอดไผ่ลงมากิน ไปเกี่ยวเอาสายไฟฟ้าขาด แล้วพาดมาถูกงวง กระแสไฟชอร์ตจนงวงไหม้ตายอนาถ เป็นช้างป่าเพศผู้ อายุ 14 ปี น้ำหนักตันครึ่ง สูง 2.40 เมตร ชาวบ้านเผยเป็นช้างไม่ดุร้าย มีอยู่ 10 ตัว ไม่เคยทำร้ายคน มักออกจากป่ามาหากิน ทั้งคนกับช้างอยู่ร่วมกันด้วยดี ทางเจ้าหน้าที่อุทยานฯ นิมนต์พระมาทำพิธีสวด ก่อนขุดหลุมฝังซาก เป็นที่เศร้าสลดและน่าสงสาร
เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 6 มิ.ย. นายเสริมพันธ์ สาริมาน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาชะเมา-เขาวง อ.เขาชะเมา จ.ระยอง รับแจ้งจากชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในเขตหน่วยพิทักษ์ป่าคลองพลู หมู่ 1 ต.ห้วยทับมอญ อ.เขาชะเมา ว่าพบช้างป่าถูกไฟฟ้าชอร์ตตาย 1 ตัว ที่หน้าบ้านเลขที่ 38/4 หมู่ 1 ต.ห้วยทับมอญ หลังรับแจ้งจึงนำกำลังเจ้าหน้าที่อุทยานฯ รุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุพบต้นไผ่ถูกหักลงมา พบซากช้างป่าเพศผู้ มีบาดแผลไหม้ที่บริเวณงวงเป็นรอยใหญ่ และมีเลือดติดที่สายไฟฟ้าที่ขาดห้อยลงมา ส่วนลำตัวไม่มีบาดแผล
จากการสอบถามนายอรุณ ขอมีกลาง อายุ 36 ปี ผู้พบช้าง กล่าวว่า ได้ยินเสียงช้างร้องดังขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 03.00 น. และไฟฟ้าก็ดับลง จึงจุดตะเกียงออกมาดู พบช้างยืนอยู่ห่างจากที่พบซากช้างไปประมาณ 200 เมตร เมื่อส่องไฟก็พบช้างวิ่งหนีไปบนเขา จึงไม่กล้าออกไปดู เพราะกลัวจะเป็นอันตราย เนื่องจากช้างอยู่ในอาการตื่นตระหนก ต่างจากทุกครั้งที่พบ ช้างป่าฝูงนี้มีทั้งหมด 10 ตัว อาศัยอยู่ในเขตอุทยานฯ จะไม่ดุร้าย ไม่เคยทำร้ายชาวบ้านเลย
นายอรุณ กล่าวว่า ช้างป่าฝูงนี้เคยลงมากินพืชผลของชาวบ้าน แต่เมื่อมีเสียงดังก็ไม่กล้าลงมา ก็ไม่ได้ทำความเสียหายให้มากนัก ชาวบ้านกับช้างจึงอยู่ด้วยกันตลอดมา จนกระทั่งในช่วงเช้าออกมาดูก็ต้องตกใจกับภาพช้างนอนแน่นิ่งอยู่กลางถนนหน้าบ้าน และเห็นสายไฟฟ้าห้อยมาติดที่งวงช้าง พร้อมทั้งกอไผ่ที่หักโค่นลงมา จึงรู้ว่าถูกไฟชอร์ตจนตาย และจากการตรวจสอบโดยรอบ พบรอยเท้าของช้างอีก 2 ตัวที่เดินเข้าไปในป่าข้างบ้าน จึงแจ้งเจ้าหน้าที่อุทยานฯ มาตรวจสอบ
ต่อมานายวีระ ศิริผล ปศุสัตว์ อ.เขาชะเมา นำเจ้าหน้าที่เดินทางมาตรวจสอบซากช้าง โดยพบว่าตายเพราะถูกไฟฟ้าชอร์ตเข้าที่งวง และไม่พบบาดแผลอื่น ช้างป่าตัวนี้เป็นเพศผู้ น้ำหนักประมาณ 1,500 กิโลกรัม สูง 2.40 เมตร คาดว่าน่าจะมีอายุประมาณ 14 ปี ตายมาแล้วประมาณ 3 ชั่วโมง
ด้าน นายเสริมพันธ์ สาริมาน หัวหน้าอุทยานฯ กล่าวว่า ช้างป่าตัวนี้อาศัยอยู่ในป่าภายในอุทยานฯ ไม่ค่อยดุร้ายและไม่เคยทำร้ายชาวบ้าน สาเหตุที่ตายคาดว่าคงดึงกินกิ่งไผ่ที่ใกล้เสาไฟฟ้า ที่มีกระแสไฟฟ้า 220 โวลต์ กระทั่งกิ่งไผ่หักลงมาจนทำให้สายไฟฟ้าขาด พาดมาถูกที่งวง อีกทั้งช้างยืนในแอ่งน้ำ ทำให้ไฟฟ้าชอร์ตเข้าเต็มที่จนตาย ส่วนช้างป่าอีก 2 ตัว เมื่อเห็นเพื่อนล้มลงก็คงตกใจและรีบวิ่งหนีไป
ต่อมาเวลา 11.00 น. เจ้าหน้าที่อุทยานฯ นำรถแบ๊กโฮมาขุดหลุมขนาดกว้าง 4 เมตร ยาว 5 เมตร และลึก 5 เมตร ก่อนจะนิมนต์พระสงฆ์ 12 รูป มาสวดทำพิธีทางศาสนา และมีชาวบ้านนำดอกไม้ กล้วย และอ้อย มาวางไว้อาลัย ก่อนจะฝังซากช้างเคราะห์ร้าย โดยนำโซ่มาคล้องลำตัว และใช้รถ แบ๊กโฮดึงยกร่างลงหลุมฝัง เป็นที่น่าเวทนาและน่าสงสารแก่เจ้าหน้าที่อุทยานฯ และชาวบ้านที่มาร่วมพิธี
สำหรับความคืบหน้าในการรักษาช้างพังกำไล ที่ประสบอุบัติเหตุรถคว่ำและขาหัก และขณะนี้รักษาอยู่ที่สถาบันวิจัยและบริการสุขภาพช้างแห่งชาติ หรือร.พ.ช้าง จ.สุรินทร์ นั้น ทีมสัตวแพทย์เข้าเฝือกใหม่ให้ช้างพังกำไล แล้วยกช้างทำความสะอาดแผลข้างซ้าย สามารถกินอาหารและน้ำได้ โดยให้ครั้งละน้อยๆ ในแต่ละมื้อ อีกทั้งน้ำที่ให้กินยังเสริมด้วยเกลือแร่ และน้ำตาลกลูโคส เพื่อทดแทนน้ำที่สูญเสียไป และเพิ่มพลังงานให้แก่ช้าง