เมื่อเร็ว ๆ นี้ ถือเป็นช่วงเวลาแห่งการครบรอบ 1 ปีของการจากไปของหญิงสหรัฐอาภัพผู้มีร่างกายผิดปกติ
แต่สามารถยืนหยัดต่อสู้กับโรคร้ายของเธออย่างน่าชื่นชม มีกำลังที่เข้มแข็งชนิดต้องเรียกว่าเป็นหญิงหัวใจเหล็กได้อย่างเต็มปาก ไม่ได้ย่อท้อกับชะตากรรมที่ต้องป่วยเป็นโรคร้ายที่น้อยคนที่เผชิญ จนเมื่อพูดถึง"ผู้ป่วยหัวใจแกร่ง"เมื่อใด ก็ต้องมีเธอติดทำเนียบระดับต้น ๆ และชาวโลกต้องนึกถึงเธอทุกครั้งไป
"ไดแอน โอเดลล์"คือชื่อของผู้หญิงหัวใจเหล็กที่เรากล่าวถึง เธอเพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อวันที่ 28 พ.ค.2008
ภายหลังป่วยเป็นโรคโปลิโอที่ไขสันหลัง มาตั้งแต่อายุ 3 ขวบ ต้องใช้ชีวิตอยู่กับเครื่องบำบัดอาการที่เรียกว่า"Iron lung"เป็นเครื่องจักรที่ช่วยให้ผู้ป่วยที่สูญเสียการควบคุมของกล้ามเนื้อสามารถหายใจได้ แน่นอนที่สุด สภาพชีวิตของเธอถือว่าเป็นหนึ่งในผู้ป่วยที่เคราะห์ร้ายที่สุดของโรค ที่เผชิญอาการป่วยด้วยโรคไม่เหมือนคนอื่น โดยในอเมริกาประเมินว่า มีผู้ป่วยต้องใช้เครื่องช่วยดังกล่าวเพียง 30 ราย
แต่สำหรับไดแอน โอเดลล์ อาจถือได้ว่าเธอโชคร้ายกว่าคนป่วยทำนองนี้ เพราะเธอเป็นผู้ป่วยจำนวนไม่กี่คนที่ต้องนอนในเครื่องบำบัดอาการดังกล่าวตลอด 24 ชม.
แม้จะถูกสวรรค์ลิขิตให้ต้องเป็นผู้ป่วยโรคร้าย แต่ชีวิตของไดแอนไม่เคยยอมแพ้ กลับเป็นนักสู้ตัวจริงที่ใคร ๆ ก็ต้องทึ่ง ชีวิตในวัยเด็กของเธอที่ต้องป่วยและรับการบำบัดด้วยเครื่องจักรช่วยชีวิตดังกล่าว ไม่เคยท้อแท้ต่อปมด้อยของการอยู่ในสภาพเป็นผู้ป่วยง่อยเปลี้ย แต่เธอสามารถผลักดันตัวเอง สร้างแรงบันดาลใจให้ชีวิตจนบรรลุเป้าหมายต่าง ๆ ได้ไม่ต่างจากคนธรรมดา โดยเธอสามารถสำเร็จการศึกษา ผ่านการทำการบ้านที่เพื่อนร่วมชั้น หรือครูอาจารย์ นำจากโรงเรียนมาให้เธอที่บ้าน ซึ่งเธอจะตอบคำถามผ่านการใช้เครื่อง"Dictophone"หรือเครื่องบันทึกเสียงพิเศษ ให้เพื่อนหรือครอบครัว บรรยาเพื่อนำไปเขียนเป็นการบ้านอีกต่อหนึ่ง นอกจากนี้ ด้วยจิตใจทีทรหด บางครั้งเธอยังทำการบ้านด้วยนิ้วเท้าด้วย
ไดแอน โอเดลล์ยอดผู้พิการโลก หัวใจไม่เคยแพ้
กระทั่งเธอสามารถสร้างฝันได้เหมือนคนทั่วไป โดยเมื่อปี 1965 เธอสำเร็จการศึกษาระดับไฮสคูล และต่อมาได้ศึกษาระดับหาวิทยาลัยที่"ฟรีด ฮาร์เดมาน"
แม้ว่าเธอจะไม่สามารถคว้าปริญญา แต่จากความพยายามของเธอเหมือนคนอื่น ก็"ความพยายามที่จะเรียน"ของเธอก็ชนะใจใคร ๆ หลายคน นั่นทำให้เธอได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตในปี 1987 และในปี 1992 เธอได้รับบันทึกชื่ออยู่ในหนังสืออย่าง"นิตยสาร Woman World"และยังได้รับรางวัลทรงเกียรติจาก"The Jackson Rotary Club"ที่ถือเป็นหนึ่งในรางวัลทรงเกียรติที่สุดระดับแนวหน้าของสหรัฐด้วย
ดังที่กล่าวไว้ "ไดแอน โอเดลล์"ไม่เคยก้มหน้าให้กับชะตากรรมอาภัพของตัวเอง ในปี 1991 เธอเริ่มเขียนหนังสือเด็ก
โดยใช้อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ทำงานด้วยเสียง ซึ่งเธอต้องใช้เวลานานกว่า 10 ปี กว่างานของเธอจะสำเร็จ"คลอด"เป็นหนังสือออกมา โดยถูกตีพิมพ์เมื่อปี 2001 เป็นจำนวน 1 แสนเล่ม ชื่อ"Blinky less Light"หรือ"แสงกระพริบน้อยๆ"(ซึ่งขายได้ราว 1 แสนเล่ม) ไม่นานหลังจากนี้ เธอได้พบกับนายอัล กอร์ อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐ ในงานเลี้ยงคริสต์มาส เพื่อเป็นเกียรติแก่เธอ
นอกจากนี้ หนังสือดังกล่าวกลายเป็นแรงบันดาลใจสำหรับดาราสาวอย่าง"เจน ซีมัวร์"ที่กล่าวถึงไว้ในหนังสือของเจน
ก่อนที่จะเธอได้พบกับดาราสาวรายนี้เมื่อปี 2003 และซีมัวร์ได้แนะนำให้เธอรู้จักกับคริสโตเฟอร์ รีฟ ดาราอเมริกันผู้ป่วยเป็นโรคเดินไม่ได้ ในช่วงเวลาดังกล่าว ถือว่าชีวิตของผู้ป่วยหญิงหัวใจเหล็กรายนี้เต็มไปด้วยเกียรติและการชื่นชม ในการให้สัมภาษณ์ครั้งหนึ่ง เธอบอกว่า เธอมีชีวิตที่ดีมาก เปี่ยมด้วยความรัก ครอบครัว และศรัทธา นอกจากนี้ ยังบอกว่า สาเหตุที่เธอเขียนหนังสือเด็กขึ้นมา ก็เพื่อแสดงให้เด็ก ๆ หรือวัยรุ่น โดยเฉพาะคนที่ป่วยเป็นโรคพิการ ได้เห็นว่า พวกเขาไม่ควรยอมแพ้ต่อโชคชะตา
แต่หลังที่เธอมีอาการหนักขึ้น ต้องเข้ารับการบำบัดด้วยเครื่อง"Iron lung"ตลอด 24 ชม.ต่อวัน ว่ากันว่า ค่าใช้จ่ายรักษาอาการเธอไม่ใช่เงินจำนวนน้อย หรือคิดเป็นจำนวน 60,000 ดอลลาร์
แต่ความเป็นหญิงหัวใจสู้ของเธอ ก็ทำให้มีการระดมทุนมูลนิธิช่วยเหลือเธอโดยตรง จำนวนนี้ยังรวมทั้งบุคคลดังบางคนด้วย อย่างไรก็ตาม หรือในช่วงสองปีก่อน หรือในวันที่ 17 ก.พ.ปี 2007 ซึ่งเป็นวันครบรอบวันเกิดอายุ 60 ปี ของเธอ เธอได้รับการฉลองวันเกิดโดยมีแขกกว่า 200 คน พร้อมเค้กอวยพรสูง 9 ฟุต เธอได้รับจดหมายอวยพรจากผู้คนทั่วโลก นอกจากนี้ ทีมถ่ายหนังเยอรมันยังเดินทางมาหาเธอ เพื่อนำชีวิตของเธอไปสร้างเป็นภาพยนตร์ด้วย
แต่หลังจากนั้น วันที่ 28 เม.ย.2008 กลายเป็นวันสิ้นสุดอายุขัยของหญิงป่วยหัวใจเหล็ก เธอสิ้นชีวิตจากระบบไฟฟ้าเครื่องช่วยชีวิตของเธอขัดข้อง โดยไฟฟ้าตัดระบบการทำงานในการหายใจของเธอ ทำให้เธอเสียชีวิตลง แม้ว่าญาติจะพยายามช่วยเหลือเธอก็ตาม