ตร.-ม.ราม มอบทุนให้ รวบแล้ว! หนุ่มปืนเก๊ ที่แท้พ่อค้า
มอบรางวัลเชิดชูพนักงานสาวสู้โจรปล้นร้าน108 ช็อปอธิการ บดี ม.รามฯ -จัดพิธีมอบทุนการศึกษา 1 หมื่นให้พนักงานสาวฮีโร่ซึ่งเป็นนศ.รามฯด้วย ระบุเป็นตัวอย่างที่ดี มีไหวพริบปฏิภาณ มีจิตใจกล้าหาญ ตำรวจหัวหมากมอบประกาศเกียรติคุณกับเงิน 5 พันบาท สาวฮีโร่เปิดใจเห็นเป็นปืนเก๊เลยกัดฟันสู้ ตร.คุมตัวโจรแสบเป็นพ่อค้าหอยแครงลวกทำแผนนาทีบุกปล้น หลังตามจับได้ที่สุโขทัย สารภาพแฟนเก่าเคยทำงาน 108 ช็อปเลยรู้ว่าช่วงดึกจะมีพนง.อยู่คนเดียว เคยบุกปล้นมาแล้วครั้งหนึ่ง พอลงมืออีกครั้งกลับโดนพนง.สาวคว้ามีดสู้จนต้องเผ่น
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 3 มิ.ย. ที่ห้องประชุมภายในสำนักงานอธิการบดี มหาวิทยา ลัยรามคำแหง รศ.คิม ไชยแสนสุข อธิการบดี มหาวิทยาลัยรามคำแหง และพล.ต.ต.วิมล เปาอินทร์ ผบก.น.4 ร่วมเป็นประธานมอบรางวัล เป็นทุนการศึกษาและประกาศเกียรติคุณ ให้แก่น.ส.อัญชลี แสงพิทยา อายุ 27 ปี พนักงานประจำร้าน 108 ช็อป สาขาหมู่บ้านสวนสน ซอยรามคำแหง 60 ที่ใช้มีดดาบต่อสู้กับนายสิทธิพล พุ่มพวง อายุ 24 ปี พ่อค้าขายหอยแครงลวก อยู่บ้านเลขที่ 74/1 ม.8 ต.ท่าฉนวน อ.กงไกรลาศ จ.สุโขทัย ซึ่งเป็นคนร้ายที่เข้ามาก่อเหตุใช้อาวุธปืนปลอมจี้ชิงทรัพย์จนต้องหลบหนีไป เหตุเกิดเมื่อวันที่ 28 พ.ค.ที่ผ่านมา จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.หัวหมาก สามารถติดตามจับกุมตัวนายสิทธิพลได้ที่บ้านใน จ.สุโขทัย เมื่อวันที่ 2 มิ.ย.ที่ผ่านมา
รศ.คิม กล่าวว่า เนื่องจากน.ส.อัญชลี เป็นนักศึกษาอยู่ที่คณะมนุษยศาสตร์ ม.รามคำแหง ตนจึงรู้สึกภาคภูมิใจในตัวน.ส.อัญชลีมากที่เป็นตัวอย่างที่ดี ไม่งอมืองอเท้า นอกจากจะเรียนหนังสือแล้วก็ยังหางานทำควบคู่ไปด้วย เป็นสัญลักษณ์ของผู้ที่มีสติ มีไหวพริบปฏิภาณ ไม่ตื่นตกใจกับสิ่งที่เกิดและมีความรู้สึกรักหวงแหนในองค์กรที่ทำงานอยู่ นอกจากนี้ยังเป็นคนที่มีจิตใจกล้าหาญ ซึ่งเป็นสิ่งที่สมควรได้รับการยกย่อง ทางมหาวิทยาลัยจึงได้มอบทุนการศึกษาจำนวน 10,000 บาท ให้แก่น.ส. อัญชลีเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ ซึ่งนอกจากทางมหาวิทยาลัยแล้ว ทางพล.ต.ต.วิมล เปาอินทร์ ผบก.น.4 และสน.หัวหมากจะได้มอบประกาศเกียรติคุณและเงินรางวัลจำนวน 5,000 บาท ให้อีกด้วย
น.ส.อัญชลีกล่าวว่า ในวันที่เกิดเหตุตนก็รู้สึกกลัวเหมือนกัน แต่คนร้ายเคยเข้ามาก่อเหตุครั้งหนึ่งแล้ว หากคนร้ายได้เงินไปก็จะต้องกลับมาก่อเหตุอีก และตนดูจนแน่ใจแล้วว่าปืนที่คนร้ายใช้เป็นของปลอม จึงได้ต่อสู้กับคนร้าย หลังจากทราบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวคนร้ายได้แล้ว ตนก็รู้สึกปลอดภัยขึ้น และต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่ติดตามจับกุมตัวได้อย่างรวดเร็ว
ต่อมาเวลา 10.30 น. พล.ต.ต.วิมล เปาอินทร์ พร้อมด้วยพ.ต.อ.พชร บุญสิทธิ์ รอง ผบก.น.4 พ.ต.อ.วัฒนา ยี่จีน ผกก.สน.หัวหมาก พ.ต.ท.รังสรรค์ ยิ่งยงดำรงสกุล รอง ผกก.ป. สน.หัวหมาก พ.ต.ท.พิพัฒน์ เต็งถาวร สว.สส. สน.หัวหมาก พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมนายสิทธิพลที่สน.หัวหมาก พร้อมของกลางหมวกกาปิเยาะสีเขียว 1 ใบ ลูกกระสุนปืนแบบเหล็กจำนวน 2 ถุง แบบพลาสติกสีแดงและสีขาวจำนวน 2 ถุง กระเป๋าสะพายสีเขียวขี้ม้า 1 ใบ เศษขี้เถ้าคล้ายหมวกแก๊ปถูกไฟไหม้ เศษปืนพลาสติก และเศษขี้เถ้าคล้ายเสื้อถูกไฟไหม้ โดยจับกุมตัวได้ที่บ้านเกิดของผู้ต้องหา
พล.ต.ต.วิมลกล่าวว่า หลังเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ได้เบาะแสจากพลเมืองดีที่เห็นข่าวนี้ สงสัยว่าคนร้ายน่าจะเป็นนายสิทธิพล ซึ่งเป็นพ่อค้าหอยแครงลวกตามตลาดนัด โดยมีภูมิลำเนาอยู่ที่จ.สุโขทัย จึงได้ตรวจสอบหมายเลขทะเบียนรถของคนร้ายที่พลเมืองดีจำได้กับหมวดจังหวัดจนสามารถนำภาพถ่ายบัตรประชา ชนของนายสิทธิพล มาให้ผู้เสียหายชี้ยืนยันก่อนจะรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับ เลขที่ 1517/2552 ลงวันที่ 2 มิ.ย. จากศาลอาญา พร้อมกับติดตามไปจับกุมตัวได้ที่บ้านเกิดในจังหวัดสุโขทัย
นายสิทธิพล กล่าวว่า สาเหตุที่ก่อเหตุครั้งนี้เพราะต้องการเงินไปซื้อยาบ้ามาเสพและเที่ยวเตร่ โดยเคยก่อเหตุที่ร้านดังกล่าวมาครั้งหนึ่งแล้ว ทั้งนี้ที่เลือกก่อเหตุที่ร้าน 108 ช็อป เพราะเคยมีแฟนเป็นพนักงานในร้าน เลยรู้ว่าจะมีพนักงานอยู่เฝ้าร้านแค่ผลัดละคนเท่านั้น และส่วนใหญ่ก็เป็นผู้หญิงด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่าตอนที่ก่อเหตุหากมีปืนจริง จะยิงน.ส.อัญชลีหรือเปล่า นายสิทธิพลกล่าวไม่สะทกสะท้านว่า คงจะยิงจริง เพราะน.ส.อัญชลีต่อสู้ ขัดขืน จากนั้นนายสิทธิพลได้กล่าวขอโทษน.ส.อัญชลี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังแถลงข่าว เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่ที่เกิดเหตุ โดยมีประชาชนมามุงดูเป็นจำนวนมาก โดยการทำแผนครั้งนี้เริ่มจากที่ผู้ต้องหาเดินทาเข้ามาในร้านและทำทีซื้อน้ำอัดลม ก่อนจะชักอาวุธปืนปลอมออกมาขู่พนักงานเพื่อจะชิงทรัพย์ แต่น.ส.อัญชลีได้หยิบอาวุธมีดขึ้นมาฟันใส่คนร้ายเพื่อป้องกันตัว จากนั้นผู้ต้องหาได้ใช้ร่มป้องกันตัวก่อนจะหยิบเอากล่องรับบริจาคเงินวิ่งออกจากร้านไปขึ้นรถกระบะหลบหนีไป ใช้เวลาทำแผนราว 30 นาที จึงนำตัวกลับมาควบคุมต่อที่สน.หัวหมาก