วอนช่วยเด็ก12ขวบป่วยโรคประหลาด

เมื่อวันที่ 2 มิ.ย. นายสวงษ์ ใหม่ตัน ผอ.โรงเรียนบ้านป่าตาล อ.เถิน จ.ลำปาง เปิดเผยว่า ด.ช.กฤษกรณ์ คำชัยวงศ์ หรือ “น้องจ๊าบ” อายุ 12 ขวบ

นร.ชั้น ป.5 อยู่บ้านเลขที่ 1 หมู่ 2 บ้านป่าตาล ต.เถินบุรี อ.เถิน ประสบเคราะห์กรรมป่วยเป็นโรคประหลาด คือเป็นโรคประสาทถดถอย จากเคยเรียนเก่ง สอบได้เกรด 4 ทุกวิชา เฉลียวฉลาดเกินวัย ต่อมากลับล้มป่วยพัฒนาการทางสมองถดถอยลงกลับไปเหมือนเด็กทารก เริ่มจากอาการตาพร่ามัวมองไม่เห็น มักเดินชนผนังห้องบ่อย ๆ จนครู และเพื่อน ๆ ต้องช่วยกันดูแล พูดจาอ้อแอ้ไม่เป็นภาษา และเขียนหนังสือไม่ได้ พ่อแม่พาตระเวนรักษามาหลาย รพ. แต่ไม่หายขาด สุดท้ายต้องพากลับมารักษาตัวที่บ้านตามยถากรรม จนอาการทรุดหนักถึงขั้นเดินไม่ได้
 
ต่อมาผู้สื่อข่าวพร้อมคณะครู เดินทางไปเยี่ยมดูอาการ “น้องจ๊าบ” ที่บ้านพักชั้นเดียวสภาพเก่าทรุดโทรม พบน้องจ๊าบนอนสงบนิ่ง ๆ อยู่บนแคร่ไม้


สภาพเนื้อตัวผอมเหลือเพียงหนังหุ้มกระดูก ดวงตาเหม่อลอย และต้องให้อาหารทางสายยาง มีนายบุญช่วย และนางนิภาวรรณ์ คำชัยวงศ์ อายุ 46 ปี พ่อแม่คอยเฝ้าดูแลอย่างใกล้ชิด นายบุญช่วยเล่าให้ฟังอย่างเศร้าสร้อยว่า หลังแต่งงานอยู่กินกับภรรยา ก็มีลูกคนแรกเป็นผู้ชาย ชื่อ ด.ช.ขจรศักดิ์ คำชัยวงศ์ หรือ “น้องเมท” หลังคลอดแข็งแรงสมบูรณ์มีพัฒนาการเหมือนเด็กทั่วไป จนอายุ 4 ขวบ ก็ล้มป่วยตามองไม่เห็น ทั้งที่ก่อนหน้านี้มองเห็นปกติ พาไปหาหมอที่ รพ.ในพื้นที่ สุดท้ายถูกส่งเข้า รพ.ในกรุงเทพฯ แพทย์ไม่บอกว่าเป็นโรคอะไร บอกแค่รักษายากเพราะเป็นโรคที่มีโอกาสป่วยแค่ 1 ในล้านคนเท่านั้น แต่ก็ช่วยรักษาสุดความสามารถ สุดท้ายตนรับลูกกลับมารักษาตัวที่บ้านและเสียชีวิตลงในอีก 2 ปีต่อมา
 
นายบุญช่วยเล่าต่อว่า ตนกับภรรยาอยากมีลูกคนใหม่เพื่อครอบครัวสมบูรณ์ จึงไปปรึกษาแพทย์วางแผนมีบุตรที่ รพ.เถิน หมอตรวจร่างกายและตรวจเลือดภรรยาบอกว่าปกติดี

จนภรรยาตั้งท้องและคลอดน้องจ๊าบออกมา ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงดี เลี้ยงง่ายและก็เลี้ยงดูมาจนเติบใหญ่ สุขภาพแข็งแรงอ้วนท้วนมาตลอด แถมฉลาดเรียนหนังสือเก่งสอบได้เกรด 4 ทุกวิชา เรียนจบชั้น ป.4 ต้องย้ายจากโรงเรียนเดิม มาเรียนที่โรงเรียนบ้านป่าตาล ก็เริ่มป่วยเป็นโรคแบบเดียวกับลูกชายคนแรก โดยขณะเรียนอยู่ชั้นป.4 ปลายเทอม ตาเริ่มพร่ามัวมองไม่ค่อยเห็น พอปิดเทอมก็เข้าร่วมโครงการบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อน เป็นการอุปสมบทหมู่เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา และในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่วัดล้อมแรด อ.เถิน บวชได้ 7 วัน ตาพร่ามัวหนักขึ้น 
“จนย้ายมาเรียนชั้น ป.5 เพราะอยู่ใกล้บ้าน อาการหนักขึ้น เดินชนฝาผนัง มองตัวหนังสือไม่เห็น คล้ายตาบอดสนิท พาไปหาหมอที่ รพ.เถิน และถูกส่งไปที่ รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ ทีมแพทย์ด้านสมองเอกซเรย์ดูบอกว่าเป็นโรคประสาทถดถอยเหมือนลูกคนแรก คือสมองส่วนกลางหดตัว มีรอยแยกห่างจากกัน การเจริญเติบโตของสมองมีพัฒนาการไม่ต่อเนื่อง เป็นการถดถอยลง ส่งผลให้ระบบประสาทส่วนกลางทำงานไม่เป็นปกติ เริ่มจากมองไม่เห็นจนมีอาการเกร็งของระบบกล้ามเนื้อ เป็นโรคที่พบได้ยากมากในไทย และมีโอกาสเป็นแค่ 1 ในล้านคน แต่เคยพบในญี่ปุ่น การรักษามีวิธีเดียวคือผ่าตัดปลูกถ่ายไขสันหลังใหม่ และโอกาสรอดมีแค่ 50%” นายบุญช่วยกล่าว และว่าสุดท้ายพาน้องจ๊าบมารักษาตัวที่บ้าน และต้องนอนซมขยับเขยื้อนตัวไม่ได้ ตนกับภรรยาต้องหันมาทำงานรับจ้างแถวบ้าน เพื่อเฝ้าดูแลลูกมาปีกว่า เพราะฐานะยากจน จึงอยากวิงวอนผู้ใจบุญยื่นมือมาช่วยเหลือลูกชายให้พ้นจากทุกข์ทรมานด้วย.


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์