ราชินีทรงรับ เหยื่อปาหิน รักษารพ.จุฬา

จากกรณีนายสุรชัย สวัสดี ขับรถเก๋งนิสสันพาครอบครัวกลับจากเยี่ยมลูกที่ จ.อ่างทอง มุ่งหน้ากลับบ้านที่ จ.นครปฐม

ถึงถนนสายโพธิ์พระยา-อ่างทอง ต.สนามชัย อ.เมืองสุพรรณบุรี ถูกวัยรุ่นมือบอน 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์ย้อนศรสวนทางมาปาก้อนหินใส่กระจกหน้ารถถูกหน้านายสุรชัยบาดเจ็บสาหัส ทำให้รถเสียหลักพุ่งชนต้นไม้ข้างทางโครมสนั่น ทำให้นางภาพิมล เอี่ยมยัง แม่ยาย ตายคาซากรถ ส่วนคนบนรถที่เหลืออีก 5 ชีวิต ได้รับบาดเจ็บยกคันรถ ขณะที่ พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผช.ผบ.ตร. ได้นำกำลังลงพื้นที่ลุยล่าวัยรุ่นไร้สำนึกชั่วดีรายนี้แทบพลิกแผ่นดินนั้น

ความคืบหน้าเวลา 04.00 น. วันที่ 31 พ.ค. หลังจาก พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผช.ผบ.ตร. รื้อคดีไล่ล่าแก๊งวัยรุ่นมือบอน

พร้อมระดมกำลังจากกองปราบปราม ชุดสืบสวนภาค 7 ชุดสืบสวน บก.ภ.จ.สุพรรณบุรี และ สภ.เมืองสุพรรณบุรี กว่า 50 นาย แบ่งเป็น 6 ชุด ลงพื้นที่หาพยานหลักฐานและเบาะแสคนร้ายตลอดทั้งคืน ได้กลับมารายงานผลการดำเนินงาน จากนั้นในตอนสายวันเดียวกัน พล.ต.ท.อัศวิน พร้อมด้วย พล.ต.ต.ปราโมทย์ ไทรหอมหวล ผบก.ภ.จ.สุพรรณบุรี พ.ต.อ.วีระ บุตรโพธิ์ รอง ผบก.ภ.จ.สุพรรณบุรี พ.ต.อ.เกรียงไกร วุฒิพานิช ผกก. สภ.เมืองสุพรรณบุรี และชุดไล่ล่าทั้งหมด ได้ร่วมประชุมสรุปผลการดำเนินการและวางแผนล่าตัวคนร้ายที่ห้องประชุม สภ.เมืองสุพรรณบุรี

จากนั้น พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผช.ผบ.ตร. เปิดเผยว่า คดีคืบหน้าตรงเป้าหมายพอสมควร

โดยหลังจากรื้อคดีและระบบการทำงานใหม่ทั้งหมด ตนได้นำเอาทีมกองพิสูจน์หลักฐานและทีมชุดไล่ล่าออกไปจำลองภาพเหตุการณ์ในช่วงเวลาเกิดเหตุ ว่าจะสามารถมองเห็นอะไรได้บ้างเพื่อเป็นแนวทางสำคัญในการหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีได้ไม่ผิดตัว โดยทีมชุดไล่ล่าออกทำงานกัน 24 ชั่วโมงเพื่อกดดันคนร้ายเต็มพื้นที่ ตอนนี้รอเพียงการรวบรวมพยานหลักฐานให้แน่นหนาเท่านั้น คนร้ายรายนี้จะต้องจับกุมตัวมาดำเนินคดีให้ได้ ไม่เช่นนั้นจะเป็นตัวอย่างให้วัยรุ่นกลุ่มอื่นๆเลียนแบบสร้างปัญหาและความสูญเสียให้กับสังคมต่อไปอีก เมื่อจับตัวได้ไม่ว่าจะเป็นลูกหลานใครจะต้องถูกดำเนินคดีขั้นเด็ดขาด ตนจะควบคุมคดีอย่างใกล้ชิดทุกขั้นตอน ขอให้ทุกฝ่ายสบายใจได้งานนี้ตำรวจทำงานเต็มที่ จะต้องได้ตัวและต้องเป็นตัวจริงด้วย


ด้าน พล.ต.ต.ปราโมทย์ ไทรหอมหวน ผบก.ภ.จ.สุพรรณบุรี กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้รับความร่วมมืออย่างดีจากชาวบ้านในพื้นที่ที่เอือมระอากับวัยรุ่นเหล่านี้ พยายามให้เบาะแสแต่ยังไม่ยอมมาเป็นพยาน

ทำให้ตำรวจต้องทำงานหนักในการรวบรวมพยาน จึงอยากขอให้ชาวบ้าน ออกมาเป็นพยานให้จะได้สามารถแก้ไขปัญหาระยะยาวได้ โดยตำรวจจะเก็บชื่อพยานไว้เป็นความลับ ทั้งนี้ พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ได้สั่งการให้ระดมกำลังทุกหน่วยตามหาพยานและประกบตัวผู้ต้องสงสัยทุกรายอย่างใกล้ชิด พร้อมกับการออกตรวจสอบกลุ่มวัยรุ่นจากกลุ่มที่ติดยา กลุ่มที่ติดเหล้า และกลุ่มเกเรด้วย

บ่ายวันเดียวกัน นพ.ชัชรินทร์ ปิ่นสุวรรณ ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลเจ้าพระยายมราชสุพรรณบุรี เผยถึงการเยียวยาเหยื่อปาหินว่า เมื่อวันที่ 30 พ.ค.ที่ผ่านมา

ทางโรงพยาบาลได้รับการประสานทางโทรศัพท์จากท่านผู้หญิงจรุงจิตต์ ทีขะระ รองราชเลขาธิการในพระองค์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ว่า สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทราบข่าวแล้วทรงเป็นห่วง ขอทราบอาการผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ครั้งนี้ทั้งหมด  ตนก็รายงานให้ทราบว่า ที่น่าเป็นห่วงก็คือ เด็กชายณัฐพล สวัสดี วัย 6 ขวบ ที่ยังต้องรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู โรงพยาบาลศุภมิตร นายสุรชัย สวัสดี มีบาดแผลดวงตาข้างซ้ายบวมช้ำ และมีแผลแตกที่ใต้เปลือกตาแต่ยังสามารถมองเห็นได้  ส่วนนางสุรารักษ์ เอี่ยมยัง มีบาดแผลกระดูกต้นแขนขวาแตก ยังต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิดต่อไปอีก สำหรับลูกของนายสุรชัยอีก 2 คน อาการปลอดภัยแล้ว

ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเจ้าพระยายมราชสุพรรณบุรีกล่าวต่อว่า หลังทราบรายละเอียดท่านผู้หญิงจรุงจิตต์ได้แจ้งให้ทางโรงพยาบาลส่งตัวผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ครั้งนี้ทั้งหมด

ไปรักษาตัวต่อที่ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โดยเป็นคนไข้ในพระบรมราชินูปถัมภ์ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ตนจึงได้ประสานงานส่งตัว เด็กชายณัฐพล ที่มีอาการน่าเป็นห่วงไปในทันทีเมื่อตอนบ่ายวันที่ 30 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยรถรับส่งผู้ป่วยจาก โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ มารับไป ขณะที่นายสุรชัยพร้อมภรรยาและลูกอีก 2 คน ตนได้จัดรถของ โรงพยาบาลเจ้าพระยายมราช ส่งตัวตามไปแล้วเมื่อเช้าวันเดียวกันนี้

เย็นวันเดียวกัน นพ.อดิศร ภัทราดูรย์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า

โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ได้รับตัวคนไข้ทั้ง 3 ราย  ได้ รับบาดเจ็บจากแก๊งปาหินจากโรงพยาบาลเจ้าพระยายมราชสุพรรณบุรี ไว้รักษาตัวในโรงพยาบาลจุฬาฯแล้ว ในฐานะ คนไข้ในพระบรมราชินูปถัมภ์ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระ บรมราชินีนาถ โดยในรายของ เด็กชายณัฐพล สวัสดี วัย 6 ขวบ บุตรชาย ที่มีอาการหนักที่สุดนั้น ได้รับรายงานจากแพทย์เจ้าของไข้ว่าน่าจะให้การรักษาได้ เพราะเท่าที่ประเมินเบื้องต้น แม้จะอาการหนัก แต่ก็น้อยกว่าที่คาดไว้ ส่วนอีก 2 ราย ในวันที่ 1 มิ.ย. ทางแพทย์จะได้ประชุมหารือถึงแนวทางในการรักษา และอาจจะมีการแถลงข่าวหลังจากที่ได้วางแนวทางการดูแลรักษาที่เป็นระบบแล้ว

เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์