พล.อ.เลิศรัตน์ มั่นใจขอยืด”แพนด้าน้อย”อยู่ไทยได้มากกว่า 2 ปี ระบุควรส่งคืนก่อน 4 ปี เพื่อปล่อยไปหาคู่ป้องกันขึ้นคาน แถมช่วยขยายจำนวนแพนด้าสายพันธุ์ดี ไม่ให้สูญพันธุ์ ด้านสวนสัตว์ตะลึงแพนด้าน้อย ผ่าน 5 วัน โตวัย หู-ตาดำเร็วกว่าปกติ
เมื่อเวลา 10.45 น. วันที่ 31 พ.ค. พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช ประธานกรรมาธิการวุฒิสภาการพลังงาน อดีตประธานกรรมการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทยฯ ที่เป็นผู้ร่วมทีมเจรจากับจีนให้มอบแพนด้าช่วงช่วง หลินฮุ่ยมายังไทยในครั้งแรก เดินทางมาตรวจเยี่ยมแพนด้าน้อยที่ส่วนจัดแสดงแพนด้าที่สวนสัตว์เชียงใหม่
โดยมีนายโสภณ ดำนุ้ย ผอ.องค์การสวนสัตว์ฯและนายณรงค์ศักดิ์ สุนทรวสุ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อีมิแนนท์แอร์(ประเทศไทย) จำกัด พร้อมทีมสัตว์แพทย์ผู้ดูแลแพนด้าพาเข้าไปตรวจเยี่ยมแพนด้าแม่ลูกภายในคอกเลี้ยง หลังการเข้าตรวจเยี่ยมแม่ลูกแพนด้า พล.อ.เลิศรัตน์ และคณะได้เปิดแถลงข่าวทั้งด้านสุขภาพและโครงการสืบเนื่องของแพนด้าต่อสื่อมวลชน
นายโสภณ กล่าวถึงสุขภาพของแพนด้าแม่ลูกหลังคลอดเป็นวันที่ 5 ว่า
หลินฮุ่ยกินอาหารได้ดีขึ้น โดยเฉพาะขนมปังไผ่และแอปเปิ้ล แต่ยังปฏิเสธไผ่และแครอท และตลอดคืนได้แสดงอาการปวดตามร่างกาย เจ้าหน้าที่ต้องช่วยนวดหลัง และขาให้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งหลินฮุ่ย ตอบรับด้วยการยื่นขาออกมาให้เจ้าหน้าที่นวด ส่วนแพนด้าน้อยนั้น ร้องส่งเสียงดังตลอดคืน
ส่วนความเปลี่ยนแปลงของแพนด้าน้อย ที่สังเกตเห็นคือ พัฒนาการที่เพิ่มขึ้น คือเริ่มปรากฏว่ามีขนสีดำที่บริเวณหูสองข้างเริ่มมีสีเทาขอบตาเริ่มดำจาง ๆ ซึ่งถือว่าแพนด้าน้อยของเราพัฒนาการได้เร็ว มีขนดำขึ้นตั้งแต่วันที่ 5 ซึ่งตามปกติจะขึ้นขนสีดำในวันที่ 7 และเจ้าหน้าที่ได้เปลี่ยนแพนด้าน้อยให้มาดูดนมที่เต้าด้านล่างของหลินฮุ่ยได้แล้ว
พล.อ.เลิศรัตน์ กล่าวว่า
รู้สึกดีใจที่ได้เห็นแพนด้าน้อยด้วยตัวเอง หลังจากรู้จักกับช่วงช่วงและหลินฮุ่ยเมื่อ 6 ปีที่แล้ว และได้มีโอกาสเดินทางไปจีนกับ ผอ.โสภณ ก่อนหน้าที่ช่วงช่วง และหลินฮุ่ย จะมาที่ไทยถึง 1 ปี โดยใช้เวลาเจรจานานถึง 2 ปีจึงได้แพนด้ามา
“การที่ประเทศจีนจะให้แพนด้ากับประเทศไหน นอกจากความสัมพันธ์ระดับรัฐมนตรีแล้ว ก็จะดูถึงบ้านที่แพนด้าจะมาอยู่ด้วย ว่าสถานที่นั้นจะสมฐานะหรือไม่ ” พล.อ.เลิศรัตน์ กล่าว
สำหรับคำถามที่คนสนใจมากคือ จะยื้อให้แพนด้าอยู่นานกว่าสัญญาได้หรือไม่นั้น ส่วนตัวคิดว่าการที่ประเทศไทยเลี้ยงดูแพนด้าคู่แรกอย่างสมเกียรติ ใส่ใจดูแลสุขภาพของเขาให้สมบูรณ์ ตลอดจนสามารถให้กำเนิดแพนด้าน้อยออกมาอย่างสมบูรณ์แข็งแรง ซึ่งแสดงถึงการเลี้ยงดูอย่างดีนั้น ตนคิดว่าการที่จีนจะต่อสัญญาให้อีก 10 ปีไม่ใช่เรื่องที่ยากนักเพราะเราดูแลดี
สำหรับแพนด้าน้อยที่กำเนิดในประเทศต่าง ๆนั้น ที่ต้องส่งกลับตามสัญญาที่ให้ไว้กับจีนคือเมื่อครบ 2 ปีนั้น มีเหตุผลที่เหมาะสมคือ ต้องให้แพนด้าน้อย ไปจับคู่ผสมพันธุ์กับแพนด้าที่มีอายุมากกว่า 6 เดือน- 1 ปี เพื่อให้ข้ามสายพันธุ์เป็นเหตุผลในการที่จะช่วยเพิ่มประชากรแพนด้า ที่มีคุณภาพ ซึ่งปัจจุบันทั่วโลกมีอยู่จำนวนน้อย เพราะหากปล่อยให้ผสมพันธ์กันในหมู่ญาติเดียวกัน ก็จะส่งผลต่อสุขภาพลูกที่เกิดใหม่ได้
พล.อ.เลิศรัตน์ กล่าวว่า
โดยความสัมพันธ์ส่วนตัวแล้ว จีนน่าจะยืดอายุแพนด้าน้อยให้อยู่กับเราได้มากว่า 2 ปีอยู่แล้ว แต่จะเป็น 3 หรือ4 ปีก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ความเป็นจริงแล้ว ถ้าลูกแพนด้าอยู่ที่ประเทศใดเกิน 3 ปี การที่จะไปสนิทสนมกับเจ้าบ่าวในอนาคตก็จะลำบาก เพราะอย่างกรณีของช่วงช่วง กับหลินฮุ่ยนั้น กว่าจะนำมาปล่อยเลี้ยงอยู่ด้วยกันจนเกิดความคุ้นเคย ยังต้องใช้เวลาปรับตัว จึงเป็นเหตุผลที่จีนแจ้งกับเราถ้าจะเก็บไว้เกิน 2 ปีจะทำให้โอกาสให้เขาไปหาคู่ได้ลดน้อยลง