กองปราบฯบุกค้นบ้านเศรษฐินีพันล้านเจ้า ของโรงเรียนนานาชาติที่ปทุมธานี ถึงผงะเจอ อาวุธสงครามอื้อซ่า
ทั้งอาก้าพับฐาน-เอ็ม 16-ปืนสั้น-ระเบิดมือ-เสื้อเกราะ ก่อนจับกุมแฟนหนุ่มของเศรษฐินีอ้างตัวเป็นเรือเอก พกบัตรกอ.รมน. กับลูกน้องอีก 3 รายในบ้านเกิดเหตุ ให้การปฏิเสธไม่รู้ปืนของใคร โบ้ยเป็นปืนของอดีตตชด.ที่เคยจ้างมาคุ้มกันเศรษฐินี ส่วนเศรษฐินีก็ไม่รู้ปืนของใคร ระบุแฟนหนุ่มอ้างตัวเป็นนายทหารเรือ เข้ามาช่วยดูแลเรื่องความปลอดภัยเพราะมีคดีฟ้องร้องกับสามีเก่าเรื่องแบ่งมรดก ตร.ไม่เชื่อตั้งข้อหาแฟนหนุ่มกับลูกน้อง สงสัยอาจเตรียมปืนไปก่อเหตุยิงถล่มอริ
เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 21 พ.ค. ที่กองปราบปราม พ.ต.อ.ประยนต์ ลาเสือ รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี ผกก.2 บก.ป. พ.ต.ท.นิรันดร์ ปิตะกาศ พ.ต.ท.สุรพงศ์ ไทยประเสริฐ พ.ต.ท.พลฑิต ไชยรส รอง ผกก.2 บก.ป. พ.ต.ต.เมธา วงศ์อนันต์นนท์ สว.กก.2 บก.ป. พ.ต.ต.วันพิชิต วัฒนศักดิ์มณฑา สว.กลุ่มงานป้องกันปราบปราม บก.ป. พร้อมกำลังนำหมายศาลเข้าตรวจค้นที่บ้านเลขที่ 99/2 หมู่บ้านมณีรินทร์ เลคแอนด์ลากูน ถ.ริมคลองประปา ต.บ้านกลาง อ.เมืองปทุมธานี เนื่องจากได้รับรายงานว่ามีการซุกซ่อนอาวุธสงครามร้ายแรง
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่พบว่าบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้าน 2 ชั้น ปลูกในพื้นที่ประมาณ 200 ตร.ว. ของน.ส.วิไลลักษณ์ วกิจเจริญพฤฒา อายุ 47 ปี หุ้นส่วนเจ้าของโรงเรียนนานาชาติสยาม ตั้งอยู่ที่ย่านคลอง 3 จ.ปทุมธานี ขณะตรวจค้นพบตัวน.ส.วิไลลักษณ์พักอยู่กับบุตรชายและบุตรสาว 3 คน นอกจากนี้ยังพบนายธนเทพ ผ่องจิตร์ อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 47/43 ม.4 ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี แฟนหนุ่มของน.ส.วิไลลักษณ์ รวมทั้งคนงานอีก 3 คน คือนายไตรสิทธิ์ สมกุลไกรรัตน์ อายุ 39 ปี นายวิวัฒน์ อมรบริรักษ์ อายุ 38 ปี และนายชาญนรงค์ หอมละออ อายุ 29 ปี
จากนั้นเจ้าหน้าที่แบ่งกำลังเข้าตรวจค้นตามจุดต้องสงสัยต่างๆ ตามที่ได้รับรายงาน ผลตรวจค้นพบอาวุธปืนเอเค 47 หรืออาก้าพับฐาน 1 กระบอก เอ็ม 16 จำนวน 1 กระบอก ลูกซองยาว 1 กระบอก ปืนสั้น 11 ม.ม. 1 กระบอก ปืนสั้น 9 ม.ม. 1 กระบอก ระเบิดสังหารเอ็มเค 2 จำนวน 1 ลูก เอ็ม 26 จำนวน 1 ลูก ระเบิดควัน 1 ลูก ประทัดยักษ์ 6 แท่ง กระสุนปืนขนาดต่างๆ 148 นัด วิทยุสื่อสาร 1 เครื่อง เสื้อเกราะกันกระสุน 4 ตัว บัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่กอ.รมน., นามบัตรของพล.ท.คนหนึ่ง, บัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่องค์การตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐในชื่อของร.อ.ธนเทพ ผ่องจิตร์ (รน.), บัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐสากล ระบุชื่อนายธนเทพ จึงเชิญตัวคนในบ้านทั้งหมดมาสอบสวน พร้อมรายงานไปยังพล.ต.ท.ไถง ปราศจากศัตรู ผบช.ก. และพล.ต.ต.วิทยา ประยงค์พันธ์ ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี
เบื้องต้นสอบสวนนายธนเทพให้การปฏิเสธ อ้างว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับอาวุธสงครามที่ตรวจค้นพบ ไม่รู้ว่าอาวุธดังกล่าวเข้ามาอยู่ในบ้านได้อย่างไร แต่เชื่อว่าอาจเป็นของชุด รปภ. จำนวน 3-4 คน เป็นอดีต ตชด.และทหารพราน ที่เคยจ้างมาคอยอารักขาน.ส.วิไลลักษณ์ เพราะแม่บ้านบอกว่าเคยเห็นคนเหล่านี้ถือกระเป๋าใบใหญ่เข้ามาในบ้าน ส่วนอีกกรณีน่าจะเกิดมีผู้ไม่หวังดี ซึ่งเป็นกลุ่มคนมีสีกลั่นแกล้งแอบนำอาวุธดังกล่าวเข้ามาซ่อนไว้ในบ้าน สาเหตุที่เชื่อว่าถูกกลั่นแกล้งเพราะที่ผ่านมาตนไม่เคยมีปัญหากับใคร จะมีก็แต่น.ส.วิไลลักษณ์ที่มีเรื่องฟ้องร้องกับอดีตสามีเรื่องแบ่งทรัพย์สิน หลังจากหย่าร้างกันตั้งแต่ปี 2550 โดยทรัพย์สินสำคัญที่ต้องแบ่งกันคือโรงเรียนนานาชาติสยามมูลค่ากว่าพันล้านบาท ซึ่งศาลธัญบุรีมีคำสั่งให้แบ่งกันคนละครึ่ง
นายธนเทพกล่าวอีกว่า ต่อมาน.ส.วิไลลักษณ์ได้เข้าไปที่โรงเรียน กลับถูกกลุ่มชายฉกรรจ์กันไว้หน้าโรงเรียน พร้อมทั้งชักปืนข่มขู่ จากนั้นไม่กี่วันมีผู้มีอิทธิพลรายหนึ่งติดต่อให้มาเจรจาที่โรงแรมริเวอร์ไซด์ เมื่อตนแสดงเอกสารต่างๆ แล้วเขารู้ว่าอะไรเป็นอะไรจึงรับปากว่าจะเจรจาให้ แต่ขอค่าดำเนินการ 6 แสนบาท แต่ยังไม่ทันได้ทำอะไรมาถูกตรวจค้นทั้งที่วันนี้ตนและน.ส.วิไลลักษณ์เตรียมจะเดินทางไปศาลธัญบุรีเพื่อยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครองฉุกเฉินกรณีการบริหารงานของโรงเรียน
ด้านน.ส.วิไลลักษณ์กล่าวว่า ไม่ทราบเหมือนกันว่าอาวุธที่พบในบ้านเป็นของใคร ปกติแล้วบ้านหลังนี้จะอยู่กันเฉพาะตนกับลูกๆ ส่วนนายธนเทพ แฟนหนุ่มเพิ่งเข้ามาอยู่ได้เพียงไม่กี่เดือน เนื่องจากอ้างว่าตัวเองเป็นนายทหารเรือ จึงไว้ใจว่าจะให้ความคุ้มครองได้ เลยให้ทำหน้าที่คอยดูเรื่องความปลอดภัย และจัดหาคนเข้ามาดูแลที่บ้าน ไม่ทราบเหมือนกันว่าใครเป็นคนนำเข้ามา
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินคดีกับนายธนเทพ พร้อมลูกน้องอีก 3 คนในข้อหาร่วมกันครอบครองอาวุธที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตได้ ร่วมกันครอบครองวัตถุระเบิดและยุทธภัณฑ์ (เสื้อเกราะ) โดยนายธนเทพยังเพิ่มข้อหามีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่งตัวให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดี อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของนายธนเทพ เพราะสงสัยว่าอาจมีการเตรียมเอาไว้เพื่อใช้ก่อคดีร้ายแรงก็เป็นได้