เอเอฟพีรายงานว่า เมื่อวันที่ 21 พ.ค. ศาลอียิปต์ในกรุงไคโร อ่านคำตัดสินประหารชีวิตนาย ฮีชัม ทาลัต มุสตาฟา มหาเศรษฐีชาวอียิปต์ เจ้าของกิจการอสังหาริมทรัพย
วัย 49 ปี กับนายโมห์เซ็น อัล ซักคารี นายตำรวจนอกราชการ ด้วยการแขวนคอ ในความผิดฐานฆาตกรรมน.ส.ซูซานน์ ทามิม นักร้องสาวคนดังชาวเลบานอน วัย 30 ปี อย่างโหดเหี้ยมเมื่อกลางปีก่อน ฝ่ายญาตินาย มุสตาฟาตกตะลึงทำใจไม่ได้กับคำพิพากษา ต่างส่งเสียงร้องไห้ บางคนถึงกับเป็นลมจนเจ้าหน้าที่ต้องหามออกจากห้องพิจารณาคดี ส่วนลูกน้องนายมุสตาฟาเข้าไปกระชากตัวและขัดขวางช่างภาพที่กรูกันเข้าไปบันทึกภาพสีหน้าจำเลย เป?นบรรยากาศอลหม่านในศาล
นายมุสตาฟามีความผิดในข้อหาจ้างวานกลุ่มตำรวจนอกราชการฆ่าน.ส.ทามิม ด้วยเงิน 2 ล้านดอลลาร์ หรือราว 70 ล้านบาท หลังจากที่พบว่านักร้องสาวปันใจไปคบหากับนักมวยชาวอิรัก โดยมีข่าวว่านายมุสตาฟาเคยเสนอเงินให้น.ส.ทามิม 50 ล้านดอลลาร์ เพื่อแลกกับการแต่งงานกับตน
ขณะที่ผู้พิพากษาอ่านคำตัดสิน ภรรยาของนายมุสตาฟาเป็นลมหมดสติ ขณะที่นายมุสตาฟามีสีหน้าตกตะลึงและสลด ส่วนนายซักคารีหน้าซีด ด้านญาติๆ ของจำเลยทั้งสองต่างร่ำไห้กันระงม ด้านหุ้นบริษัททีเอ็มจีของมุสตาฟารวงทันที 18% ทนายความจำเลยแจ้งว่าจะยื่นอุทธรณ์ต่อไป
คดีดังกล่าวถือเป็นคดีตัวอย่างที่หักล้างถึงความคลางแคลงใจในกระบวนการยุติธรรมของอียิปต์ เมื่อมหาเศรษฐีผู้ทรงอิทธิพลระดับนายมุสตาฟา ซึ่งสนิทกับลูกชายคนโตของประธานาธิบดีฮอสนี มูบารัก ถูกชำระความผิดในคดีฆาตกรรมนักร้องหญิงคนดังของอาหรับ ซึ่งเป็นข่าวใหญ่ในแดนอาหรับเมื่อเดือนกรกฎาคมปีก่อน มีผู้พบศพหญิงสาวในอพาร์ตเมนต์หรูในเมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สภาพศพถูกเชือดคอ และถูกแทงหลายแผล